หากให้ย้อนอดีตกลับไปในสมัยวัยเยาว์ เชื่อว่าความอร่อยสุดคลาสสิค คุ้นลิ้น ที่ครีเอทได้สารพัดแบบ อย่าง “เมนูไข่” คือหนึ่งในเมนูในดวงใจของใครหลายๆ คน “Tamagoyaki” จึงชวนคุณย้อนอดีต กับวัตถุดิบคุ้นเคยในแบบฉบับญี่ปุ๊น...ญี่ปุ่น
เพราะความอร่อยมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย “Tamagoyaki” จึงต้องใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่การเนรมิตบรรยากาศร้านให้เป็นฟาร์มไข่ขนาดย่อม เน้นความอบอุ่นจากเฟอร์นิเจอร์สีไม้ ที่เพิ่มกิมมิคเล็กๆ แต่ดูน่ารักมาก อย่าง โต๊ะไม้ ที่มี “ไข่” ประดับอยู่ในลังไม้ เก้าอี้สีเหลืองที่ DIY จากลังพลาสติคสีเหลือง ชวนนั่งสุดๆ
ตลอดจนเมนูความอร่อย ที่เน้น “ไข่” เฉกเช่นชื่อร้านที่มีความหมายว่า “Japanese Omelette” หรือ “ไข่เจียวสไตล์ญี่ปุ่น” เป็นวัตถุดิบชูโรง มาครีเอทเป็นสารพัดเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกยั่วน้ำลายกันสุดฤทธิ์ อยากรู้ว่าจะน่ากินแค่ไหน ต้องตามดูกัน
เริ่มตั้งแต่เมนูเอาใจคนรักเส้นอย่าง พาสต้าครีมกุ้งไข่ออนเซ็น (170 บาท) พาสต้าคาโบนาร่าสุดครีมมี่ ที่แยกไข่ออนเซ็น และเนื้อกุ้ง ออกจากตัวเส้นไว้ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการกินด้วยการ “คลุกเคล้า” เข้ารวมกัน ทำให้ไข่กุ้งทั้งสีส้ม และสีดำ เกาะขึ้นตามเส้นเป็นกิมมิคชวนเคี้ยว
เติมความลื่นไหลด้วยด้วยเมนูสลัดสุดเฮลตี้อย่าง สลัดปลาเงิน (180 บาท)ที่นำผักสลัดยอดฮิตอย่าง เรดโอ๊ค กรีนโอ๊คมาคลุกเคล้าเข้ากับน้ำสลัดญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของทางร้าน เพิ่มเทกเจอร์ด้วยปลาเงินทอดกรอบ และไข่กุ้ง ที่พอรวมเข้ากันแล้ว พูดได้คำเดียวเลยว่า “กินอย่างเพลิน”
ส่วนใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ซูชิมากิ ต้องห้ามพลาดเมนู ไดนาโมโรล (240 บาท/4 ชิ้น, 340 บาท/6 ชิ้น) แซลมอนมากิคำโตที่แยกยำสาหร่าย และไข่กุ้งวางทับไว้ด้านบน โรยทับด้วยเกล็ดขนมปังทั่วทั้งจาน เพิ่มสีสันเวลาเคี้ยว ก่อนปิดท้ายด้วยการราดซอสหวาน ผสมซอสสไปซี่ที่มีส่วนประสมของไข่ไก่ เติมสีสันให้มากิทุกคำมีรสชาติโดดเด่นขึ้น
เต็มอิ่มไปด้วยเมนูเซ็ทอย่าง ทามาโกะด้ง (ราคาตามไส้ที่เลือก) เมนูไข่หวานซิกเนเจอร์ประจำร้าน ที่ใครได้ชิมก็ต่างติดใจ เพราะด้วยรสชาติที่ไม่หวานมาก ให้สัมผัสที่เนียนนุ่มดีงาม ไม่ต้องเสียแรงเคี้ยวให้เมื่อย เข้ากับตัวไส้ที่สามารถเลือกตามความชอบ มีด้วยกัน 6 ไส้ คือ ไส้เนื้อวัว กุ้ง แซลมอน ปลาไหล แฮมชีส และเห็ด กินสลับกับข้าวที่สามารถเลือกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดกระเทียม ข้าวญี่ปุ่น ข้าวผัดกิมจิ ตัดกับซุปมิโซะร้อนๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะครองใจลูกค้าประจำ ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด!
ปิดท้ายกันด้วยซดน้ำซุปกิมจิรสจัดจ้านจากเมนู กิมจินาเบะ (185 บาท)ที่ให้ความรู้สึกซู่ซ่าเรียกเหงื่อทุกครั้งที่ตัก ได้เทกเจอร์สองแบบจากเส้นสองสไตล์ กินคู่กับผัก เครื่องเคียง และไข่ อร่อยดีงามอีกเช่นกัน ยิ่งสั่งกินพร้อมกับเมนูอื่นๆ ยิ่งช่วยให้รสชาติบาลานต์กันได้อย่างลงตัว
ข่าวดี!! ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ถึง 15 มิ.ย. ทางร้าน “Tamagoyaki” เขาใจดี จัดโปรโมชั่น Happy Hour ช่วงเวลาสุดคุ้ม “ลดค่าอาหาร 40% ในเวลา 17.00 น. ถึง 20.00 น. เฉพาะวันอังคารถึงวันศุกร์” เท่านั้น
จะรอช้าอยู่ใย ใครที่สนใจก็เดินทางไม่ยาก เพราะร้าน “Tamagoyaki” ตั้งอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ที่เด็กจุฬารู้จักกันดีอย่าง I’m Park ชั้น 2 ไม่ไกลจาก BTS สถานีสนามกีฬา นั่งรถต่อเข้าไปถึงจุฬา ซอย 22 ก็สังเกตุได้ไม่ยาก หรือจะขับรถมาก็มีที่จอดรถพร้อมสรรพ ใครสะดวกแบบไหนไปแบบนั้นเลย
