"ชาบูหน้าหม้อ" บุฟเฟ่ต์ชาบู ไม่จำกัดเวลา เพียง 199 และ 259 บาท/net
  1. "ชาบูหน้าหม้อ" บุฟเฟ่ต์ชาบู ไม่จำกัดเวลา เพียง 199 และ 259 บาท/net

"ชาบูหน้าหม้อ" บุฟเฟ่ต์ชาบู ไม่จำกัดเวลา เพียง 199 และ 259 บาท/net

ร้านชาบูหน้าหม้อ สาขาลาดพร้าว 101 จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ในราคาพิเศษ เวลา 15.00-18.00 น. ราคา 199 บาท หลัง 18.00 เป็นต้นไปราคา 259 บาท ไม่จำกัดเวลา
writerProfile
16 ก.ค. 2015 · โดย

ในช่วงหลายปีมานี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทชาบูได้รับความนิยมจากนักชิมชาวไทยอย่างมาก อาจจะเพราะด้วยรูปแบบของการทานชาบูที่ต้องลวกต้มให้เครื่องสุก ที่ทำให้บรรยากาศในการทานดูครึกครื้น สนุกสนาน เกิดปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ร่วมโต๊ะ มีร้านชาบูเปิดขึ้นมามากมาย สำหรับร้าน “ชาบูหน้าหม้อ” ร้านชาบูสไตล์ฟิวชั่นชื่อแปลกใหม่แต่จำง่ายนี้ ก็เป็นอีกร้านที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา

สไตล์การตกแต่งของร้านชาบูนั้นเป็นรูปแบบของ industry หรือแบบ “ฟาร์ม” ซึ่งมาจากคอนเซ็ปต์ของเจ้าของร้านที่อยากให้คนที่มารับประทานอาหารที่ร้านราวกับได้ทานของสดๆ ใหม่ๆ ที่ทางร้านปรุงขึ้นจากฟาร์มโดยตรง จะเห็นได้จากความเป็น open door และตัวโครงสร้างร้านก็ทำจากไม้ มุงหลังคาด้วยสังกะสี และตกแต่งผนังด้วยสังกะสีเช่นกัน ดูเรียบง่ายแต่เก๋ไม่น้อย โต๊ะและเก้าอี้ที่ใช้ก็เป็นไม้ โดยเฉพาะเก้าอี้ที่ดูเก๋แปลกตา บางจุดประดับด้วยต้นไม้เล็กๆ ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับร้าน ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในฟาร์มเลยทีเดียว

บรรยากาศภายในร้านนั้น แม้จะเป็นร้านแบบ open door แต่ไม่ต้องกลัวร้อนเลย เพราะเพดานของร้านสูงโปร่งและมีพัดลมทั่วถึง เหมาะแก่การมาทานมื้อเย็นพร้อมรับลมเบาๆ กับครอบครัว หรือจะมาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนก็ชิลล์ไปอีกแบบ

แต่หากใครชอบนั่งทานในห้องแอร์ทางร้านก็มีห้องแอร์เป็นห้องเรือนกระจกบรรยากาศน่านั่งไว้บริการโดยไม่ได้คิดเงินเพิ่มด้วยเช่นกัน

เครื่องชาบู

เนื้อน่องลาย
เนื้อสันคอ
เนื้อใบพาย

มาถึงส่วนของอาหารกันบ้าง ร้านชาบูหน้าหม้อนี้มีเครื่องชาบูให้เลือกอิ่มอร่อยกันอย่างไม่กั๊กในราคาที่ต้องบอกว่ามิตรภาพเอามากๆ เริ่มด้วยประเภทเนื้อๆ เอาใจคนชอบเนื้อ ทางร้านก็มีให้เลือกถึงสามแบบด้วยกัน นั่นก็คือ “เนื้อน่องลาย” (ราคาถาดละ 49 บาท) “เนื้อใบพาย” (ราคาถาดละ 49 บาท) และ “เนื้อสันคอ” (ราคาถาดละ 49 บาท) ซึ่งความแตกต่างของเนื้อแต่ละส่วนก็คือ เนื้อใบพายจะนุ่มที่สุด มีมันแทรกน้อยที่สุด เหมาะแก่คนที่ชอบทานเนื้อนุ่มๆ เน้นๆ ส่วนเนื้อสันคอก็นุ่มมากเช่นกัน แต่จะมีมันมากกว่าเนื้อใบพาย รสชาติก็นุ่มและหวานมาก แถมยังมีมันเล็กๆ เพิ่มความอร่อย ส่วนสุดท้ายคือเนื้อน่อง เนื้อส่วนนี้ให้รสสัมผัสที่แปลกใหม่คือออกจะกรุบๆ กรอบๆ หนึบๆ เคี้ยวมัน แต่ไม่มีความเหนียวเลย เป็นเนื้ออีกแบบที่อร่อยมากๆ ทางร้านเลือกใช้เนื้อโคขุนจากโพนยางคำ แค่ได้ยินชื่อเหล่าคอเนื้อก็ต้องร้องอ๋อพร้อมน้ำลายสอกับเนื้อคุณภาพดีเกรดพรีเมียม ที่ทั้งนุ่ม หวาน อร่อย ไม่มีความเหนียวหรือกลิ่นไม่ดีเลย

เนื้อหมูสันคอ

สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อวัวก็จะมีเนื้อหมูให้เลือกลิ้มลองด้วยเช่นกัน โดยเนื้อหมูของทานร้านจะมีสองแบบคือ “เนื้อหมูสไลด์” (ราคาถาดละ 29 บาท) และ “เนื้อหมูสันคอ” (ราคาถาดละ 29 บาท) ทางร้านก็เลือกใช้เนื้อหมูคุณภาพดีเช่นกัน และยังสไลด์มาแบบไม่บางเกินไปและไม่หนาเกินไป ลวกสุกมาทานแล้วนุ่ม หวาน อร่อยกันเพลินสุดๆ ไปเลย

เบคอน

คอเบคอนต้องไม่พลาดเมนู “เบคอน” (ราคาถาดละ 39 บาท) ของร้านชาบูหน้าหม้อนี้ เพราะเบคอนของทางร้านไม่ใช่เบคอนหรือหมูสามชั้นทั่วไปธรรมดาๆ แต่เป็นเบคอนรมควัน ซึ่งทำให้เบคอนมีรสชาติที่กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารรมควัน อีกทั้งทางร้านยังสไลด์เบคอนรมควันนี้มาชิ้นหนากำลังดี ทำให้ได้รสชาติเบคอนแบบเต็มเหม็ดเต็มหน่วย เรียกว่าเบคอนของร้านชาบูหน้าหม้อนี้พิเศษเอามากๆ และต้องถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน

หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
กุ้งสด
เอ็นหอย

เมนูซีฟู้ดของทางร้านก็ไม่น้อยหน้า ทั้ง “หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์” (ราคาถาดละ 59 บาท) “กุ้งสด” (ราคาถาดละ 49 บาท) และ “เอ็นหอย” (ราคาถาดละ 49 บาท) ที่ต้องบอกว่า สดและหวานอร่อยอีกแล้ว ตัวหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์รับรองคุณภาพได้เลยเพราะนำเข้าโดยตรงมาจากนิวซีแลนด์โดยตรง ทางร้านก็คัดเลือกไซส์ใหญ่มากมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อยอย่างเต็มที่ กุ้งสดของทางร้านนั้นก็พิเศษตรงที่มีความกรุบกรอบ ลวกแล้วไม่มีความแข็ง แห้ง หรือเนื้อด้านแต่อย่างใด สำหรับเอ็นหอยนั้นก็เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจ รสชาติหวาน เนื้อแน่น เคี้ยวหนึบ อร่อยสุดๆ

ลูกชิ้นกุ้งหน้าหม้อ
ลูกชิ้นทรงเครื่อง

อีกเมนูพิเศษและเป็นไฮไลท์ของทางร้านก็คือ “ลูกชิ้นกุ้งหน้าหม้อ” (ราคาถาดละ 49 บาท) และ “ลูกชิ้นทรงเครื่อง” (ราคาถาดละ 39 บาท) ซึ่งเจ้าของร้านเองก็แอบกระซิบมาว่า เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมาก ตัวลูกชิ้นกุ้งทั้งสองแบบนี้เป็นของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งที่เจ้าของร้านชาบูหน้าหม้อชอบไปทานบ่อยๆ และติดใจในรสชาติลูกชิ้นกุ้ง จนเมื่อมาเปิดร้านแห้งนี้จึงไปขอซื้อลูกชิ้นกุ้งจากร้านก๋วยเตี๋ยวนั้นมาเพื่อแบ่งปันความอร่อยในแบบที่เจ้าของร้านชอบให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ซึ่งเมื่อได้ชิมก็ต้องร้อง ว้าว! จริงๆ เพราะอร่อยมาก ตัวลูกชิ้นกุ้งทั้งสองแบบนั้นเรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยเนื้อกุ้งเน้นๆ ไม่ได้เป็นแป้งๆ ให้รำคาญใจ เป็นการฟิวชั่นความอร่อยแบบง่ายๆ อย่างลูกชิ้นกุ้งในก๋วยเตี๋ยวที่คนไทยคุ้นเคยกันดีกับชาบูแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวเป็นอย่างมาก

น้ำจิ้มสองชนิดและเครื่องปรุงน้ำจิ้ม

สำหรับน้ำจิ้มของทางร้านก็มีให้เลือกอร่อยกันสองแบบ คือ “น้ำจิ้มชาบูหน้าหม้อ” สีแดงสไตล์น้ำจิ้มสุกี้แบบที่คนไทยคุ้นเคย และ “น้ำจิ้ม ponzu” แบบต้นตำรับชาบูญี่ปุ่น สำหรับน้ำจิ้มสีแดงนั้นรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ถูกใจคนไทย ส่วนน้ำจิ้ม ponzu จะเป็นเหมือนซอสใสๆ รสออกเปรี้ยวนำนิดๆ เป็นรสชาติแบบใหม่ๆ ที่น่าลิ้มลองดู น้ำจิ้มทั้งสองชนิดเป็นน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงขึ้นเอง ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของผงชูรส ทำให้ได้ลิ้มรสความอร่อยแบบแท้ๆ โดยไม่ต้องกลัวเสียสุขภาพ นอกจากนั้นทางร้านยังมีเครื่องปรุงน้ำจิ้ม ได้แก่ กระเทียมสับ, ต้นหอมสับ และพริกขี้หนูตำ ไว้สำหรับเพิ่มรสชาติให้ถูกใจแต่ละคนยิ่งขึ้นอีกด้วย

เครื่องชาบูแบบรวมๆ

สำหรับน้ำซุปของทางร้านนั้นเป็นน้ำซุปใส ทำมาจากกระดูกซี่โครงหมู ให้รสชาติหวานตามธรรมชาติ ของกระดูกซี่โครง ปรุงรสให้มีรสชาติออกเค็มนิดๆ โดยรวมแล้วเป็นน้ำซุปรสชาติเบาๆ แต่กลมกล่อม ซดได้คล่องคอ นอกจากนี้ทางร้านยังมีอีกหนึ่งซุปพิเศษอย่างซุปซี่โครงไก่เอาใจคนไม่ทานเนื้อหมูกันอีกด้วย

ลองแวะมาทาน “ชาบูหน้าหม้อ” กันสักครั้งแล้วคุณจะติดใจในรสชาติจากวัตถุดิบคุณภาพ ให้คุณกลับบ้านแบบอิ่มท้องในราคามิตรภาพ จนคุณต้องกลับมาทานอีกครั้ง !

แผนที่

อยู่ในซอยลาดพร้าว 101 เข้ามาประมาณ 1 กม. ร้านอยู่ฝั่งขวามือ ตรงข้ามร้านหมูกระทะขั้นเทพ ตรงข้ามซอยลาดพร้าว 101 แยก 39
static-map

การติดต่อ