Chocolate Ville เกษตร-นวมินทร์
Draught Beer, Weihenstephan Original (S)
ดินเนอร์สุดโรแมนติก บรรยากาศหมู่บ้านชนบทยุโรป แลนด์มาร์คที่ควรมาสำรวจซักครั้งย่านเกษตร-นวมินทร์ตัดใหม่ร้านนี้ถือว่าเป็นหนึ่งใน Best of Wongnai 2014 ที่อยู่ในความสนใจของคนจำนวนมากรวมถึงมีคนมากด Eat Here และยอดรีวิวมากมายทีเดียวครับ ซึ่งตัวผมเองกับครอบครัวมีโอกาสได้มาเที่ยวแวะชมสัมผัสพร้อมถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศและทานอาหารที่อาณาจักรซึ่งเนรมิตได้อย่างอลังการบนพื้นที่ 16 ไร่แห่งนี้เมื่อไม่นานที่ผ่านมาครับ จริงๆแล้วร้านอาหารสไตล์นี้คือตกแต่งหรือจำลองบรรยากาศเหมือนต่างประเทศในกรุงเทพมีอยู่ไม่กี่แห่ง ซึ่งในย่านฝั่งตะวันตกหรือฝั่งธนมีอยู่ที่หนึ่งคือ “บ้านน้ำเคียงดิน” ผมได้เคยรีวิวไว้แล้ว (ลองค้นหารีวิววงในของผมเพื่ออ่านข้อมูลดูได้ครับ) ผมสะดวกมาที่ร้านที่ว่ามากกว่าเพราะใกล้บ้านกว่า แต่เห็นว่าร้าน Chocolate Ville แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านแนะนำของย่านกรุงเทพฝั่งตะวันออกและบรรยากาศน่าจะใกล้เคียงกันผมเลยอยากมาลองใช้บริการและเปรียบเทียบดูซักหน่อย ถึงแม้จะอยู่ไกลจากบ้านผมซักหน่อย (อยู่คนละฝั่งกรุงเทพเลย) [ข้อมูลเกี่ยวกับร้าน:] ชื่อร้านถึงแม้ว่าจะมีคำว่า “Chocolate” แต่ที่นี่ไม่ได้เป็นร้านเน้นขายพวกขนมหวานหรือเกี่ยวข้องกับช็อคโกแลตโดยตรงนะครับ ชื่อร้านอาจทำให้เราสับสนได้เมื่อฟังตอนแรก (ผมก็ไม่ทราบที่มาของชื่อร้านเค้าเหมือนกัน) หลายคนอาจไม่ทราบว่าที่นี่เจ้าของและผู้บริหารเป็นคนเดียวกับร้าน Wine I Love You ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วครับ [ที่ตั้งร้าน:] ริมถนนเกษตร-นวมินทร์ขาออก กม.11 อยู่ช่วงตัดใหม่จากแยกถนนนวมินทร์ไปวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก คือถ้าเรามาจากอุโมงค์ลอดแยกเกษตร ให้ตรงมาเรื่อยๆยาวเลยผ่านแยกลาดปลาเค้า แยกตัดกับเลียบทางด่วน แยกรัชดา-รามอินทรา พอถึงแยกตัดกับถนนนวมินทร์ (สุขาภิบาล 1) จะเป็นสี่แยกไฟแดงใหญ่ ให้ตรงมาอีกหน่อยเป็นช่วงถนนตัดใหม่จะเห็นกังหันลมตั้งตะหง่านทางซ้ายมือเรา แปลว่าเรามาถึงแล้ว เตรียมเลี้ยวเข้ามาได้เลยครับ คุณมาถูกและถึงที่หมายแล้ว [ร้านนี้เหมาะกับใคร?] • คู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการมาดินเนอร์ในบรรยากาศแสนโรแมนติก ยามแดดร่มลมตก • กลุ่มสังสรรค์ของเพื่อนฝูงหรือ after-working-hour party • มาหา location ถ่ายรูปในโอกาสสำคัญอย่างเช่น pre-wedding หรือ รับปริญญา • กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือกลุ่มทัวร์ เท่าที่ผมสังเกตตอนไปใช้บริการมีอยู่ในสัดส่วนเยอะเหมือนกัน [บรรยากาศร้านโดยรวม:] แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนแรกด้านหน้าร้านริมถนนใหญ่ เป็นบริเวณลานจอดรถและจุดที่ลูกค้าส่วนใหญ่มาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก่อนที่ทางร้านจะเปิดให้เข้าล่วงหน้า 30 นาที (ร้านเริ่มเปิดให้บริการ 16:00 สามารถเข้าบริเวณร้านเพื่อถ่ายรูปก่อนตอน 15:30) ด้านหน้าจะมีจุดสำหรับไว้ถ่ายรูปรวมถึง prop ต่างๆ มีบ้านหลังเล็กๆสไตล์ยุโรปเป็นจุดขายของที่ระลึกรวมถึงจุดประชาสัมพันธ์ร้าน ส่วนที่สองเป็นบริเวณร้านอาหารด้านใน ถ้าเราขับรถเข้ามาจะมีลานจอดกว้างกว่าด้านหลัง จากลานจอดนี้เดินเข้ามาในบริเวณร้านอาหารได้ผ่านประตูซุ้มของร้านที่มีเอกลักษณ์และเป็นจุดถ่ายรูปสำคัญ (บอกว่าเรามาถึงแล้ว) ภายในร้านได้มีการเนรมิตให้เป็นหมู่บ้านยุโรปสวยงามแต่งแต้มบ้านเรือนและตัวอาคารด้วยสีโทนพาสเทลหวานๆ มีแม่น้ำขนาดย่อมคั่นกลางร้านเชื่อมถึงกันด้วยสะพานรูปแบบที่เหมือนในยุโรปเลย และมีประภาคารสูงโดดเด่น แบ่งออกเป็นที่นั่งทานหลายโซนมากทั้ง outdoor (ริมแม่น้ำ) และ indoor (ในอาคารบ้านไม้ทรงยุโรปหลายหลัง) ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็น Dining in the park หรือ Little Europe จากที่ผมได้เข้าไปดูเว๊บแนะนำแหล่งทานแหล่งเที่ยวในกรุงเทพของต่างประเทศครับ [เมนูอาหาร:] ที่นี่ถึงบรรยากาศจะเป็นแบบเมืองนอก แต่เมนูอาหารที่มีให้บริการเรียกได้ว่านานาชาติได้เลยครับ มีทั้งไทย ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ซีฟูดส์ รวมถึงแนวฟิวชั่น เมนูอาหารที่เรียกได้ว่า Signature Menu หันไปทางโต๊ะไหนก็มีสั่งกันก็คงไม่พ้น “ซี่โครงหมูขนาดใหญ่” หรือเรียกว่า “Spare Ribs” มีให้เลือก 2 สูตร คือ Original หรือ Honey BBQ เลือกขนาดตามจำนวนคนได้ว่าจะเอาแบบ Half Rack (5 ชิ้น) ประมาณ 400 บาท หรือ Full Rack (7 ชิ้น) ประมาณ 500 บาท แต่ผมมาไม่ได้สั่งนะครับเพราะอยากเน้นอาหารไทยรสแซบๆมากกว่า หรือเมนูอื่นๆที่เห็นสั่งกันก็จะมี ขาหมูเยอรมันทอดกรอบๆ หรือ Parma Ham Pizza เห็นมีเมนูขาหมูเยอรมันแล้วก็คงไม่พ้นต้องมีเมนูเบียร์ที่เสิร์ฟจากถังหรือ Draught Beer เป็นยี่ห้อ Weihenstephan (premium beer จากเยอรมัน) มีแบบ Original หรือ Dark (เบียร์ดำ) เลือกได้ 3 ขนาด คือ S (300mL), M (500mL), L (1000mL) ราคาล่าสุดตอนที่ผมไปคือ 125/175/340 บาทตามลำดับ เหมาะสำหรับคอเบียร์เลยครับ เมนูที่ผมสั่งตอนมาล่าสุดมีดังนี้ • *ยำมะม่วงปูไข่ (350 บาท) เป็นเมนูเด่นแนะนำของทางร้านสำหรับหมวดอาหารไทย ผมถือว่าเป็นเมนูยำที่ราคาค่อนข้างสูงเท่าที่ผมเคยทานมาครับ แต่โดยรวมก็อร่อยดีครับ ตัวมะม่วงดิบกรอบดี น้ำยำรสแซบใช้ได้แบบไทยๆ ส่วนปูเย็นที่ใส่สดและสะอาดดีมาก มีการโรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพื่อเพิ่มความอร่อยมันๆกรุบๆและเพิ่มมูลค่าให้อาหารจานนี้ การจัดจานนำเสนอดูดีน่าทานและสะอาด สรุปแนะนำครับสำหรับคนชอบทานยำ • *ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาทอดกรอบดีมากครับ แต่เป็นตัวไม่ใหญ่เหมาะสำหรับทานประมาณ 3 คนได้ น้ำปลาที่ปรุงและราดบนตัวปลาพอประมาณไม่ชุ่มแฉะทำให้ปลาไม่หายกรอบ มีน้ำยำมะม่วงเสิร์ฟมาคู่กันด้วยเพิ่มรสชาติและน้ำจิ้มซีฟูดส์สีเขียวข้นดูแล้วรสแซ่บแน่นอน การจัดจานนำเสนอดูดีน่าทานและสะอาดเช่นกัน ราคาผมจำไม่ได้เท่าไหร่ แต่ค่อนข้างสูงกว่าร้านอื่นๆ สรุปอร่อย แนะนำครับ • -- สปาเกตตี้เส้นดำทูน่าคลุกงาดำงาขาวพร้อมยำสาหร่ายสไตล์ญี่ปุ่น เป็นเมนูฟิวชั่นครับ เห็นหน้าตาในเมนูน่าทานเลยลองสั่งมาทานดู เป็นสปาเกตตี้แบบเส้นดำเสิร์ฟกับทูน่าที่ไปให้ความร้อนพอกึ่งสุกกึ่งดิบแล้วเอามาคลุกกับงาขาวและงาดำ จากที่เห็นในรูปด้านล่างชิ้นแดงสดวางสลับกับทูน่าคลุกงามันคือแตงโมนะครับ ไม่ใช่ปลาดิบใดๆ เคียงกับยำสาหร่ายแบบญี่ปุ่น ราดด้วยซอสหวานๆสไตล์ญี่ปุ่นกินคู่กับวาซาบิที่วางในจาน ส่วนตัวผมคิดว่าสำหรับจานนี้รสชาติออกหวานเลี่ยนเกินไปครับ ไม่อร่อย ตัวเส้นดำจานที่ทานผมว่าออกแข็งไปหน่อยทั้งด้านนอกและใน เมนูนี้รู้สึกผิดหวังที่สั่ง เป็นฟิวชั่นที่ผมว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่หน้าตาดูสวยงามน่าถ่ายรูปเก็บไว้ • Original 40 years Spicy Buffalo Wings (160 บาท) หรือชื่อไทยคือ “ปีกไก่ทอด 40 ปี สูตรเผ็ด” ตั้งชื่อดูอลังการดี แต่จริงๆแล้วคือปีกไก่ทอดแต่ผสมกับซอสพริกด้วยทำให้มีรสเผ็ดกลมกล่อม จิ้มกับซอสมาโยที่มาเสิร์ฟพร้อมกัน ส่วนตัวผมว่าปีกไก่ทอดยังไม่ถึงกับกรอบมากด้านนอก แต่รสชาติซอสที่ปรุงมาอร่อยดี พอใช้ได้ครับเมนูนี้ • Weihenstephan Beer Original (S) จิบแล้วชุ่มคอ แก้กระหาย กินคู่กับอาหารที่สั่งมาได้ดีเลย ค่าเสียหายทั้งหมดมื้อนี้รวมข้าวสวยและน้ำดื่มอื่นๆ (ทางร้านไม่มี +SC เพิ่มใดๆ) ประมาณ 1,5xx บาท ถือว่าราคาอาหารค่อนข้างสูงเหมือนกันครับ แต่ว่าผมสั่งมาหลายอย่างเหมือนกัน จานหนักๆทั้งนั้น เรียกได้ว่ามื้อใหญ่ครับ ถือว่ามานั่งกินบรรยากาศและได้ถ่ายรูปติดกับบ้านหลายรูปผมว่าก็คุ้มดีนะครับ สรุปตามที่ผมรีวิวมาทั้งหมด ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่า ทางร้านพยายามสื่อสารออกมาหรือ positioning ตัวเค้าเองให้คนทั่วไปทั้งไทยและเทศคิดว่าสถานที่ร้านเค้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือจุดถ่ายรูปสำหรับโอกาสสำคัญต่างๆ (หรือ Don’t Miss Destination สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เห็นได้จากการ PR ผ่านทางช่องทางสื่อต่างๆที่จับกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย) นอกเหนือจากการเป็นร้านอาหารที่เน้นมาทานเพื่อความอร่อยและสังสรรค์เพียงอย่างเดียว บวกเรื่องบริการ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องมีความสัมพันธ์และสมดุลกันครับถึงจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่ได้เคยมาทาน จากเท่าที่ผมมาใช้บริการเรื่องสถานที่ผมไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร แต่ส่วนเรื่องรสชาติอาหารโดยรวมเท่าที่สั่งหลายๆประเภทยังไม่ถึงกับไม่มีที่ติ ดังนั้นผมขอให้ 4 ดาวครับ ปล: ร้านเปิดทุกวัน 16:00-00:00... อ่านต่อ
36 Likes0 Comment
photo