4.2
3 เรตติ้ง (3 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 17:30
Knife & Fork Steak and Ribs
Fried Chicken & Waffle
“ดินแดนแห่งใหม่ของคนรักเนื้อ (Meat Lover) มากด้วยปริมาณ คุ้มค่าด้วยคุณภาพ ที่ Knife and Fork Urban Bistro ทองหล่อ 13”ร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ใครรักเนื้อ ชอบทานเนื้อต้องมาใช้มีดใช้ซ้อมกันที่นี่ “Knife and Fork” เมนูทุกจานมากด้วยวัตถุดิบคุณภาพและมากด้วยปริมาณเกินคาด ขอรับรองว่าถ้ามาร้านนี้ต้องอิ่มแน่ๆ ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13 ตรงเข้ามาสักนิดจะเจอป้ายซอยต่อศักดิ์ เลี้ยวเข้ามา ร้านจะอยู่ซ้ายมือในอพาร์ทเม้นท์ ที่จอดรถจึงกว้างขวาง เหมาะแก่การนัดรวมตัวของกลุ่มเพื่อน บรรยากาศร้านเน้นความสบายๆ มีสัญลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ ด้วยของตกแต่งแบบอเมริกันและทหารอเมริกัน เหมาะแก่การนัดแนะมาพบปะกับเพื่อนในกลุ่มแก๊ง พร้อมเสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มเบาๆ ให้ได้นั่งชิวๆ ไปจนถึงเครื่องดื่มชั้นดีอย่างไวน์เพื่อทานคู่กับเมนูเนื้อและสเต๊กต่างๆ “Crab Avocado ( ราคา 280 บาท )” เรียกน้ำย่อยด้วยจานเบาๆ กันก่อน จานนี้เป็นเมนูแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่เน้นทานเนื้อสัตว์ เพราะจานนี้ใส่ใจสุขภาพ ดูได้จากผักสลัดสีเขียวสดที่วางเรียงสวยงาม ตรงกลางยังมีอะโวคาโด ที่ร้านนี้เสิร์ฟมาให้ในปริมาณที่คุ้มค่า ให้มาทั้งลูก ราดด้วย Dressing สูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติกลมกล่อมเข้ากับเนื้อปูคำโตมาก “Seared Scallop ( ราคา 320 บาท )” หอยเชลล์จากฮอกไกโดไซส์ใหญ่ สดใหม่ได้รสชาติถึงความหวานคำต่อคำ เน้นความ juicy จากตัวเนื้อหอยเชลล์ เติมเต็มรสชาติให้ลงตัวด้วยการราดด้วยบัลซามิกวิเนก้า รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวนุ่มนวล “Australian Wagyu Steak ( ราคา 1500 บาท )” จานหลักสำหรับคนรักเนื้อมาแล้ว สเต๊กเนื้อวากิวจากออสเตรเลีย ผ่านขั้นตอนความพิถีพิถันมาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวเนื้อนั้นมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ จะทานกับเกรวี่ซอสที่เสิร์ฟมาคู่กันหรือจะทานทั้งชิ้นเต็มคำ รสชาติก็ลงตัวอยู่แล้ว เพิ่มรสชาติด้วยเครื่องเคียง seasonal vegetables ผักหลากหลายแบบตามฤดูกาล “Rack of Lamb ( ราคา 880 บาท )” เนื้อแกะจานใหญ่ ตกแต่งจานด้วยความแปลกใหม่มีสีสัน ที่ทุกส่วนทานได้และเข้ากัน เนื้อแกะคุ้มค่าเสิร์ฟมาทั้งแร็ก ทานคู่กับซอสมิ้นท์เจลลี่ เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ หรือจะทานเดี่ยวๆ ก็ได้รสชาติและความนุ่มของเนื้อแกะเต็มคำ และยังกรุบกรอบนิดๆ จากเกร็ดขนมปังกรอบ “The Wagyu Burger ( ราคา 550 บาท )” เบอร์เกอร์ชีสเนื้อวากิว 100% อัดแน่นทั้งเนื้อวากิวและใส้ในจนทะลัก ทั้งเห็ดย่าง หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ผักสลัดสีเขียวสด และไม่ลืมที่จะเติมเต็มความเป็นอเมริกันด้วยชีสไหลเยิ้ม รสชาติกลมกล่อมด้วยบาร์บีคิวซอส สูตรของทางร้าน เสิร์ฟคู่กับเคจันฟรายด์ชิ้นใหญ่ อิ่มแน่นทั้งรสชาติอิ่มแน่นทั้งปริมาณแน่นอน นอกจากเมนูอาหารคาวแล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟเมนูของหวาน มีหลายเมนูให้เลือกลองทานแต่ที่ติดอกติดใจทั้งในรสชาติและรูปลักษณ์ต้องตัวนี้ “Gooey Brownie ( ราคา 180 บาท )” บราวนี่อุ่นร้อนเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมโฮมเมดและวิปครีม ตัวบราวนี่ทานกันแบบอุ่นๆ กรอบนอก นุ่มใน ด้านในมีความเป็นช็อคโกแลตร้อนอยู่ ตัวบราวนี่ไม่เน้นหวานมาก เหมาะกับการทานคู่ไปกับไอศกรีม ทานเพลินจนลืมไปเลยว่าจัดหนักกับอาหารคาวไปมากแค่ไหน Weekend Lunch Menu ยังมีเมนูพิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะในวันเสาร์-อาทิตย์ Knife and Fork Urban Bistro จะเปิดช่วงกลางวันด้วย “Classic French Toast ( ราคา 200 บาท )” กรุ่นกลิ่นหอมกรุ่นแบบฝรั่งเศส ขนมปังเฟรนซ์โทสต์ ด้านหน้าเป็นน้ำตาลไอซิ่ง บลูเบอร์รี่ และสตรอวเบอร์รี่ เสิร์ฟพร้อมเบคอนทอดและแยมสองรส (กีวีและสตรอวเบอร์รี่) ตัวขนมปังฟูนุ่ม ทานตอนร้อนๆ คู่กับส่วนผสมต่างๆ เข้ากันลงตัว “Fried Chicken & Waffle ( ราคา 280 บาท )” อีกหนึ่งเมนูที่เสิร์ฟมาพร้อมกินกรุ่นหอม ตัวไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน แป้งไม่หนา จัดเรียงมาอย่างสวยงามพร้อมวัฟเฟิ้ลชิ้นใหญ่ เพิ่มความหอมหวานด้วยการทานคู่กับ Maple Syrup ทานแยกไก่กับวัฟเฟิ้ลหรือทานคู่กันก็ได้ แต่โดยส่วนตัวแนะนำทานแยก เพราะจะได้รสชาติที่โดดเด่นของแต่ละตัว ที่สำคัญจะได้ไม่อิ่มและแน่นจนเกินไป เหลือท้องเผื่อทานเมนูตัวอื่นๆ ได้อีกด้วย “Baked Egg Florentine ( ราคา 240 บาท )” พ่ายแพ้ให้กับเมนูอาหารกลางวันจานนี้ ผักขมกับไข่อบในขนมปัง ปิดท้ายด้วยชีสทั่วหน้าอลังการ ขนมปังมีความหวานในตัว ตัดทานพอดีคำคู่กับชีส ผักขมและไข่ ได้ทั้งความหอม หวาน มัน เป็นอีกหนึ่งจานที่แนะนำ เสิร์ฟความอร่อยสไตล์คอมฟอทอเมริกัน(Comfort American Food) ได้แล้วทุกวัน อังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. - 22.30 น.และในวันเสาร์-อาทิตย์ สองช่วงเวลา 11.00 น. - 14.30 น. และ 17.30 น. - 22.30 น.... อ่านต่อ
9 Likes0 Comment
photo