ยามเย็นหลังเลิกงาน บางครั้งการนั่งสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนๆ ก็มีความหมายมากๆ เพราะถือเป็นการปลดเปลื้องความเครียดและความเหนื่อยล้าจากงานที่ทำมาตลอดทั้งวัน แต่ในบางครั้ง หากอยากจะนั่งแฮงก์เอาท์กับเพื่อนๆ ไปพร้อมๆ กับการกินอาหารอร่อยๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย เพราะๆ หลายผับหรือบาร์ อาจไม่ได้มีเมนูอาหารที่อร่อยและน่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับที่ที่เป็นร้านอาหารโดยตรง และบาร์ส่วนใหญ่ก็อาจจะเน้นไปที่เครื่องดื่มและบรรยากาศมากกว่า
แต่หากอยากได้สองวัตถุประสงค์ในหนึ่งเดียว ทั้งนั่งแฮงก์เอาท์และได้กินอาหารอร่อยๆ ก็ต้องลองเลี้ยวมาที่ “Badmotel” ปากซอยทองหล่อ 15 (เจ อเวนิว) ร้านอาหารกึ่งบาร์ ที่มีทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งบรรยากาศคึกคักเหมือนกลางคืนเป็นกลางวัน เคล้าด้วยเสียงเพลงมันส์ๆ จากดีเจประจำถึง 7 คน ที่จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเปิดแผ่นตลอดทั้งสัปดาห์ และหนึ่งในนั้นก็มี “Dj Lingdum” ดีเจเปิดแผ่นชื่อดัง ที่จะมาสร้างสรรค์เสียงเพลงมันส์ๆ ชวนให้โยกตัวตาม แกล้มกับอาหารอร่อยๆ น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมเครื่องดื่มคูลๆ ที่จะมาช่วยเติมเต็มค่ำคืนแห่งการแฮงก์เอาท์ให้สนุกสนาน และเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง
เมนูผสมผสาน แปลกใหม่น่าลอง
สำหรับเมนูอาหารของ “Badmotel” นั้น ไม่ได้มาแบบธรรมดาๆ ที่หาได้ตามร้านอาหารทั่วไป แต่เป็นเมนูอาหารที่ผ่านการคิด การครีเอทมาแล้ว ให้กลายเป็นเมนูที่ผสมผสานสิ่งต่างๆ ที่ดูเหมือนจะมาจากคนละที่ แต่กลับเข้ากันได้อย่างลงตัว บางเมนูก็เป็นตะวันตกพบตะวันออก บางเมนูก็เป็นการนำอาหารที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มานำเสนอใหม่ให้น่าสนใจขึ้น
เริ่มที่เมนูแรก เป็นเมนูที่คุ้นเคยกันดี แต่ผ่านการปรุงรสชาติให้พิเศษขึ้น และเสิร์ฟมาในภาชนะที่ช่วยให้อาหารดูน่าค้นหามากขึ้น กับเมนู “กุ้งอบวุ้นเส้น” (ราคา 320 บาท) เปลี่ยนรสชาติของกุ้งอบวุ้นเส้นที่คุ้นเคยให้อร่อยเข้มข้นกว่าเดิม ด้วยการผสมนมสดคาร์เนชั่นลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นหอมมัน นอกเหนือไปจากการปรุงรสด้วยซอสปรุงรสต่างๆ ตามปกติ จากนั้นก็อบวุ้นเส้นพร้อมกุ้งกุลาดำไซส์ใหญ่เนื้อเหนียวนุ่มสู้ฟัน และเติมคึ่นช่ายกับพริกไทยดำสดลงไป เพื่อช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติที่ซับซ้อนมากขึ้น เป็นเมนูง่ายๆ ที่จะกินเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเพื่อเพิ่มความแซ่บก็ย่อมได้
ตามมาด้วย “Roti, Panang, Grilled Rib - Eye” (ราคา 280 บาท) โรตีพะแนงเนื้อริบ-อาย เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว ด้วยการประยุกต์เมนูไทยๆ อย่าง “พะแนง” เข้ากับอาหารแขกอย่าง “โรตี” และใช้วัตถุดิบชั้นดีอย่างเนื้อริบ-อาย นุ่มๆ ที่นำไปย่างจนหอม แล้วนำมาเคี่ยวกับเครื่องแกงพะแนงจนเข้าเนื้อ โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว รสชาติของน้ำแกงพะแนงเข้มข้นหวานมัน ผสานกับความนุ่มอร่อยของเนื้อริบ-อาย และความกรอบนอกนุ่มในของแป้งโรตี เป็นความอร่อยที่แสนจะเข้ากันจริงๆ
ส่วนอีกสองเมนูต่อมาเป็นเมนูที่จับเอาอาหารตะวันตกมาพบกับตะวันออกได้อย่างลงตัวที่สุด นั่นคือ “ฟัวกราส์ไข่ลูกเขย” (ราคา 350 บาท) เป็นการจับคู่กันระหว่างหนี่งในวัตถุดิบของอาหารฝรั่งเศสที่คุ้นเคยกันดีอย่าง “ฟัวกราส์” ที่นำมาเซียร์ผิวด้านนอกจนกรอบ แต่เนื้อด้านในยังคงนุ่มละลายในปาก และรสชาติออกไปทางเค็มๆ มันๆ กับ “น้ำซอสไข่ลูกเขย” ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานตัดกันได้ดีกับความเค็มมันของฟัวกราส์ แถมยังหอมกลิ่นหอมแดงเจียวและพริกแห้งทอดด้วย ยิ่งถ้าได้กินพร้อมกับไข่ลูกเขยที่ทอดจนผิวด้านนอกกรอบ ก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นอีกเท่าตัว
อีกจานคือ “พาสต้าปลาเค็ม” (ราคา 220 บาท) พาสต้าจานนี้สีสันสดใสแสบตา เพราะเป็นเส้นลิงกวินี่เหนียวนุ่ม ที่นำมาผัดกับอาราเบียตต้า ซอส (Arrabbiata Sauce) สีแดงแรงฤทธิ์ ปลาเค็มและมะเขือเทศเชอร์รี่ แล้วเพิ่มความหอมด้วยพริกแห้งและใบโหระพา พร้อมสร้างสรรค์รสชาติที่แตกต่างในจานเดียวกัน ด้วยการเสิร์ฟพร้อมกับผักร็อกเก็ตสดๆ ที่ตัดกันได้ดีกับรสชาติๆ เปรี้ยวๆ ของพาสต้า
แต่ละเมนูของ “Badmotel” สามารถสร้างความแปลกใจได้ตั้งแต่ตอนสั่งอาหาร ด้วยชื่อของเมนูต่างๆ ที่ชวนให้ฉงนสงสัยว่าจะออกมามีหน้าและรสชาติอย่างไร ยิ่งเมื่ออาหารถูกยกมาเสิร์ฟ ก็จะตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นไปอีก และเมื่อได้ตักอาหารเข้าปากคำแรก รสชาติที่แปลกแต่อร่อยลงตัวก็จะสร้างความสุขและความตื้นเต้นให้กับอาหารจานนั้นได้แบบไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เครื่องดื่มสุดคูล และเบียร์สารพัดชนิดให้เลือกอย่างจุใจ
และเมื่ออร่อยกับอาหารนานาชนิดแล้ว แน่นอนว่าอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศครึกครื้นเฮฮาให้กับวงสนทนาได้มากขึ้น ซึ่งที่ “Badmotel” ก็มีให้เลือกทั้งค็อกเทลรสชาติแปลกใหม่หลายเมนู และเบียร์หลากหลายยี่ห้อจากต่างประเทศ รวมทั้งเบียร์คอลเลคชั่นพิเศษอย่างเบียร์ประเภท “Microbrewery” ซึ่งเป็นเบียร์ที่ไม่ได้ผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีวันหมดอายุค่อนข้างสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน และผลิตในจำนวนจำกัด เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในต่างประเทศ จึงเป็นเบียร์ที่มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวกว่าเบียร์ที่ผลิดแบบอุตสาหกรรม
ส่วนค็อกเทลก็มีให้เลือกหลายเมนูไม่ต่างกัน โดยเฉพาะสาวๆ น่าจะถูกใจเมนูเครื่องดื่มของที่นี่ไม่น้อย เพราะหลายๆ แก้ว ครีเอตรสชาติให้มีความสดชื่นของผลไม้ผสมอยู่ด้วย เช่น “Kiwi Apple Vojito” (ราคา 280 บาท) ที่ช่วยคืนความสดชื่นด้วยรสชาติใสๆ เปรี้ยวอมหวานจากกีวี และหอมกลิ่นมินท์จางๆ เป็นเครื่องดื่มที่ไม่เพียงดื่มแล้วช่วยให้สดชื่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังอร่อยด้วย
แต่ถ้าต้องการค็อกเทลที่รสชาติร้อนแรงขึ้นมาอีกหน่อย ก็ต้อง “Mint Julep” (ราคา 285 บาท) ค็อกเทลแก้วนี้แม้จะมีน้ำแข็งเย็นๆ เกาะพราวไปทั้งแก้ว แต่รสชาติกลับร้อนแรงด้วยฤทธิ์ของเบอร์เบิ้นที่ผสานกับความหอมสดชื่นใบมินท์
หากกำลังมองหาสถานที่นัดรวมตัวกันหลังเลิกงานกับผองเพื่อน หรือแม้กระทั่งกับคนรัก ร้าน “Badmotel” ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ควรจะเก็บเอาไว้ในลิสต์ร้านที่ต้องไป ร้านที่อยากไป และร้านที่ต้องไปซ้ำ!