เวลาที่มองหาร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นหรือร้านยากินิคุ สิ่งแรกที่ผู้คนมักจะคำนึงถึง ก็คือ "ร้านนี้มีเนื้ออะไรให้ทานบ้าง” เพราะแต่ละร้านก็มีเนื้อวัวหลากหลายแบบแตกต่างกันออกไปให้เลือก เนื้อจากญี่ปุ่นบ้าง เนื้อจากออสเตรเลียบ้าง หรือเป็นเนื้อไทยบ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยว่า ชอบเนื้อชนิดไหน แต่ส่วนใหญ่แล้ว เนื้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการกินปิ้งย่าง คือ เนื้อญี่ปุ่น ซึ่งก็มีมากมายหลากหลายชนิดจนเลือกไม่ถูก และหลายๆ คนก็อยากลิ้มลองเนื้อชั้นเลิศคุณภาพดีสักครั้งบ้างเหมือนกัน....แล้วร้านไหนบ้างที่มีเนื้อญี่ปุ่นชั้นเลิศให้ลิ้มลอง?ที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ร้านปิ้งย่างแบบ a la carte (ไม่มีบุฟเฟต์) คุณจะได้พบกับ "เนื้อโอมิวากิว/Omi Wagyu" (220 กรัม ราคา 2,300 บาท / 110 กรัม ราคา 1,200 บาท) เนื้อวากิวที่ติดอันดับหนึ่งในสามของเนื้อวากิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดชิงะ และยังเป็นเนื้อวากิวที่เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง "Monde Selection" มาแล้วถึง 2 ปีซ้อน
เนื้อโอมิ วากิว
เนื้อโอมิ วากิว (ลูกเต๋า)"โอมิ วากิว" เป็นเนื้อที่มาจากวัวสายพันธุ์พิเศษที่ถูกเลี้ยงที่จังหวัดชิงะ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ และมีน้ำสะอาดจากทะเลสาบ “บิวะ” ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มาใช้ในการเลี้ยงวัว ทำให้เนื้อไม่มีกลิ่นเหม็นสาบ และมีลายไขมัน (marbling) ที่สวยงามและมีปริมาณมาก แถมยังเป็นเนื้อที่มีไขมันชั้นดีที่มีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าเนื้อปกติทั่วไป โดยอยู่ที่อุณหภูมิ 24.8 องศาเซลเซียส ไขมันของเนื้อ “โอมิ วากิว” จึงสามารถละลายได้ง่ายเมื่อโดนความร้อน ทำให้ไขมันที่แทรกซึมอยู่ในชั้นเนื้อละลายมาเคลือบชินเนื้อได้อย่างทั่วถึง แม้ย่างเพียงนิดเดียว เนื้อชนิดนี้จึงไม่ควรย่างนานเกินไป เพราะไขมันจะละลายหายไปจนหมด และทำให้เนื้อแข็ง
ฮอกไกโด วากิว (จานละ 1,700 บาท)
JO ROOSU เนื้อสันในพิเศษ(จานละ 230 บาท)
TAN ลิ้นวัว หมักเกลือ (จานละ 240 บาท)
Tokujo Roosu/เนื้อสันในอย่างดีพิเศษ" (จานละ 280 บาท)
Tokujo Karubi /เนื้อติดกระดูกอย่างดีพิเศษ" (จานละ 280 บาท)
Tokusen Karubi เนื้อสันนอกไม่ติดกระดูก (จานละ 280 บาท)และนอกจากเมนูเอกของร้านอย่าง "โอมิ วากิว" แล้ว ที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ยังมีเนื้อชนิดอื่นๆ ที่คุณภาพดีไม่แพ้กัน และมีราคาลดหลั่นกันลงไป ให้เลือกสั่งมาปิ้งย่างได้อีกหลากชนิด อาทิ "Japan Wagyu/เนื้อวากิวญี่ปุ่น" (จานละ 800 บาท) ซึ่งเป็นเนื้อวากิวที่มีลายไขมันสวยงาม และเมื่อย่างแล้ว เนื้อจะนุ่มละลายในปากมากเป็นพิเศษ ส่วนเนื้อที่ราคาย่อมเยาลงมาอีกหน่อย ก็คือ "Tokujo Roosu/เนื้อสันในอย่างดีพิเศษ" (จานละ 280 บาท) ซึ่งเป็นเนื้อที่มีไขมันที่ติดเอ็นกรุบๆ นิดๆ ทำให้เมื่อย่างได้ที่แล้ว เนื้อจะมีความกรอบอยู่เล็กน้อยต่อมา คือ “Tokujo Karubi /เนื้อติดกระดูกอย่างดีพิเศษ" (จานละ 280 บาท) เป็นเนื้อติดกระดูกที่ย่างแล้ว เนื้อจะเหนียวนุ่มและกรอบ หรือ "Karubi/เนื้อสันนอกพิเศษ" (จานละ 280 บาท) ซึ่งเป็นเนื้อไทยที่เวลาย่างแล้วจะมี texture ของไขมันที่นุ่มละมุนลิ้น เนื้อชนิดนี้เป็นเนื้อที่คนญี่ปุ่นชอบทานส่วนคนที่ชอบเนื้อส่วนที่ความเหนียวนุ่มหนึบหนับ ก็ต้องลองสั่ง “Tan/ลิ้นวัวหมักเกลือ/ซอส” (จานละ 220 บาท/110 บาท) ที่ใช้เนื้อส่วนโคนลิ้นแล่บางๆ หมักกับเกลือจนเข้าเนื้อ ซึ่งเมื่อย่างสุกแล้ว ลิ้นวัวจะหอมมากๆ และมีความเหนียวนุ่มกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ และสิ่งที่มั่นใจได้อย่างหนึ่ง เมื่อมาทานปิ้งย่างที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ก็คือ ที่นี่จะบอกปริมาณของเนื้อเป็นกรัมให้ด้วย ทำให้รู้ว่าเนื้อที่สั่งมานั้น มีปริมาณเท่าไหร่
เนื้อพรีเมี่ยมกับน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้น
ซุปเนื้อ
เส้นใหญ่น้ำหน้าเนื้อ
ซุปสาหร่ายนอกจากเมนูเนื้อชนิดต่างๆ แล้ว ที่ "Iroha Yakiniku" ยังมี “Buta/เนื้อหมูหมักเกลือ/ซอส” (จานละ 150 บาท) เนื้อนุ่มละมุนเมื่อย่างแค่พอสะดุ้งไฟ หรือ “Tontoro/สันคอหมูหมักเกลือ/ซอส” (จานละ 170 บาท) ซึ่งเป็นเนื้อหมูส่วนที่มีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนเหมือนกับเนื้อวัวชั้นดี และ “Tokusen Buta Karubi/หมูสันนอกพิเศษ ” (จานละ 140 บาท) ที่มีชั้นไขมันเรียงสลับกับชั้นเนื้อ ที่ดูเผินๆ จะคล้ายกับเบคอน แต่มีชั้นที่เป็นเนื้อหนากว่าเบคอนปกติทั่วไป ซึ่งเมื่อย่างให้สุกกำลังดีแล้ว ไขมันที่แทรกตัวสลับกับเนื้อ จะทำให้สันคอหมูนุ่มมากๆ แต่ก็ยังคงมีความกรุบกรอบของเนื้อให้เคี้ยวได้เพลินๆ หรือจะลอง “Tori Momo /เนื้อไก่หมักซอส” (จานละ 130 บาท) ไก่หมักกับน้ำซอสสูตรพิเศษเฉพาะของร้าน ทำให้เนื้อไก่นุ่มละมุน และมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้นเมื่อน้ำไปย่างจนสุกกำลังดี และต้องลองใส้หมูย่าง หรือเครื่องในผสมทรงพลังที่ฮิตมากๆ รสชาติหนึบๆ เข้มข้นด้วยน้ำหมัก เมื่อย่างจะยิ่งแล้วหอมกรุ่น
“Tori Momo /เนื้อไก่หมักซอส” (จานละ 130 บาท)
Tokusen Buta Karubi/หมูสันนอกพิเศษ (จานละ 140 บาท)
นอกจากเนื้อแล้วยังมีเมนู หมู ไก่ และเครื่องในพร้อมสรรพ
ซึ่งความอร่อยของเนื้อย่าง และเนื้อสัตว์อื่นๆ ของร้าน "Iroha Japanese BBQ Bangkok" นอกจากจะอยู่ที่การเลือกใช้เนื้อคุณภาพดีแล้ว ยังอยู่ที่น้ำหมัก และน้ำซอสที่ใช้จิ้มเนื้อด้วย ซึ่งที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" มี “โฮโรโมมิโสะ” น้ำหมักเนื้อ และน้ำหมักหมูสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง ซึ่งทำให้เนื้อและกหมูมีกลิ่นหอมมากๆ เมื่อนำเนื้อไปย่างไฟ และเมื่อเสริมรสชาติด้วยน้ำจิ้มที่จะมีตัวที่ยืนพื้นคือ “โกชูจัง” พริกเผารสชาติเข้มข้นที่มาพร้อมกับพริกสับ กระเทียมปั่น และน้ำมะนาว ให้ลูกค้าสามารถปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้ตามใจ ก็ยิ่งขับรสชาติของเนื้อย่างและหมูย่างให้อร่อยมากขึ้น
วางท่อดูดควันไว้ใต้เตาส่วนเรื่องสำคัญที่คนที่มาทานร้านปิ้งย่างมักจะกังวลกัน ก็คือ กลัวว่ากลิ่นควันไฟจากการปิ้งย่างจะติดเสื้อผ้าและผม ซึ่งหากมาที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย เพราะที่นี่มีจุดเด่นในเรื่องของการวางระบบดูดควันที่ยอดเยี่ยม โดยไม่ต้องมีท่อดูดควันลอยอยู่เหนือศีรษะให้เกะกะแบบร้านปิ้งย่างอื่นๆ เพราะที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ได้ว่างท่อดูดควันไว้ใต้เตาปิ้งย่าง แล้วเดินท่อออกไปด้านนอกร้าน กลิ่นและควันจาการปิ้งย่างจึงไม่มีโอกาสได้ลอยขึ้นมาเหนือเตา แล้วยังบวกกับการเลือกใช้ "ถ่านไม้ไผ่" (ทะเคะสึมิ) ซึ่งเป็นถ่านที่เผาในเตาที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส จึงมีข้อดี คือ ในระหว่างที่ถ่านกำลังเผาไหม้จะไม่ค่อยมีควันมากนัก และถ่านจะเผาไหม้จนหมด ทำให้ไม่มีขี้เถ้าลอยฟุ้งขึ้นมาในขณะปิ้งย่าง จึงไม่มีควันจากการปิ้งย่างมารบกวน และไม่มีกลิ่นติดผมหรือเสื้อผ้า รับรองได้ว่าออกมาจากร้านแล้ว ไร้กลิ่นติดตัวแน่นอน
บะหมี่เย็นญี่ปุ่นเเห้ง
Namuru/ผักยำเกาหลี
มุนชู ผักกาดหอมคลุกน้ำมันงาสูตรเฉพาะของ Iroha หอมและดีต่อสุขภาพและถ้าทานเนื้อย่างแล้ว จะไม่สั่งเมนูเครื่องเคียงมาทานคู่กัน ก็คงจะไม่ครบเครื่องสักเท่าไหร่ ที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" มีเมนูเครื่องเคียงอร่อยๆ หลายอย่างให้เลือกสั่งมาทานคู่กับเนื้อย่าง เช่น “ผักยำเกาหลี” (ราคา 120 บาท) ที่มีเห็ดหูหนูซอย ถั่วงอก ผักโขมคลุกกับน้ำมันงา และหัวไชเท้าดองกับน้ำส้มสายชูจนมีหวานรสหวานอมเปรี้ยว, “มุนชู” (ราคา 110 บาท) หรือผักยำกับน้ำมันงา รสชาตินุ่มนวลและหอมกลิ่นน้ำมันงาเบาๆ, “อิโรฮะสลัด” (ราคา 130 บาท) ที่มีน้ำสลัดให้เลือกอร่อยได้สองแบบ คือน้ำสลัดหัวหอมราสชาติหวานนิดๆ มีกลิ่นหัวหอมหน่อยๆ และน้ำสลัดน้ำมันงารสชาติเข้มข้น อีกจานหนึ่งที่ลูกค้าสั่งซ้ำบ่อยๆคือ “ข้าวผัดกระเทียม” สูตรเฉพาะที่ใช้ข้าวญี่ปุ่นเเนื้อหนียวนุ่มผัดกับกระเทียมที่บุบพอแตก ทำให้มีกลิ่นหอมของกระเทียมลอยฟุ้งอยู่ในข้าว
กิมจิที่ทางร้านทำขึ้นเองสดๆ
อิโรฮะสลัดเสิร์ฟพร้อมเดรสซิ่งสองชนิด
Yakinasu/มะเขือย่างสูตรเฉพาะของ Iroha
ข้าวผัดกระเทียมจานเด่นที่เจ้าของร้าน คุณตะวันชาย ชุมสาย ณ อยุธยากับคุณศศิโฉมภรรยาได้นำเสนอคือหอยเชลล์ขนาดเป้งๆ นำเข้าจากฮอกไกโดมีซอสกระเทียมกับเนยเสริม เวลาปิ้งย่างหอมอร่อยสุดๆ รสชาติพอดี จานนี้ขายดีมาก ขายเป็นตัวๆละ 60 บาท และยังมีหอยแมลงภู่นำเข้าซึ่งใช้ซอสราดชนิดเดียวกัน แต่รสชาติคนละแบบ ซึ่งเป็นเมนูที่ขายดีมากอีกเช่นกัน เพราะผู้เป็นเจ้าของ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" มีนโยบายที่จะนำเสนออะไรอร่อยๆ และเสริมสุขภาพให้กับลูกค้าเสมอ ไม่ได้มีแต่เนื้อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังซีฟู้ดนานาชนิด เช่น กุ้ง ปลา ปลาหมึก และอื่นๆ ให้ท่านที่ไม่ทานเนื้อได้สนุกสนานไปด้วย ที่สำคัญเจ้าของร้านควบคุมคุณภาพและความสะอาดอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
หอยเชลล์คลุกเนยกระเทียม (ราคาตัวละ 60 บาท)
เเซลมอนเทอริยากิ
ปูอัดดอกไม้
เต้าฮวยเย็น (ฟรี)
น้ำแข็งใสส่วนเครื่องดื่มของร้านปิ้งย่างไสตล์ญี่ปุ่น ก็แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้น “ชาเขียว” อย่างแน่นอน แต่ “ชาเขียว” ของที่นี่มีความพิเศษตรงที่ใช้ชาเกนไมสองชนิดผสมรวมกัน ชนิดหนึ่งมีกลิ่นหอมของข้าวคั่วชัดเจน ส่วนอีกชนิดหนึ่งมีรสชาติของข้าวคั่วชัดเจน เมื่อนำมาผสมรวมกันแล้ว จึงได้ชาเขียวเกนไมที่หอมกลิ่นข้าวคั่วแบบเตะจมูก และยังมีรสข้าวคั่วที่เด่นชัดผสมอยู่ในน้ำชาอีกด้วย ดื่มแล้วชื่นใจจริงๆ และถ้าสั่งเป็นชาร้อนก็สามารถรีฟีลได้ด้วยส่วนคนที่นิยมดื่มเครื่องแอลกอฮอลล์ ที่ "Iroha Japanese BBQ Bangkok" ก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เลือกหลากหลายชนิด เช่น “Jinro Soju” โซจูจากเกาหลี, “Imo Shochu” โซจูที่ทำจากมันหวานของญี่ปุ่น, “Umeshu” เหล้าบ๊วยรสชาติกลมกล่อม ที่สามารถดื่มแบบ on the rock เพื่อจะได้ลิ้มรสชาติหวานหอมๆ ของเหล้าบ๊วย หรือจะผสมกับโซดาให้ซาบซ่าขึ้นก็ได้ ส่วนคนที่ชอบดื่มสาเก ที่นี่ก็มีทั้งสาเกร้อนและสาเกเย็น เมนูใหม่ที่คัดมาคือ “Kyoketsu Aserora Cherry” Soju เชอรรี่จากเกาหลี รสหวานนุ่มละมุน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ น้ำแร่ธรรมชาติที่ใช้ในการผลิต ดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น พร้อมทั้งไวน์แดงไวน์ขาวที่เจ้าของคัดสรรมาให้ในราคาย่อมเยา
ห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่น
ห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นรองรับกรุ๊ปใหญ่ๆ ได้สบาย
ห้องส่วนตัวหรับจัดงานเลี้ยง
ที่นั่งภายในร้านนั่งชิลล์ๆ เคล้าเสียงดนตรีสบายๆ
ลานจอดรถกว้างขวาง และมีพนักงานคอยดูแล
มุมสำหรับพักผ่อนสูบบุหรี่รับลมเย็นลมสบายและหากมาที่ "Iroha Yakiniku" แล้วไม่มีความรู้เรื่องเนื้อ หรืออยากจะลองเมนูอื่นๆ ที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่แน่ใจว่าจะสั่งเครื่องดื่มตัวไหนดี ก็สามารถขอคำแนะนำจากพนักงานเสิร์ฟของร้านได้ เพราะพนักงานเสิร์ฟแต่ละคนของที่นี่บางคน มีประสบการณ์ในการทำงานมาไม่ต่ำกว่า 8 ปี และทุกคนสามารถให้คำแนะนำเรื่องการสั่งอาหารและเครื่องดื่มแก่ลูกค้าได้ บางครั้งก็จะช่วยให้คำแนะนำการย่างเนื้อบนเตาแก่ลูกค้าด้วย เพราะพนักงานเสิร์ฟที่นี่จะรู้ดีว่า เนื้อชนิดไหนต้องใช้เวลาในการย่างเท่าไหร่ถึงจะไม่ทำให้เนื้อสูญเสียความอร่อยไป และถ้าลูกค้าอยากให้พนักงานช่วยย่างเนื้อให้ พนักงานก็สามารถบริการย่างเนื้อให้ได้ โดยคิดค่าบริการตามสมควร บอกได้ว่าพนักงานที่นี่อัธยาศัยดีมาก ทำงานด้วยใจรักการบริการยิ้มแย้มแจ่มใส
พนักงานพร้อมให้บริการด้วยความเต็มใจละเป็นกันเองที่ “Iroha Japanese BBQ Bangkok" ไม่ว่าคุณจะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาเป็นหมู่คณะ ที่นี่ก็พร้อมรับรอง เพราะมีทั้งที่นั่งด้านนอกสไตล์โมเดิร์น และห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความเป็นส่วนตัว และรองรับคนได้ 20 กว่าท่าน และสามารถจัดที่ให้ได้ 30 ท่าน (จองห้องไม่มีค่าใช้จ่าย) ทั้งยังมีที่จอดรถภายในร้าน กว้างขวาง สะดวกสบาย ปลอดภัย เป็นส่วนตัว ไม่ต้องมีตอกและ แสตมพ์บัตรให้ยุ่งยากรำคาญใจ จอดปุ๊บ เดินขึ้นบันไดเลย….ไม่ว่าจะกินเป็นมื้อค่ำ เลี้ยงฉลองกันในหมู่ญาติมิตร หรือเลี้ยงรับรองลูกค้าคนสำคัญ “Iroha Japanese BBQ Bangkok" ก็พร้อมให้บริการเสมอพิเศษ!!! เพียงเช็คอินร้าน “Iroha Japanese BBQ Bangkok” แล้วอัพรูปอาหารของร้านหรือรูปคุณ พร้อม tag ชื่อร้าน “Iroha Japanese BBQ Bangkok” แล้วโชว์ให้พนักงานดู รับทันทีส่วนลด 5% ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
การเดินทาง
จากปากซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ขับมาจนถึงป้ายซอยทองหล่อ 11 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ 11 เมื่อเข้าซอยทองหล่อ 11 ให้ขับตรงมาจนสุดซอย ประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านAudrey อยู่ทางซ้ายมือ จะเจอทางแยก ร้าน “Iroha Japanese BBQ Bangkok” อยู่ตรงกับทางแยกพอดี
