ค่ำคืนวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หลายต่อหลายที่ทั่วประเทศและทั่วโลก ต่างร่วมเฉลิมฉลองและพร้อมใจกันจัดงาน Count Down กันอย่างรื่นเริงในรูปแบบต่างๆ และค่ำคืนนี้ “ดาราเทวี” ก็เนรมิตค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์
“The Magical Kingdom “ ถูกกำหนดขึ้นมาให้เป็นชื่องานในครั้งนี้ เพื่อให้สมกับดินแดนอันน่าอัศจรรย์และอลังการแห่งนี้ ให้แขกที่ได้มาร่วมงานได้ร่วมเก็บความทรงจำอันน่าตื่นตาตื่นใจ กับทั้งอาหาร การแสดง และกิจกรรมต่างๆ ซึ่งพิเศษที่สุด และหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว พิเศษอย่างไร พิเศษเพียงไหน wongnai จะพาไปชมกัน
ทีมงานวงใน ได้รับเกียรติจากทางโรงแรม ให้เข้าไปร่วมสัมผัสบรรยากาศตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ทำให้เห็นขั้นตอนการเตรียมงาน ที่เรียกได้ว่าเป็น “มืออาชีพ” อย่างแท้จริง ณ ข่วงโขงขาว โต๊ะอาหารและที่นั่งจำนวน 320 ที่ ถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม ทั้งอุปกรณ์ จานชาม แก้วน้ำ เครื่องมือต่างๆ บนโต๊ะ จัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถัน ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้แสนสวยนานพันธุ์ ที่บรรจงเรียงร้อยและนำมาจัดวาง บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยโต๊ะอาหาร ที่จัดในแบบบุฟเฟต์ อาหารนานาชาติ นานาชนิด จากทุกห้องอาหารของโรงแรม กำลังจะถูกนำออกมาต้อนรับแขกคนพิเศษ จำนวน 320 ท่าน ที่จองที่นั่งล่วงหน้า ในราคาท่านละ 15,100 บาท ซึ่งทีมงานของเราทราบมาว่า ถูกจับจองเต็มจำนวนตั้งแต่ก่อนวันงาน
นอกจากฝั่งของอาหารแล้ว ทางฝั่งของการแสดงก็ไม่น้อยหน้า เวทีถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างตระการตา ตั้งเด่น สวยงามและดูมีมนต์ขลัง พร้อมทั้งทีมงาน LiveBox Chiangmai ที่นำอุปกรณ์ส่งสัญญาณการถ่ายทอดสดมาติดตั้ง เตรียมพร้อมให้คนทั่วโลก ได้สัมผัสบรรยากาศสดๆ จากสถานที่แห่งนี้ โดยผ่านทางแฟนเพจของดาราเทวี และที่ขาดไม่ได้คือ ศิลปินรับเชิญฝีไม้ลายมือระดับพระกาฬในด้านการเล่นดนตรีแนวคลาสสิคร่วมสมัย โดยเฉพาะไวโอลิน ที่สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติมาแล้วหลายเวที “Vie-Trio” ก็เตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนนี้แล้วเช่นกัน
เมื่อใกล้เวลาเริ่มงาน อาหารนับร้อยชนิด ถูกนำมาจัดเรียง ตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยฝีมือทีมงานแผนกครัวจากทุกห้องอาหาร ควบคุมดูแลโดย เชฟพิสิษฐ์ จิโนพงป์ (จีโน่) , เชฟคาร์ลอส โกว์เด็นซิโอ , เชฟโจอี้ เช็ง และ เชฟฟาบรีส เลอบรูส จากที่ทีมงานเราตระเวน สำรวจโดยรอบแล้ว ต้องบอกเลยว่า อาหารทุกอย่างที่ดีที่สุด มากมายอย่างไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน ถูกนำมารวมกันอยู่ในไลน์บุฟเฟต์เกือบทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น แคนาเดียนล็อบสเตอร์ ปูอลาสกา คาเวียร์ เป็ดปักกิ่ง หมูหัน เนื้อวากิว ฟัวกราส์ ปลาหิมะ ติ่มซำ อาหารไทย อาหารเหนือ สลัดบาร์ ชีส ของหวาน ฯลฯ มากมายจนนับไม่ถ้วน หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เย็นย่ำพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดวงไฟน้อยใหญ่ที่ถูกประดับประดาโดยรอบ ไฟจากแสงเทียนนับหลายร้อยดวง สว่างไสวในสถานที่แห่งนี้ ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า ราวกับภาพวาดที่เขียนขึ้นมาโดยจิตรกรเอก ลานหน้าอาคารล็อบบี้ ได้กลายเป็นที่ต้อนรับแขกเหรื่อที่ต่างทยอยกันมาถึง ช้าง 2 เชือกยืนเด่นเป็นสง่า ทำหน้าที่เสมือนฑูตที่คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนดาราเทวีแห่งนี้ เทพธิดาและเทพบุตรโฉมงามหลายคู่ ปรากฎกายอยู่บนเวที ที่ตั้งตระหง่านอยู่โดยรอบบริเวณให้แขกได้มาทักทาย ถ่ายรูปอย่างสวยงาม เครื่องดื่ม Welcome Drink หลากชนิด ทั้งไวน์ ค็อกเทล และน้ำผลไม้ ถูกนำมาเสิร์ฟ พร้อมกับอาหารค็อกเทลและคานาเป้สุดหรู เป็น First Impression ที่เราสัมผัสได้ ถึงการต้อนรับอันอบอุ่นก่อนงานจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เมื่อถึงเวลาแขกผู้มีเกียรติต่างพากันทยอยเข้างาน เพื่อสัมผัสกับอาหารรสเลิศที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ อย่างที่กล่าวไปเมื่อข้างต้น อาหารทุกอย่างที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก มารวมอยู่ที่นี่ ทำเอาทีมงานของเราถึงกับเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน เพราะแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่น่ารับประทาน และบางอย่างหารับประทานได้ไม่ง่ายนัก
ซึ่งนอกจากอาหารสารพัดสารพันชนิดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ในงานก็คือ “ขนมหวาน” อันลือชื่อของที่นี่ โดยผลงานการรังสรรค์ของเชฟ Fabrice Patisserie Chef ผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ ขนมหวานนับพันชิ้น ถูกนำมาจัดเรียงอย่างสวยงามตระการตา อวดโฉมยั่วเย้าให้แขกที่มาร่วมงานได้ลิ้มลอง
เพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มได้สักระยะ การแสดงชุดไฮไลท์ประจำงานก็ได้เริ่มต้นขึ้น ศิลปิน Vie-Trio ก็เริ่มต้นบรรเลงบทเพลงอันไพเราะ สลับกับการพูดคุยอย่างสนุกสนานกับแขกผู้มาร่วมงาน สร้างบรรยากาศครึกครื้นได้ไม่น้อย สมกับเป็นงานเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง บทเพลงอันเลิศเลอเพลงแล้วเพลงเล่าจากศิลปินรับเชิญ ผ่านโสตสัมผัสร่วม 1 ชั่วโมงเต็ม สลับกับการแสดงอันสวยงาม จิบแชมเปญจน์ชั้นดีเบาๆ กับอาหารสุดหรู ลมหนาวแผ่วๆ มาสัมผัสผิวกายพอให้เย็นสบาย ทุกสิ่งทุกอย่าง ณ เวลานั้น มันสุขเกินจะบรรยาย จนเวลาล่วงเลยมาใกล้เวลาแห่งคืนข้ามปี
และแล้วเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง หลังจากที่ดีเจเปิดเพลงเพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน จนถึง 10 นาทีสุดท้ายของปี พิธีกรในงานก็ได้เชิญคุณแอนดรูว์ ควินแลน (Andrew Quinlan) General Manger ขึ้นมากล่าวอวยพรและกล่าวขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมงาน และในที่สุดสัญญาณนับถอยหลังก็เริ่มขึ้น ทุกคนที่อยู่ในบริเวณงานร่วมกันส่งเสียงนับถอยหลังพร้อมกัน ด้วยใบหน้าและอารมณ์แห่งความสุข ราวกับจะทิ้งสิ่งที่ไม่ดีไว้เพียงแค่ปี 2013 และก้าวสู่ปี 2014 ด้วยความสุขอย่างเต็มล้น เมื่อถึงเวลา 00.00 น. เสียงโห่ร้องดังอย่างกึกก้อง ด้วยความดีใจ กับวินาทีแรกของปีใหม่ พลุหลากสีสันจุดขึ้นท้องฟ้าอย่างตระการตา ส่งสัญญาณอันเกรียงไกรเพื่อต้อนรับปีใหม่อย่างมหัศจรรย์ สมกับเป็น The Miracle Kingdom อย่างแท้จริง ค่ำคืนนี้คงติดตรา ตรึงใจ และเป็นที่จดจำไปอีกนานแสนนาน แขกคนพิเศษกว่า 300 ชีวิต เป็นเหมือนสักขีพยานว่างานเคาน์ดาวน์ที่ดาราเทวีแห่งนี้ เป็นงานที่ดีที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
