3.1
2 เรตติ้ง (2 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 18:00
Slamdrunk Pub
Slamdrunk Pub ย้อนวัยกับเพลงยุคคาสเซทเทป พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารไทยฟิวชั่นรสแช่บเชื่อได้ว่าพอหลายๆคนได้ยินชื่อร้าน “Slamdrunk” อาจคุ้นหูวัยรุ่นตอนปลายหลายๆท่าน เนื่องจากมีชื่อคล้ายการ์ตูนชื่อดังเรื่องหนึ่ง ที่นิยมมากในช่วงยุค 1990 เนื่องมาจากจุดเริ่มต้นของร้านนี้เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนๆที่ชื่นชอบการฟังเพลงและเล่นดนตรี โดยแนวเพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงในยุค 1980-2000 ซึ่งเป็นยุคที่ยังใช้ “คาสเซทเทป” (Cassette Tape) ในการฟังเพลงอยู่ ภายในร้านจึงมีรูปภาพคาสเซทเทปตกแต่งอยู่ทั่วบริเวณร้าน บรรยากาศภายในร้านจะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในบรรยากาศของการกินดื่มในช่วงปี 1990 โดยเพลงที่ดีเจเปิด และเพลงที่วงดนตรีเล่น จะเน้นเพลงในยุค 1980-2000 ซะส่วนใหญ่ ที่ร้านจะมีวงดนตรีสดมาบรรเลงเพลงสุดแสนจะไพเราะให้ฟังทุกๆคืน โดยแต่ละคืนจะมีวงดนตรีสดถึง 1-3 วงต่อคืน หากท่านใดที่ชอบบรรยากาศในช่วง 1990 รับรองได้เลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน มาดูที่อาหารกันบ้าง เริ่มจากเมนูแรก “ไก่ย่าง Slamdrunk” (ราคา 150 บาท) เป็นไก่ที่หมักด้วยเครื่องเทศทั้งหมด 7 ชนิดนานถึง 2 ชั่วโมง เวลาทานเข้าไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มของไก่และกลิ่นอายของเครื่องเทศที่ค่อนข้างแรงมาก ส่วนน้ำจิ้มของทางร้านก็เป็นน้ำจิ้มที่มีรสจัด เมื่อทานกับไก่ที่หมักด้วยเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรงแล้ว ทำให้ไก่ย่าง Slumdrunk มีรสชาติที่จัดจ้านมากยิ่งขึ้น ต่อด้วยเมนูฟิวชั่นที่ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัว “สเต็กเนื้อจิ้มแจ่ว” (ราคา 220 บาท) เนื้อสันในอย่างดีถูกนำมาหมักให้เข้าเนื้อนานถึง 1 ชั่วโมง แล้วปรุงรสชาติด้วยพริกไทยดำและเกลือ จึงค่อยนำมากริลล์ให้ได้รสชาติ โดยแต่ละจานจะถูกกริลล์ให้ได้ในระดับ medium เพื่อคงความชุ่มฉ่ำจากเนื้อด้านในอยู่ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วซึ่งเข้ากันอย่างลงตัวกับสเต็กเนื้อได้อย่างไม่น่าเชื่อ ต่อกันที่ “ไก่ผัดสมุนไพร” (ราคา 150 บาท) ทางร้านได้เลือกใช้สมุนไพรของไทยทั้งหมด ประกอบไปด้วย พริกไทยอ่อน, กระเทียม, หอมเจียว, กระเทียมเจียว, ตะไคร้ และใบมะกรูด ทำให้เวลาทานจะได้กลิ่นหอมโชยติดจมูก ส่วนไก่ก็ถูกนำมาหมักนานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นจึงนำมาทอดให้มีสีเหลืองกรอบ การผัดที่ออกแห้งๆ ไม่มีน้ำมาเพิ่มเติมคืออีกหนึ่งเคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ “ปลากระพง สองฝั่งโขง” (ราคา 320 บาท) ทางร้านคัดแต่ปลากระพงตัวโตไซส์ 6-7 ขีดเท่านั้น ตัวไหนที่ไม่ได้มาตรฐานจะถูกคัดออก ปลากระพงถูกนำมาแบ่งเป็น 2 รสชาติ คือรสชาติจืดและรสชาติเผ็ด สำหรับรสชาติจืดนั้นทางร้านจะนำมาผัดกับน้ำพริกเผาเพื่อให้รสชาติออกแนวจีนๆ ส่วนอีกฝั่งจะถูกแหวกแนวออกไปทางอีสาน ให้รสชาติเผ็ดคล้ายๆกับการทานลาบ เรียกได้ว่าสั่งหนึ่งแต่ได้อร่อยถึง 2 รสชาติในจานเดียว “แซลมอนเชฟ” (ราคา 220 บาท) ตัวนี้มีดีกรีความอร่อยถึงการเป็นแชมป์มาก่อน ปลาแซลมอนถูกย่างแบบ medium จนได้ที่แล้วนำมาหั่นเต๋าแบบพอดีคำ จากนั้นจึงนำมาคลุกเคล้ากับสมุนไพรไทยอย่างใบชะพลู, ใบสาระแหน่, หอมเจียว และกระเทียมเจียว คลุกเคล้าให้ทั่วจนเข้ากัน ได้รสชาติหวานนำ จากนั้นจึงตามด้วยรสชาติของความเผ็ดและเปรี้ยวตามมา เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แซ่บซี๊ดอย่างบอกใคร มาซดน้ำซุบให้คล่องคอกันบ้างกับ “ต้มแซ่บแซลมอน” (ราคา 250 บาท) แซลมอนที่หากนำไปทำต้มแซ่บหรือต้มยำแล้วอาจจะคาว แต่เมื่อผ่านกรรมวิธีของทางร้านที่นำไปหมักและปรุงอย่างดีแล้ว ทำให้ต้มแซบแซลมอนของทางร้านไม่หลงเหลือกลิ่นคาวอยู่เลย ยิ่งเมื่อซดน้ำซุปแล้วยังอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรหลายชนิด เป็นเมนูรสแซ่บสัญชาติอีสานที่มีทั้งความเผ็ด ความจัดจ้าน พร้อมทั้งความสดของปลาแซลมอน ที่หลายๆท่านต้องยกนิ้วให้ในความอร่อยมานัดต่อนัด ปิดท้ายด้วย “คอหมูย่างซีฟู้ด” (ราคา 150 บาท) คอหมูย่างติดมันนิดหน่อย ถูกนำไปย่างจนส่งกลิ่นหอม ทานคู่กับน้ำจิ้ม 2 แบบที่มีให้เลือกทานทั้งน้ำจิ้มแจ่ว และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติอร่อยเด็ดทั้งเค็ม เปรี้ยว หวาน และเผ็ด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คุณจะได้ลิ้มลองถึง 2 รสชาติ ! ต่อกันที่เครื่องดื่มค็อกเทล “Flaming Lambroghini” (ราคา 240 บาท) เครื่องดื่มที่มีไฟลุกช่วงโชติ นอกจากพรีเซนต์จะโดดเด่นขนาดนี้แล้ว เนื่องจากค็อกเทลแก้วนี้มีส่วนผสมของ Kahlua (เหล้ากาแฟ) การจุดไฟจะเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับเหล้ากาแฟเพื่อให้กลิ่นกาแฟส่งกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น สำหรับส่วนผสมในแก้วนั้นประกอบไปด้วย Blue Curacoa, Bailey, Kahlua, Sambuga และ Triple Sec “CoLo CoLo” (ราคา 240 บาท) ส่วนผสมภายในแก้วประกอบไปด้วย D.O.M, Montezuma, Maribu} Banana Syrup, Pine Apple Juice, Lemon Juice และ Sugar Syrup เครื่องดื่มสีเหลืองสดใส ได้กลิ่นของกล้วยและมาริบลูผสมกัน เป็นกลิ่นแบบไทยๆ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงเพราะรสชาติไม่แรงมาก สำหรับเครื่องดื่มตัวสุดท้ายนั้นจะแรงเป็นพิเศษ “Black Slamdrunk Matini” (ราคา 240 บาท) ส่วนผสมภายในแก้วประกอบไปด้วย Blue Curacoa, Vodka, Kahlua, Sambuga และ Tripple Sec สำหรับคนที่คออ่อนต้องระวังเพราะเพียงไม่ถึง 2 แก้วคุณอาจเมาไม่รู้ตัว... อ่านต่อ
3 Likes0 Comment
photo