1. 10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว เตรียมสวมโค้ต รับความฟิน! (2019)

10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว เตรียมสวมโค้ต รับความฟิน! (2019)

10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว เตรียมสวมโค้ต รับความฟิน! (2019)
ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลายคนคงเตรียมตัวซื้อเสื้อหนาวกันบ้างแล้ว น่าเสียดายที่ปีนึง ๆ ถ้าอยู่ในประเทศไทยก็จะได้ใส่ราว ๆ สองวันเท่านั้น ก่อนจะมีอันต้องพับเก็บเพราะอากาศกลับมาร้อนฉ่าเหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไรนะ วันนี้เรามี 10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว มานำเสนอ เผื่อว่าคุณจะได้กดจองตั๋ว อัญเชิญเสื้อหนาวลงจากหิ้ง แล้วลองไปเที่ยวฤดูหนาวแบบจริง ๆ ใส่เสื้อขนเป็ดที่ซื้อมาแบบติดต่อกันหลาย ๆ วันดูสักที พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย!

ร้านทั้งหมด


ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวสุดโรแมนติก รู้ไหมว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานที่สุดคลาสสิกอย่างสถานีรถไฟโตเกียวได้ถูกใช้เป็นฉากสำหรับงานแสดงแสงไฟสุดอลังการ ปีนี้ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Nicholai Bergmann มารับหน้าที่จัดงานในธีม “A Symphony of Flowers and Light” หรือ “บทเพลงซิมโฟนีแห่งบุปผาและแสงไฟ” แค่ได้ยินชื่อก็บอกเลยว่าถ้าได้ไปกับแฟนน่าจะโรแมนติกมาก ๆ เลยล่ะ วันที่จัดแสดง : 24 - 28 ธันวาคม 2018 (ขอบคุณภาพ Terrace Michi Projection Lighting onto Tokyo Station โดย t-mizo)
ที่เที่ยวญี่ปุ่นหนาวสะใจใต้ถ้ำน้ำตก บนเกาะฮอกไกโด พูดถึงเกาะนี้ ถ้าจะชวนคุณผู้อ่านไปสโนว์เฟสติวัลซึ่งฮอตฮิตสุด ๆ แล้วก็เกรงจะโดนว่าสิ้นคิด เลยเอาเป็นว่าแนะนำสถานที่สุด Unseen อย่าง “เมืองโซอุนเคียว” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดีกว่า ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงปลายมีนาคมที่นั่นจะมีอีเวนต์ Sounkyo Ice Waterfall Festival ความพิเศษคือ พออากาศหนาว ๆ จะได้เดินลอดใต้น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งแบบในรูปด้วยล่ะ (ขอบคุณภาพจาก https://i0.wp.com/www.sounkyo.net)
“Biwako Valley” อยู่ในจังหวัดชิกะ ซึ่งอยู่ติดกับเกียวโต ถ้าใครได้แวะมาแถบคันไซในหน้าหนาว แต่ยังรู้สึกไม่ว้าวเพราะหิมะไม่ได้ตกหนักเท่าไหร่ เราขอแนะนำให้คุณไปต่อที่นี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดลานสกีหิมะ รับรองได้เห็นหิมะตกแบบจริงจังกะละมังหม้อ แถมพื้นที่เล่นสกีและสโนว์บอร์ดก็มีความชันหลากหลายระดับให้ท้าทายความสามารถ แต่ถ้าไม่อยากโชว์ (ว่าเล่นไม่ค่อยถนัด) ที่นี่ก็ยังมีเส้นทางโรแมนติก สำหรับคนไปเป็นคู่ จะชวนแฟนไปปั้นสโนว์แมนเป็นสักขีพยานแห่งความรักก็ได้ไม่ว่ากัน เปิดตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมนี้ - 24 มีนาคม 2019 นะจ๊ะ
5.0
1 รีวิว
ถ้าพูดถึงสีสันและแสงไฟ ใคร ๆ ก็คงจะนึกถึงโอซาก้า แต่รู้หรือเปล่าว่า ทุกปีที่ “เกียวโต” ก็มีการจัด Light up สุดอลังการ แบบที่คนโอซาก้าเองยังต้องมาเยี่ยมเยือน ภายใต้ชื่องาน ROHM’s Illuminations Light up Kyoto มีดวงไฟกว่า 860,000 ดวง ย้อมเมืองเก่าอย่างเกียวโตให้สว่างไสว และมอบความอบอุ่นหัวใจในหน้าหนาวแก่ผู้เข้าร่วมงาน ที่สำคัญใจดีไม่คิดค่าเข้าชม (ขอบคุณภาพจาก https://www.rohm.com/blog/-/blog/id/5815658)
4.8
7 รีวิว
พูดถึงหน้าหนาว คงไม่มีที่นี่ไม่ได้ “ชิราคาวาโกะ” เมืองมรดกโลกที่เหมือนถูกหยุดเวลาไว้ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ โดยมีบ้านจั่วลาดชัน ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์สุดคลาสสิคและงานหัตถกรรมอันเลื่องชื่อเป็นตัวชูโรงของที่นี่ และที่ขาดไม่ได้คือ ใน 1 ปี จะมีระยะเวลาเพียง 7 วันเท่านั้น ที่คุณจะได้สัมผัสกับอีเว้นท์แสงสีในเทศกาล light up ท่ามกลางบรรยากาศของหมู่บ้านชาวนาเก่าแก่ที่มีหลังคาขาวโพลนปกคลุมด้วยหิมะแห่งนี้ เราขอแนะนำให้ลองจิบชาร้อนๆระหว่างชมแสงไฟไปด้วย จะได้อารมณ์ไปอีกแบบ
5.0
1 รีวิว
“คุซัตสึ” เป็นเมืองแห่งออนเซ็นในจังหวัดกุนมะ ห่างจากโตเกียวไปไม่ไกล เหมาะมากสำหรับใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบอินดี้ เปิดประสบการณ์ใหม่ วิธีการแช่น้ำร้อนของคุซัตสึบอกเลยว่าเก๋ไก๋ไม่ธรรมดา คือตอนอาบน้ำจะมีการจับเวลาที่เหมาะสม เรียกว่า “จิคังยุ” และจะมีพิธีตีน้ำด้วยแผ่นไม้กระดานก่อนอาบ เรียกว่า “ยูโยมิ” เพื่อให้ได้น้ำอุณหภูมิพอเหมาะกับร่างกาย สถานที่นี้ขึ้นชื่อมากในหมู่ชาวญี่ปุ่น แต่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก รีบไปช่วงนี้อาจจะดี (ถ้าไปตอนฮิตแล้วอาจมีโอกาสเจอคนรู้จักตอนแก้ผ้าก็ได้นะ) //>.<//
“ยามากาตะ” เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นดินแดนแห่งหิมะที่แท้ทรู ที่นี่นอกจากจะสามารถนั่งกระเช้า เล่นสกี ยังมีทัศนียภาพแปลกสวยงาม แปลกประหลาดตระการตา ดูเหมือนหลุดมาอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย รูปแท่งขาว ๆ หงิกงอดูคล้ายสิ่งมีชีวิตสูงเท่าตัวคนที่เห็นในภาพนั้น คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ปีศาจน้ำแข็ง” หรือจุเฮียว เกิดจากการที่ต้นไม้บนภูเขาถูกหิมะและน้ำแข็งปกคลุมตามธรรมชาติ ความน่าสนใจอยู่ที่ตอนกลางคืน เขาจะมีการจัด Light up ส่องไฟไปยังเหล่าปีศาจน้ำแข็งให้ดูมีสีสันมหัศจรรย์ไปอีก ถ้าสนใจลองไปตีซี้กับพวกเขาได้ เดินทางไม่ยาก จากโตเกียวนั่งรถไฟไปลงที่ Zaoropeway ได้เลย
“อะริมะออนเซ็น” เมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเฮียวโงะ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า โกเบ ย่านนี้อุดมไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน ดังนั้นไ่ม่ว่าอากาศจะหนาวขนาดไหน มาที่นี่แล้วไม่ต้องกลัว จะแช่ทั้งตัว หรือแช่แค่เท้า (หลาย ๆ ที่มีบริการแช่เท้าฟรีเมื่อเข้าพัก) เดินเที่ยวไปแช่ออนเซ็นไปได้ทั้งวัน จุดเด่นของบ่อน้ำร้อนเมืองนี้คือ น้ำในบ่อจะมีสีทองกับสีเงิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอุดมไปด้วยคุณค่าจากแร่ธาตุขนาดไหน นอกจากนี้เพราะเป็นน้ำทะเลที่ได้รับความร้อนจากภูเขาไฟ น้ำจึงมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บมากมาย สาว ๆ ญี่ปุ่นก็ชอบกันมาก เพราะมีสรรพคุณที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งชุ่มชื่นด้วยนะ
“Osaka Aquarium” เป็นหนึ่งในอควาเรียมที่ดีติดอันดับต้น ๆ ของโลก ถึงจะไปในฤดูปกติที่ไม่มีอีเวนต์อะไร ก็ยังประทับใจสุด ๆ ยิ่งหน้าหนาวของทุกปี จะมีการจัด Light up ประดับไฟสีสันสดใส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่น้องฉลามวาฬตัวยักษ์ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้หากเดินชมข้างในยังจะได้เพลิดเพลินกับสัตว์น้ำนานาชนิดจากน่านน้ำต่าง ๆ ทั่วโลก และที่ดีสุด ๆ ไปเลยคือ ของที่ระลึกของที่นี่น่ารักไปหมด เล่นเอาอยากจะเหมากลับบ้าน เดินเล่นเสร็จแล้วถ้ายังไม่จุใจ สามารถออกไปนั่งเทมโปซาน ชิงช้าสวรรค์สูงปรี๊ดที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ชมวิวทะเลและแสงไฟระยิบระยับยามค่ำคืนของเมืองโอซาก้าได้
ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2019 ที่ “เมืองฮิโรชิม่า” ซึ่งเคยเป็นอนุสรณ์สถานหลังเหตุการณ์ปรมาณู จะมีการจัดประดับไฟภายใต้ธีม “Hiroshima Dreamination” ที่ถนนถนนแห่งสันติภาพ (Peace Boulevard) โดยบริเวณที่จัดไฟจะเต็มไปด้วยซุ้มต่าง ๆ สามารถเข้าไปยืนถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ มีหุ่นประติมากรรมที่ประดับไฟให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในความฝัน แต่จะฝันถึงสันติภาพ หรือจะฝันถึงใคร ก็ตามแต่ใจคุณนะจ๊ะ (ขอบคุณภาพจาก http://visithiroshima.net)

ที่เที่ยวญี่ปุ่นแต่ละที่จะมีช่วงอากาศหนาวเวอร์แตกต่างกันไปตามภูมิภาค ก่อนเดินทางไปสัมผัส 10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว รับปีใหม่ 2019 เราแนะนำให้ศึกษาสภาพอากาศให้ดี ๆ อย่าลืมฟิตร่างกายและเตรียมเสื้อหนาวใส่กระเป๋าให้เพียงพอ และไหน ๆ ไปแล้วอย่าลืมของฝากติดมือ ซื้ออะไรดีลองดู รวมของฝากจากญี่ปุ่น! ไปเที่ยวแล้วต้องห้ามพลาดซื้อกลับมา! ถ้าเจาะจงไปอีกก็มีลิสต์เฉพาะ 10 ของขวัญปีใหม่! ที่ควรซื้อเป็นของฝากฮอกไกโด กับ 15 ของฝากเกียวโต ใครได้ไปหัวใจต้องพองโต ~ ช่วงปลายปีนี้ขอให้ทุกคนออกไปสนุกกับอากาศหนาวให้เต็มที่ แล้วกลับมาเริ่มต้นปีใหม่อย่างอุ่นใจที่บ้านเรานะคะ แล้วอย่าลืมติดตามเพจ Wongnai Travel สำหรับการแพลนเที่ยวที่ต่อ ๆ ไปกันน้าาา