บางครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีเวลาเพียงแค่เสาร์ - อาทิตย์เท่านั้น ก็อาจจะไม่มากพอให้หลบไปเที่ยวยังต่างจังหวัดไกลๆ ได้ แต่ครั้นจะให้ทนอุดอู้อยู่แต่ในเมืองใหญ่ทุกวันหยุด ก็อาจจะน่าเบื่อเกินไปสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นเราลองเปลี่ยนมามองหาที่พักที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กันดีกว่า เอาชนิดที่ขับรถแค่เพียง 1-2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว
และหนึ่งในชัยภูมิที่ดีที่สุดของการหลบลี้หนีไปพักร้อนแบบระยะใกล้ของคนกรุง ก็คงไม่พ้น "เขาใหญ่" อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะบรรยากาศดีและอากาศดีสุดๆ เนื่องจากมีป่าไม้และภูเขาเขียวขจีล้อมรอบแล้ว การเดินทางก็ยังสะดวกง่ายดายอีกด้วย เพราะแค่ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องขึ้นเขาลงห้วยใดๆ เดี๋ยวเดียวก็ถึงเขาใหญ่แล้ว!
ยิ่งตอนนี้ที่ "เขาใหญ่" มีโรงแรม "เอสเคป เขาใหญ่" โรงแรมในเครือแสนสิริ ที่รังสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ กับห้องพัก 4 บรรยากาศ คือ Earth, Wood, Forest และ Floral ที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของป่าเขาเขียวขจี และอากาศบริสุทธิ์สดชื่นให้เลือกเข้าพักได้ในราคาที่ไม่แพงเกินไป
“ห้องอาหารภายใต้แนวคิด Farm to Table ที่ใช้ผักปลอดสารพิษสดๆ ส่งตรงจากฟาร์มของโรงแรม”
และไม่เพียงแต่จะเป็นที่พักบรรยากาศดีที่เหมาะแก่การหลบลี้หนีความวุ่นวายมาพักผ่อนเท่านั้น แต่ที่โรงแรม "เอสเคป เขาใหญ่" ยังมีห้องอาหารแนวคิดธรรมชาติอย่าง "Green Oak" เป็นอีกหนึ่งที่ให้หลบมาผ่อนคลายกับอาหารอร่อยๆ ในแนวคิดแบบ "Farm to Table" ที่ทุกเมนูของห้องอาหารปรุงขึ้นโดยใช้ผักปลอดสารพิษส่งตรงจากฟาร์มของโรงแรมเองที่อยู่ไกล้ๆ กัน จึงได้ผักที่สดกรอบ และมั่นใจได้ว่าคลีนจริงๆ 100%
“คลีนร่างกายด้วยอาหารที่ใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ”
อาหารจานหลัก
หากใครอยากจะมาล้างพิษ มาฟื้นฟูสุขภาพ ถ้ามาที่ "Green Oak" ก็รับรองไม่ผิดหวัง เพราะอาหารแทบทุกจานของ "Green Oak" ล้วนมีผักสดๆ เป็นส่วนประกอบแทบทั้งสิ้น อาทิ "Escape Salad" (ราคา 240 บาท) ผักสดๆ นานาชนิดจากฟาร์มผักของโรงแรมที่นำมาเสิร์ฟทั้งแบบสดและย่าง อาทิ มิซูน่า เรดโอ๊คกรีนโอ๊ค บร็อคโคลี แอสพารากัส พริกระฆัง ซุกินี และเห็ดเข็มทอง ท้อปปิ้งด้วยไข่เค็มที่ยีจนละเอียด เสิร์ฟพร้อมน้ำมันมะกอกและน้ำส้มบัลซามิก
หรือ "DIY Spicy Salmon Salad" (ราคา 280 บาท) เมนูเมี่ยงแบบฟิวชั่นที่เสิร์ฟยำปลาแซลมอนหั่นเต๋ารสจัดมาในกระหล่ำปลีม่วง พร้อมน้ำเมี่ยงรสแซ่บทะลวงใจ และเครื่องเคียงนานาชนิดที่เป็นพืชผักสมุนไพร เช่น ถั่วลิสงคั่ว มะนาวหั่นชิ้นเล็ก ขิง หอมแดง ตะไคร้ซอย และพริกซอย เมนูนี้อร่อยง่ายๆ แค่เพียงห่อเครื่องเคียงทั้งหมดและยำปลาแซลมอนด้วยผักคอสหรือเรดโอ๊คกรีนโอ๊คที่เสิร์ฟมาคู่กัน แล้วราดด้วยน้ำเมี่ยงรสจัดจ้าน ก็จะสัมผัสได้ถึงรสชาติความอร่อยอันหลากหลายเมื่อส่วนผสมทุกอย่างรวมตัวกันอยู่ในปาก
ตามมาด้วยเมนูรสจัดอีกสักสองเมนู กับ "Escape Grilled Chicken" (ราคา 280 บาท) ไก่ย่างเอสเคปเนื้อหนานุ่มชุ่มลิ้น หนังบางกรอบ เสิร์ฟพร้อมส้มตำรสจัด และน้ำจิ้มแจ่ว พร้อมด้วยข้าวเกรียบกรอบๆ ไว้กินคู่กัน หรือจะลอง "Spicy Escape Ham Salad" (ราคา 220 บาท) ยำแฮมเอสเคป แฮมสูตรเฉพาะตัวที่มีเนื้อนุ่มละมุน นำไปกริลล์จนหอม แล้วคลุกเคล้ากับหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศ ราดด้วยน้ำยำรสแซ่บจัดจ้านสไตล์ไทยๆ เสิร์ฟคู่กับผักคอสและเรดโอ๊ค
ปิดท้ายด้วย "Stir Fried River Prawn with Mango Sauce" (ราคา 350 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวขนาดกำลังดี กริลล์ให้สุกปานกลาง ราดด้วยซอสมะม่วงรสเปรี้ยวอมหวานที่ผัดมากับขิงสับ พริกหวานหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และเม็กพริกไทยสด เป็นจานที่ให้รสชาติสดชื่นในปาก ด้วยความอร่อยกลมกล่อมลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อของซอสมะม่วงรสเปรี้ยวกับสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอย่างขิงและเม็ดพริกไทยสด
“ดื่มด่ำกับรสชาติสดชื่นของขุนเขา”
เครื่องดื่ม
และเพิ่มรสชาติความอร่อยของอาหารให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรเฉพาะของ "Green Oak" ที่แม้จะมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกไม่มากนัก แต่รับรองว่าเด็ดขาดทุกเมนู
สำหรับคนที่ชอบรสชาติหวานหอมแบบธรรมชาติ ลอง "Escape Signature Grape Martini" (ราคา 300 บาท) ค็อกเทลสีม่วงเข้ม ที่ผสมผสาน "Absolute Vanilla" กับ "St.Remy Brandy XO" และองุ่นม่วง ให้รสชาติหวานหอมแต่ก็ยังคงความเข้ม
ส่วนคนที่ชอบรสชาตินุ่มๆ สุขุมลุ่มลึก ก็น่าจะเหมาะกับ "Wild Honey Old-Fashioned" (ราคา 300 บาท) ค็อกเทลสีเหลืองอำพันที่เป็นการผสมผสานของ "Jack Daniel's Tennessee Honey" กับ "Canadian Club Honey" และ "Sunkist Zest" แล้วตกแต่งให้สวยงามน่าดื่มด้วยรังผึ้งชิ้นน้อย เป็นเครื่องดื่มที่จะหลอกให้ตายใจด้วยรสชาติและกลิ่นอันหอมหวานของน้ำผึ้ง แต่ก็ซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ภายในด้วยรสชาติที่ร้อนแรงของวิสกี้ Jack Daniel's
และเครื่องดื่มแก้วสุดท้าย "Escape to Sangria" (ราคา 300 บาท) เหมาะกับคนที่ชอบความสดชื่นซาบซ่า ด้วยรสชาติที่แซมความเปรี้ยวอมหวานของผลไม้อย่าง แอปเปิ้ลและมะนาว เข้ากับเหล้าค็อกเทล "Mandrin Vodka" และ "Ginger Cordial" จนได้รสชาติที่สดชื่นของขุนเขามาช่วยสร้างความเฟรชให้กับค็อกเทลแก้วนี้อย่างลงตัว
“Homemade Dessert ทำเองสดใหม่ทุกวัน”
ของหวาน
ปิดท้ายด้วยของหวานรสชาติละมุนละไมที่ห้องอาหาร "Green Oak" ทำสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน เช่น "Brownie" (ราคา 140 บาท) บราวนี่หน้ากรอบแต่ข้างในแสนนุ่ม และยังอบอวลไปด้วยรสชาติของช็อกโกแลตหวานมันลงตัว เสิร์ฟพร้อมครีมสดที่หากตักกินเข้าไปพร้อมๆ กันกับบราวนี่ จะยิ่งเพิ่มความอร่อยเข้มข้นอย่างสุดๆ
แต่หากชอบรสชาติเบาๆ แบบผลไม้ ก็ต้อง "Panna Cotta" (ราคา 140 บาท) พันนาคอตต้ารสชาติหวานมันนุ่มละมุน เสิร์ฟพร้อมสตรอเบอร์รี่สดและมูสโยเกิร์ตเปรี้ยวอมหวานกำลังดี เป็นเมนูที่ช่วยเรียกความสดชื่นให้คืนกลับมา
“แวะมากินอาหารจากธรรมชาติ ท่ามกลางวิวต้นไม้และป่าเขาเขียวขจีที่รายล้อมอยู่รอบตัว”
แม้ไม่ได้มาพักที่ "เอสเคป เขาใหญ่" ก็ยังสามารถแวะมากินอาหารคลีนๆ จากธรรมชาติ ท่ามกลางวิวต้นไม้และป่าเขาเขียวขจีที่รายล้อมอยู่รอบตัวที่ "Green Oak" ได้ตั้งแต่เช้าจนถึงดึก เพราะที่ "Green Oak" เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.30 - 23.00 น. แถมยังเสิร์ฟอาหารเช้าเรื่อยไปจนถึงเวลา 14.00 น. อีกต่างหาก ลองจัดตารางเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับทริปสั้นๆ แวะมากินอาหารอร่อยและผ่อนคลายสบายใจที่ห้องอาหาร "Green Oak" โรงแรม "เอสเคป เขาใหญ่"
website: www.escape-hotel.com
Facebook: www.facebook.com/escapehotels
IG: escapehotels
โรงแรมเอสเคป เขาใหญ่