- หน้าแรก
/
- รูป Sakana Sushi & Sashimi
Sushi Set
Sakana (魚) Sushi & Sashimi: ซูชิบาร์ขนาดเล็กแต่คุณภาพไม่เล็ก ในบรรยากาศสวนร่มรื่นใจกลางเมือง @Aree Gardenร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทที่เรียกว่า Sushi Bar กระแสเริ่มมาบูมเมื่อปีสองปีที่ผ่านมาไม่นาน และมีร้านหน้าใหม่เปิดเพิ่มขึ้นมาเจาะกลุ่มลูกค้าต่างๆกันตามเป้าหมายร้านและมีการแบ่งชิ้นเค้กกันตาม prime location ต่างๆ ถ้าพูดถึงแหล่งที่เป็น strategic location ก็คงไม่พ้นย่านทองหล่อ-เอกมัย ที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่กันเยอะ แต่ก็มีร้านน้องใหม่เปิดในย่านอื่นๆด้วยซึ่งอาจต้องการลดการแข่งขันกับเจ้าเก่าหรือหันมาจับกลุ่มลูกค้าคนไทยกลุ่มใหม่ๆมากขึ้น เหมือนเป็นการสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาครับ
ร้านซูชิมีอยู่มากมายและหลายระดับครับ คำว่า Premium ตามความเห็นผมคือร้านที่มีวัตถุดิบซึ่งหายากในเมืองไทยต้องนำเข้าอย่าง O-toro (Blue fin Tuna ส่วนที่มีไขมันมากสุด), Nama Uni (ไข่หอยเม่นสด), Foie gras, เนื้อมัตซึสากะ เป็นต้น ครั้งนี้ผมจะพามารีวิวร้านซูชิบาร์ขนาดย่อมๆ มีอยู่ไม่กี่โต๊ะ ในโครงการ Aree Garden ซึ่งเป็นแหล่ง Hang out แห่งใหม่ บรรยากาศร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆใจกลางเมืองในซอยอารีย์ครับ ผมถือว่าร้านนี้วัตถุดิบต่างๆอยู่ในเกรดพรีเมี่ยมเลยทีเดียวครับ คือมี Otoro, Nama Uni ชื่อร้านเต็มๆว่า “Sakana Sushi & Sashimi”
Sakana (魚) ชื่อร้านภาษาญี่ปุ่นเขียนด้วยตัวอักษรคันจิ 1 ตัว ความหมายคือ “ปลา” ตามโลโก้ของร้านที่เป็นรูปปลา 3 ตัวครับ โดยที่ร้านเค้ามี mission statement คือ “We only believe in top grade imported and local quality fish and meat. Deliver daily from all continents. Food Preparation: Organic Japanese base product with no MSG” ดังนั้นความหมายก็คือทางร้านจะเลือกใช้วัตถุดิบต่างๆที่มีคุณภาพดีทั้งนำเข้าจากแหล่งต่างๆและท้องถิ่น ใหม่สดทุกวัน โดยเน้นเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี และปรุงโดยไม่ใช้ผงชูรสใดๆ
[ที่ตั้งร้าน:]
• อยู่ในโครงการชื่อ Aree Garden (ร้านนี้จะตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าเลย ตรงทางเดินเข้าจากลานจอดรถด้านหน้า)
• สามารถเข้ามาได้ 2 ทาง คือจากถนนพหลโยธิน (ตรง BTS อารีย์หรือซอยราชครู พหลโยธินซอย 5) หรือจากถนนพระราม 6 ใต้ทางด่วน (พระราม 6 ซอย 30) **ผมแนะนำว่าให้เข้าทางพระราม 6 ใกล้กว่ามากประมาณ 100 เมตร
• สังเกตง่ายๆคือ Aree Garden จะอยู่ตรงข้ามป้ายสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี หรือกระทรวงการคลังในพระราม 6 ซอย 30 พอดีเป๊ะเลยครับ
[บรรยากาศและสไตล์การตกแต่งร้าน:]
ตามที่ผมได้เกริ่นไปครับ บรรยากาศโดยรอบร้านหรือบริเวณโครงการนี้ร่มรื่นดี ผมว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมานั่งพูดคุย พบปะ สังสรรค์ พักผ่อน หาไรทานกัน หลังเลิกงานได้ดีทีเดียว การตกแต่งในร้านเป็นสไตล์เรียบๆ ออกแนวบ้านญี่ปุ่นหน่อยๆ เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่นั่งมีทั้งตรงบาร์นั่งดูเชฟปั้นซูชิหรือโต๊ะแยกต่างหาก รองรับลูกค้าได้ไม่เยอะมากประมาณ 10 คนเท่านั้น หรือถ้าอยากสูดอากาศก็นั่งข้างนอกได้ครับ มองเห็นสวนด้านในโครงการ ตรงระเบียงประตูทางเข้าร้าน
[เมนูอาหาร:]
ของที่นี่ก็คล้ายๆกับร้านซูชิบาร์ทั่วไป แบ่งเป็นเมนูหลักดังนี้
• Sashimi พวก set ปลาดิบต่างๆ ราคาจะเป็นต่อ 6 ชิ้น (ราคาอยู่ในหน้าซูชิ)
• Sushi มีทั้งเป็นคำหรือเป็นเซท ยกตัวอย่างตัวราคาสูง Otoro คำละ 420 บาท (ผมว่าราคามาตรฐาน), ไข่หอยเม่นสด (Fresh Uni) คำละ 380 บาท, Matsusaka คำละ 330 บาท, Foie Gras คำละ 280 บาท, Botan Ebi คำละ 220 บาท Engawa คำละ 150 บาท นอกเหนือจากซูชิที่เป็นแบบดั้งเดิมแล้ว ที่นี่ก็มีเมนูซูชิแนว creative ของทางร้าน อย่าง Giant Toro Ikura คำละ 900 บาท (หรือ Otoro ชิ้นจัมโบ้ สอดไส้ด้วยไข่ปลาแซลมอนแบบจุใจ), Toro-Uni Gunkan คำละ 300-400 บาท (ข้าวห่อสาหร่ายหน้าโทโรสับและไข่หอยเม่น), Foursome คำละ 350 บาท (Gunkan 4 หน้า Otoro, Engawa, Fresh Uni, Ikura)
• Salad & Tataki (สลัดหรือยำแบบญี่ปุ่น) ที่นี่จะเป็นแนว DIY หรือ “Create your own dish” ให้ลูกค้าสามารถเลือกผสมวัตถุดิบต่างๆในรายการได้ตามต้องการ
• Maki & Roll ตัวเด่นจะเป็น Sakura Maki 980 บาท (หรือ โทโรสับโปะด้วยไข่ปลาแซลมอนบน maki), Kanabi Spicy Mayo Roll (200 บาท), Dragon Avocado Roll (260 บาท)
[สิ่งที่ควรรู้เมื่อมาร้านนี้:]
• สามารถจอดรถที่ลานด้านหน้าของ Aree Garden แล้วนำบัตรจอดรถมาแสตมป์ที่ร้าน (น่าจะจอดฟรี 2 หรือ 3 ชั่วโมง)
• เปิดทุกวัน 11:00 – 22:00 ตลอดวัน ไม่มีแบ่ง 2 ช่วง
• ราคาอาหารทั้งหมดในเมนู เป็นราคา net แล้ว ไม่มี ++ เพิ่มใดๆ และรวมชาเขียวร้อน/เย็น ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
• ราคาในเมนูซูชิ เค้าจะเขียนแยกอยู่ 2 ราคาคือ xx/yy นั่นคือ xx เป็นราคาซูชิหน้านั้นต่อคำ yy เป็นราคาซาชิมิของตัวนั้น 6 ชิ้น
• ซูชิส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นสไตล์ Nigiri (รูปแบบทั่วไปที่เราเห็นกัน วางเนื้อแปะบนข้าวปั้นคำๆ) หรือสไตล์ Gunkanmaki (ห่อด้วยสาหร่ายรอบข้าว อย่างไข่หอยเม่น) เน้นแบบพื้นฐานคือวัตถุดิบหลักหนึ่งอย่างต่อหนึ่งคำ มีบางเมนูที่มีวัตถุดิบ 2 – 4 อย่างต่อคำสำหรับ Gunkan
• เท่าที่ผมสังเกต มีบางเมนูที่ผมว่าไม่ค่อยมีร้านไหนเอามาทำหน้าซูชิครับ ผมว่าแปลกดี เช่น Dakku (อกเป็ดรมควัน), Gindara (ปลาหิมะ) หรือ Awabi (เป๋าฮื๊อ)
[เมนูที่ได้สั่งมาทาน:]
เนื่องจากตอนที่ผมไปทางร้านมีโปรโมชั่นคู่กับ AIS คือสั่งชุด Aburi Nigiri (หรือซูชิหน้าพรีเมี่ยมแบบลนไฟ 10 คำ) จะได้รับฟรี Salmon Nigiri x2 คำ ผมก็เลยสั่งชุดนี้มาลองดูครับ ตามมาดูกันครับว่าใน 10 คำมีหน้าอะไรบ้าง คุ้มขนาดไหนเมื่อเทียบสั่งมาทีละคำ
Aburi Nigiri Set (1,560 บาท net, Sushi x10 pcs) ประกอบด้วย //ราคาในวงเล็บ (x) คือราคาสั่งแยกมาเป็นคำ:
• *Matsusaka x 2pcs (@330 บาท,x2) สุดยอดแห่งเนื้อของญี่ปุ่นครับ ผมว่าเค้าลนไฟ overcooked ไปหน่อย เนื้อมันก็เลยรสชาติไม่ใช่อย่างที่ควรเป็น แต่ก็มีกลิ่นหอมแบบสุกๆดี มีแต้มด้วยหอมซอยแบบญี่ปุ่น ได้เนื้อชิ้นใหญ่ปิดข้าวมิด ผมว่าราคานี้ก็ปกติทั่วไป
• Awabi x 1pc (40 บาท) ซูชิหน้าเป๋าฮื๊อลนไฟ ผมว่าแปลกดีที่นำวัตถุดิบอาหารจีนมาทำหน้าซูชิ กรุบกรอบดี
• Anago x 1pc (100 บาท) หน้าปลาไหลทะเล ซอสที่ราดออกหวานๆ
• *Dakku x 1pc (80 บาท) หน้าอกเป็ดรมควัน กลิ่นหอมดี มีราดซอสมาโย คำนี้ผมว่าอร่อย
• **Engawa x 1pc (150 บาท) ครีบปลาตาเดียว ชิ้นยาวใหญ่ ลนไฟมาได้กรุบกรอบอร่อยดี โปะหน้าด้วยไข่กุ้งสวยงาม คำนี้แนะนำให้สั่ง อร่อย
• **Gindara x 1pc (150 บาท) หรือหน้าปลาหิมะ ลนไฟแล้วหอมมาก อร่อย แนะนำเหมือนกัน
• *Foie Gras x 1pc (280 บาท) ใช้ได้เลยครับ นุ่ม หอม
• Hotate x 1pc (110 บาท) หอยเชลล์ญี่ปุ่น ผมว่าธรรมดา
• Saba x 1pc (50 บาท) เน้นที่ปลาชิ้นใหญ่ ราดซอสและลนไฟมาหอม
+Free Salmon Nigiri 2 คำ ผมว่าแซลมอนตอนที่ทานยังไม่ถึงกับสดเด้งมาก แต่ก็ถือว่าผ่าน
รวมแบบคิดแยกเป็นคำๆได้ทั้งหมด 1,520 บาท ถูกกว่าสั่งเป็นชุด 40 บาท แต่พอดีได้ฟรี Salmon 2 คำ @60 บาท (=120 บาท) ก็เลยคุ้มกว่าเล็กน้อย ถ้าไม่มีโปรผมว่าสั่งแยกดีกว่าครับ
**สรุป: บทเรียนการสั่งซูชิเป็นชุดไม่จำเป็นต้องถูกกว่าสั่งแยกเป็นคำเสมอ แต่แค่ช่วยให้เราสั่งได้ง่ายและเร็วขึ้นครับ :)
ตามความเห็นผมสำหรับการทานซูชิที่ร้านต่างๆ ผมจะแยกดูส่วนประกอบ 2 อย่างครับ คือ
อย่างที่ 1: ตัวเนื้อปลาหรือวัตถุดิบอื่นๆที่ทำหน้าซูชิว่ามันมีความสดมากน้อยเพียงใด (โดยเฉพาะเนื้อปลาและไข่หอยเม่น) เตรียมหรือปรุงมาดีขนาดไหน ผมสรุปว่าของที่ Sakana ปลาสดอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนขนาดชิ้นปลาหรือเนื้อที่นี่จะให้ชิ้นใหญ่มากเมื่อเทียบกับข้าวปั้นที่ปั้นแบบกลมรี
อย่างที่ 2: ข้าวญี่ปุ่นที่ใช้ทำซูชิ ปกติจะต้องมีผสมน้ำส้มสายชูลงไปและมีความแฉะเล็กน้อย เหนียวจับเป็นก้อน ผมสรุปว่าของที่ Sakana ตัวข้าวซูชิตอนที่ไปทานเกาะกันเหนียวดีครับ
โดยรวมผมสรุปว่า ข้อดีร้านนี้คือ วัตถุดิบสดใช้ได้ เด่นที่ชิ้นใหญ่ ที่จอดรถสะดวก ราคากลางๆ (ดีตรงไม่มี ++อะไรเพิ่ม) ข้อเสียคือ ร้านเล็กไปหน่อย นั่งไม่ค่อยสบาย และของบางอย่างบางช่วงจะหมด ไม่ได้มี stock ตลอดเวลา อย่างตอนที่ผมไป Otoro หมดไม่มี เทียบกันแล้วผมว่าน้ำหนักข้อดีมากกว่าเล็กน้อย ขอให้ 4 ดาวครับ
17 Likes0 Comment
