ผจญภัยในรสชาติกับอาหารทะเลร่วมสมัย ในดินแดนมหัศจรรย์ของอลิซ ที่ "Alice's Rustic Seafood"
  1. ผจญภัยในรสชาติกับอาหารทะเลร่วมสมัย ในดินแดนมหัศจรรย์ของอลิซ ที่ "Alice's Rustic Seafood"

ผจญภัยในรสชาติกับอาหารทะเลร่วมสมัย ในดินแดนมหัศจรรย์ของอลิซ ที่ "Alice's Rustic Seafood"

จับอาหารทะเลนานาชนิดมาปรุงให้อร่อยในแบบฉบับของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์เมนูตะวันดกพบตะวันออก แล้วพลิกแพลงหน้าตาและสีสันของอาหารให้ต่างจากรูปแบบเดิมๆ
writerProfile
19 ส.ค. 2014 · โดย
Ad ·
สนับสนุนโดย Alice's Rustic Seafood
(รายละเอียดเพิ่มเติม)

ในนิยาย เมื่ออลิซตกลงไปในโพรงกระต่าย เธอก็ค้นพบดินมหัศจรรย์ ที่ที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น และแทบทุกสิ่งอย่างที่ได้พบเจอก็สร้างความประหลาดใจและความตื่นเต้นให้กับอลิซได้ตลอดเส้นทางเลยทีเดียว....และมันคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราได้หลงทางไปเล่นสนุกในดินแดนมหัศจรรย์แบบอลิซบ้าง

ก็ไม่ยาก...ลองแกล้งหลงทางเข้ามาผจญภัยกับอาหารอร่อยๆ ในดินแดนมหัศจรรย์ของอลิซ ที่ ร้าน "Alice's Rustic" ชั้น 2 โครงการ Qiss ซอยโรงพยาบาล 1 ถ.พระราม 4 หริือซอยรูเบีย สุขุมวิท 42 (สามารถเข้าได้สองทางคือ ถ.พระราม 4 และถ.สุขุมวิท) ที่ที่อาหารสามารถทำให้ร้องว้าวได้ทุกจาน เพราะแต่ละเมนูได้รับการเนรมิตหน้าตาและรสชาติให้แตกต่างไปจากอาหารจานเดิมที่คุ้นเคย จนรู้สึกเหมือนตกลงไปในโพรงกระต่ายไม่ต่างอะไรจากหนูอลิซในนิยายเลย

ที่ "Alice's Rustic" นำเสนออาหารทะเลในแบบร่วมสมัย และมีการนำอาหารหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ไทย ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น มาผสมผสานกันจนกลายเป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ

" อาหารแต่ละจาน จะมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ แอบซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้ เพื่อสร้างประหลาดใจเหมือนกำลังอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์"

อาหารจานหลัก

เมนูอาหารคาวของ "Alice's Rustic" เน้นเมนูที่เป็น "Share a Bite" สามารถสั่งมากินร่วมกันกับเพื่อนๆ ได้ และแน่นอนว่าเมื่ออาหารแต่ละจานมาถึง ก็จะสร้างประหลาดใจให้กับคนสั่งไม่มากก็น้อย ด้วยหน้าตา สีสัน และรสชาติของอาหารที่มีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ แอบซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้เสมอ

Crab Caesar

เริ่มที่เมนูสลัดเบาๆ กันก่อน กับ "Crab Caesar" (ราคา 290 บาท) ซีซาร์สลัดที่แอบแหวกแนวด้วยการใส่เนื้อปูต้มแกะ และชูความอร่อยด้วยไข่ดาวกรอบๆ โรยด้วยเบคอนทอดกรอบกับกรูตอง และพาร์มิซานชีส ซึ่งเมื่อคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ก็จะได้รสชาติที่เข้มข้นของชีสที่เคลือบอยู่บนไข่แดงของไข่ดาวที่หนึบๆ ส่วนไข่ขาวของไข่ดาวก็กรอบๆ แล้วบวกด้วยความกรอบของเบคอนและกรูตองเข้าไปอีก ก็ยิ่งกรอบแบบดับเบิ้ล แล้วจากนั้นความกรอบทั้งหมดก็จะถูกตัดสลับด้วยความนุ่มของเนื้อปู และรสชาติสดชื่นของผักคอส จนกลายเป็นรสชาตินัวๆ สไตล์ฝรั่ง

หอยตลับแซ่บ

ตามมาด้วยเมนูแซ่บๆ แบบไทยผสมญี่ปุ่น "หอยตลับแซ่บ" (ราคา 220 บาท) เมนูแซ่บๆ เบาๆ ที่ใช้หอยตลับตัวโตเนื้อแน่นสดหวานมานึ่งกับมะนาวและสาหร่ายวากาเมะเพิ่มความหนึบ จานนี้หอยตลับผ่านการปรุงให้สุกแบบกำลังดี ยังมีน้ำและความชุ่มชื้นอยู่ แถมในเนื้อหอยยังดูดซับรสชาติแซ่บๆ ของพริกและมะนาวที่ใช้ปรุงรสเข้าไปจนเต็มอิ่ม เมนูนี้จึงเป็นเมนูหน้าตาเรียบง่ายที่อร่อยถึงใจจริงๆ

Pink Carbonara

เมนูต่อมา เป็นเมนูที่มีสีสันต่างไปจากของดั้งเดิม นั่นคือ "Pink Carbonara" (ราคา 240 บาท) เมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมสปาเก็ตตี้คาโบนาราจะต้องเป็นสีขาวเท่านั้นด้วยล่ะ....สปาเก็ตตี้คาโบนาราจะเป็นสีชมพูไม่ได้เหรอ?....คำตอบ คือ ได้สิ...ที่ "Alice Rustic" ถ้าเราเพียงแค่ใส่บีทรูทลงไป ก็จะได้สปาเก็ตตี้คาโบนาราที่ชุ่มช่ำไปด้วยน้ำซอสสีชมพูอันหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นชีส แล้วเพิ่มความอร่อยด้วยกุ้งเนื้อแน่นๆ ที่ก็กลายเป็นสีชมพูไปด้วย....เมนูนี้ทำให้คิดได้ว่า แค่เปลี่ยนสีของอาหาร จากสีเดิมตามปกติของอาหารจานนั้น ไปเป็นสีอื่นๆ ที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ทำให้อารมณ์และความรู้สึกที่ได้จากอาหารจานนั้นเปลี่ยนตามไปด้วย

Fish & Chips

จากนั้นมาต่อกันที่เมนู "Share a Bite" ที่พอร์ชั่นใหญ่สำหรับหลายคน เหมาะจะสั่งมากินด้วยกันกับเพื่อนๆ อาทิ "Fish & Chips" (ราคา 320 บาท) เมนูง่ายๆ ของชาวอังกฤษ ที่คนทั่วโลกต่างหลงรัก ซึ่งที่ "Alice's Rustic" ก็นำมาเสิร์ฟในแบบของตัวเอง ด้วยการใช้ปลากะพงชิ้นหนานุ่มชุบแป้งทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมมันทอดที่ผสมกับพริกเกลือแล้วนำไปทอดจนกรอบ จิ้มกับซอสที่มีให้เลือก 3 ชนิด คือ ซอสวาซาบิมายองเนส โฮมเมดเคทชัปที่โด่นเด่นด้วยกลิ่นหอมของโรสแมรี่ และ ซอสกริบิช (Sauce Gribiche เป็นซอสมายองเนสที่ผสมกับไข่ต้มจนข้น) พร้อมด้วยน้ำส้มสายชูกลิ่นหอมแดงย่าง และเลมอนไว้พรมลงบนชิ้นปลา

Seafood Saffron Rice

ต่อมาเป็น "Seafood Saffron Rice" (ราคา 880 บาท) ข้าวอบทะเลกระทะใหญ่เบ้อเร่อ เมนูนี้เป็นเมนูที่ประยุกต์มาจาก "ปาเอญ่า" หรือ "ข้าวผัดสเปน" แต่ดัดแปลงมาใช้ข้าวไทยแทน เพื่อให้ได้ข้าวที่เม็ดร่วนซุยเคี้ยวเพลินมากขึ้นเมื่ออบกับบรรดาซีฟู้ดต่างๆ ที่ระดมใส่มาจนล้นปรี่ ทั้งหอยแมลงภู่ กุ้ง ปลาหมึก หอยตลับ และสามารถอร่อยกับเมนูนี้ได้ถึงสองแบบ ถ้าอยากได้รสชาติสไตล์ฝรั่ง ก็กินข้าวกับซีฟู้ดแบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม เพราะตัวข้าวผ่านการปรุงรสชาติมาอย่างดีแล้ว แต่ถ้าอยากได้รสชาติแซ่บๆ สไตล์ไทยๆ ก็ต้องกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสีชมพูสวยหวานแต่แฝงความแซ่บเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดเอาไว้ ซึ่งน้ำจิ้มซีฟู้ดนี้จะใส่ผงวุ้นลงไปทำให้ข้น เพื่อให้น้ำจิ้มเกาะข้าวได้ดีขึ้น

พิซซ่าเห็ด - กระเฉด

และสุดยอดความมหัศจรรย์ของการสร้างสรรค์ คงต้องยกให้เมนูนี้ "พิซซ่าเห็ด - กระเฉด" (ราคา 390 บาท) พิซซ่าสองหน้า ที่หน้านึงประยุกต์เอาผักแบบไทยๆ อย่าง "ผักกระเฉด" และ "เห็ดพอร์โทเบลโล" มาทำเป็นท้อปปิ้งพิซซ่า แล้วโรยด้วยเมล็ดสนกรุบกรอบ เท่านั้นยังไม่พอ พิซซ่าอีกหน้านึงก็ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการใช้ "น้ำพริกอ่อง" มาเข้าคู่กับไส้กรอกหมูโฮมเมดที่เจ้าของร้านไปเลือกเฟ้นของดีมาจากหัวหินกันเลยทีเดียว....เมนูนี้ฟังชื่อตอนแรกอาจจะไม่กล้าสั่ง เพราะคิดว่ามันไม่น่าจะเข้ากัน....ผักกระเฉดกับพิซซ่าเรอะ! น้ำพริกอ่องกับพิซซ่าเรอะ! แต่เมื่อได้ลองชิมดูแล้ว จะพบว่ารสชาติของสิ่งที่ไม่เข้ากันเหล่านี้ กลับเข้ากันได้ดีอย่างประหลาด และผักกระเฉดก็ไม่ได้เหนียวอย่างท่ีคิด เพราะเค้าใช้เฉพาะยอดเท่านั้น เด็ดให้ได้ยอด 3 ครั้ง ผักกระเฉดบนหน้าพิซซ่าจึงนุ่มเข้ากันได้ดีกับเห็ดพอรืโทเบลโลและไส้กรอกกับน้ำพริกอ่อง

"ของหวานแสนซุกซนที่สร้างความตื่นเต้นด้วยรูปลักษณ์และรสชาติอันหลากหลาย"

ของหวาน

Alice Garden

เมื่อเดินทางผ่านเส้นทางสายหลักอย่างอาหารคาวกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาเลี้ยวออกนอกเส้นทางไปสู่ทางเดินเส้นเล็กๆ อย่างของหวานที่ระหว่างทางมีความสวยงามให้ดู และมีรสชาติอร่อยๆ ให้เพลิดเพลินไม่แพ้เส้นทางสายหลัก

ด้วยเหตุนี้เราจึงเดินทางออกจากเส้นทางหลักมาสู่สวนน้อยแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า "Alice's Garden" (ราคา 220 บาท)ของหวานที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก "Eton Mess" ของหวานสไตล์อังกฤษ ซึ่ง Dessert ที่มีชื่อว่า "Alice's Garden" จานนี้สามารถนำเสนอความเป็นดินแดนมหัศจรรย์ของ "อลิซ" ได้อย่างครบถ้วนในจานเดียว เพราะเป็นของหวานที่รวมของอร่อยหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกันจนเพลิน โดยมีนางเอกเป็น "เมอแรงก์" ที่ทำเป็นรูปโคนเห็ดโรยด้วยผงโกโก้ แล้วตกแต่งด้วยเชอร์รี่เจล ช็อกโกแลต ตามด้วยผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กับขนมมาร์ชเมลโลชิ้นน้อย แล้วเสริมด้วย "แตงโม - จินโทนิคกรานิต้า" และ "สับปะรด - มาลิบูซอร์เบต์" ทุกส่วนประกอบถูกใส่เข้ามาอย่างละนิดอย่างละหน่อย ทำให้ของหวานจานนี้แลดูเหมือนป่าน้อยๆ ที่ "อลิซ" เดินหลงเข้าไป จนเจอกับความมหัศจรรย์อย่างไรอย่างนั้นเลย

"เล่นสนุกกับรสชาติของเครื่องดื่มต่างๆ ที่จับโน่นมาผสมนี่ แม้ว่าจะเป็นของที่ดูไม่เข้ากันเลยก็ตาม"

เครื่องดื่ม

และการมาเยือนดินแดนมหัศจรรย์ของเราจะไม่สมบูรณ์เลย หากเราไม่ลองเล่นสนุกไปกับรสชาติของเครื่องดื่มต่างๆ กันสักนิดสักหน่อย เพราะที่ "Alice Rustic" มิกโซโลจิสต์ได้สร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งม็อกเทลและค็อกเทลได้อย่างน่าสนใจและน่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง

Passion Fruit $ Sun-Dried Banana Iced Tea

สำหรับคนที่ชอบรสชาติสดชื่นของผลไม้ ต้องลองผจญภัยกับรสชาติของเครื่องดื่ม 2 แก้วนี้ "Passion Fruit $ Sun-Dried Banana Iced Tea" (ราคา 120 บาท) ปลุกความสดชื่นระหว่างวันง่ายๆ ด้วยส่วนผสมของผลไม้อย่างเสาวรสและชาคาราเมล ที่หอมเย็นชื่นใจและให้รสเปรี้ยวอมหวานผสมผสานกับรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเสาวรส แล้วเพิ่มรสชาติที่สามเข้ามาให้คอนเทราสต์กับเสาวรส ด้วยการใส่ "กล้วยตาก" ลงไป ทำให้ได้เทกซ์เจอร์ของเนื้อกล้วยตากและได้รสชาติลับๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเครื่องดื่มสีส้มแก้วนี้

Lychee & Passion Fruit Soda

อีกแก้วหนึ่ง คือ "Lychee & Passion Fruit Soda" (ราคา 90 บาท) โดดเด่นด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวและกลิ่นหอมของลิ้นจี่ แทรกด้วยความเปรี้ยวลงตัวของเสาวรส และซาบซ่าด้วยโซดาเย็นๆ เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหาย และให้ความรู้สึกเหมือน "อลิซ" กำลังหนีไปพักร้อนอยู่ชายทะเล

Drink Me Toblerone
Cha Yen Madness

อีก 2 แก้วต่อมาเหมาะกับคนที่ชอบความเซอร์ไพรส์ เมื่อรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็น เป็นคนละแบบกับสิ่งเป็นจริงๆ "Drink Me Toblerone" (ราคา 195 บาท)เป็นเครื่องดื่มที่สร้างความฉงนเล็กน้อย เมื่อเห็นเครื่องดื่มสีชมพูหวานแหววเสิร์ฟมาในขวดนม เพราะเดารสชาติของมันไม่ถูก ว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่เพียงได้จิบเข้าไปครั้งแรก ก็พบว่ามันเป็นความขัดแย้งที่ลงตัวของเครื่องดื่มเด็กๆ อย่าง"นม" และ เครื่องดื่มของผู้ใหญ่อย่าง "คาลัวร์" (เหล้าหวานผสมสารสกัดจากกาแฟ) แล้วเพิ่มความหวานมันเข้มข้นเข้าไปอีกนิด ด้วย "เฮล บลูบอย" และ "เฮเซลนัท" เวลาจิบจะได้ทั้งรสชาติแบบนมๆ ผสมกับรสเหล้าสุดซาบซ่าน และความมันของเฮเซลนัทบวกเข้สกับกล่ินน้ำหวานหอมๆ ของเฮล บลูบอย เหมือนกับจะบอกเราว่า ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ก็สามารถพาตัวเองเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ของเด็กๆ อย่าง "อลิซ" ได้

ปิดท้ายด้วย "Cha Yen Madness" (ราคา 195 บาท) ที่ดูเผินๆ เหมือนชามะนาวเย็นทั่วไป แต่ที่จริงเครื่องดื่มแก้วนี้เป็นส่วนผสมของ "Triple Sec" หรือเหล้ารสส้ม และ "คาลัวร์" กับ "จินโทนิค" เเล้วเพิ่มความหอมและรสเปรี้ยวด้วยมะนาว เป็นเครื่องดื่มดูเหมือนจะรสชาติเบาๆ แต่ที่จริงก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน

และสุดท้าย เมื่อท่องเที่ยวมาจนทั่วแล้ว ก่อนกลับหากใครอยากผ่อนคลายด้วยเครื่องดื่มเบาๆ ที่ดีต่อสุขภาพ หรือยากละลายไขมันหลังอาหาร ที่ "Alice Rustic" ก็มีชาเบลนด์ชั้นดีให้เลือกหลายชนิดที่สั่งมาจากร้าน "Sense Tea Studio" ซึ่งเป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเบลนด์ชาได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งตัวที่แนะนำให้สั่งมาดื่มหลังอาหาร คือ "Weight Control Blend" (ราคา 160 บาท) ชาอู่หลงที่เบลนด์กับดอกอัญชันและลาเวนเดอร์ ซึ่งดอกอัญชันทำให้ชาเป็นสีน้ำเงินสวยงามเหมือนน้ำทะเล และยังมีสรรพคุณช่วยขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่วนลาเวนเดอร์ก็ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ และมีสรรพคุณในการช่วยผ่อนคลาย ช่วยให้หลับง่าย

ชาจากร้าน "Sense Tea Studio"
Weight Control Blend

สำหรับชาจะเสิร์ฟมาเป็นเซ็ต โดยในเซ็ตจะมีนาฬิกาทรายมาให้ด้วย.....เอานาฬิกามาให้ทำไม?.....คำตอบ คือ ก็เพื่อจับเวลาการแช่ถุงชาในน้ำร้อนนั่นเอง เพราะถ้าแช่นานเกินไป ชาที่ได้อาจจะขม หรือถ้าแช่เร็วเกินไป รสชาติและสรรพคุณต่างๆ ก็อาจจะยังออกมาได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น เมื่อนาฬิกาหมดไปหนึ่งด้านแล้ว ก็เอาถุงชาออกจากกาได้เลย และถ้าหากอยากเติมน้ำ ก็สามาถเติมได้สองครั้ง ถ้าเกินจากนี้ ชาจะเจือจางจนไม่เหลือกลิ่นและรสของชาสักเท่าไหร่

ชาสีฟ้าอมน้ำเงินกลิ่นหอมชื่นใจ

เมื่อจบการเดินทางและการผจญภัยกับอาหารและเครื่องดื่มรสชาติมหัศจรรย์กันแล้ว ก็ถึงเวลาออกไปสู่โลกภายนอกกันอีกครั้ง โดยไม่ลืมที่จะหมายมั่นเอาไว้ว่า อีกไม่นาน "อลิซ" จะแกล้งหลงทางมายังดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้ง!

แผนที่

ข้างโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
static-map

การติดต่อ

restaurantClosed
Alice’s Garden สวนของอลิซ
Phone number : 02-339-3848-9
สุขุมวิท 42 โครงการ Qiss Mall ชั้น 2 ซอยโรงพยาบาล 1 ถนนพระราม 4Qiss Mall,คลองเตย
ประเภท