February Sweetie ดิอัพ พระะราม 3
โทสต์คาราเมลสตอเบอร์รี่
February Sweetie @ The Up Rama3 คาเฟ่เบเกอรี่น่ารักๆ ที่สร้างสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวด้วยสิ่งของทำมือ DIYFebruary Sweetie @ The Up Rama3 คาเฟ่เบเกอรี่น่ารักๆ สำหรับครอบครัวที่ต้องการมีกิจกรรมร่วมกัน ด้วยสิ่งประดิษฐ์ DIY หัวอกพ่อแม่ทุกคนต่างรู้ดีกว่า เวลาพาลูกหลานมาเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า ต้องรับมือกับความซนของเด็กๆ ขนาดไหน ครั้นอยากจะหาร้านนั่งพัก ดื่มกาแฟ กินขนมหวานชิลล์ๆ นี้ไม่มีทางเป็นไปได้เลย แต่นั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว เพราะตอนนี้มีร้านที่ชื่อว่า February Sweetie @ The Up Rama3 คาเฟ่เบเกอรี่เก๋ๆ ที่รวมเอามุมทำงาน DIY ที่แสนน่ารัก เอาไว้สะกดความซนของเด็ก ๆ ให้อยู่หมัด ได้ยินแล้วน่าสนใจไหมล่ะ ด้วยตัวของ The Up Rama 3 นี่ตั้งอยู่ติดกับแยก ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตัดกับทางพิเศษเฉลิมมหานครพอดิบพบดี ใครที่เคยขับรถผ่านไปมาแถวนี้ต้องเคยสังเกตุเห็นอย่างแน่นอน ส่วนใครที่โดยสารรถสาธารณะก็ไม่ต้องน้อยใจนะ เพราะที่นี่เขาใกล้ BRT สถานีถนนจันทร์ หากถึงคอมมูนิตี้มอลล์แล้ว ให้เดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะพบกับร้าน February Sweetie จุดหมายของเราในครั้งนี้นั้นเอง ทันทีที่เดินขึ้นชั้นสองคุณจะสะดุดตากับประตูสีแดงของร้านคาเฟ่น่ารักแห่งนี้ ด้วยโดยรวมที่ตกแต่งด้วยไม้โทนสีอุ่น สไตล์ญี่ปุ่น เข้าชุดกับเฟอร์นิเจอร์สีพาสเทล ซึ่งร้านแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ โซน DIY คือจะมีทั้งการขายอุปกรณ์จำพวกกระดาษ สติ๊กเกอร์เทป และอุปกรณ์ทำ DIY อื่นๆ การรวมไปถึงการจัดเวิร์คช็อปทำของ DIY ต่างๆ ส่วนท้ายของร้านเป็นโซนเบเกอรี่มีกระดานดำขนาดใหญ่ ที่ทางร้านบรรจงเขียนรายชื่อเมนูต่าง ๆ เอาไว้อย่างน่ารัก ดูสิว่ามีเมนูอะไรน่ากินกันบ้าง - ลาวาราสเบอร์รี่ (169 บาท) เมนูครีเอทที่ประยุกต์เอาผลไม้รสเปรี้ยวอย่างราสเบอร์รี่มาทำเป็นไส้เค้กลาวาที่ทำจากดาร์กช็อคโกแลตเข้มข้น วางข้างด้วยวิปครีมเนื้อเนียนนุ่ม กับผลราสเบอร์รี่ให้ ซึ่งทั้งหมดช่วยรักษาบาลานซ์ความอร่อย และตัดเลี่ยนได้อย่างดี - ลาวาชาเย็น (169 บาท) อีกหนึ่งเมนูลาวาที่คล้ายกับเมนูแรก แต่เปลี่ยนไส้เป็นชาเย็นรสชาติเนียนนุ่ม ไม่หวานมาก ไปกันได้ดีกับชิ้นเค้กลาวา โรยทับด้วยอัลมอนด์สไลซ์ขนาดกำลังดี เพิ่มสัมผัสฟันเวลาเคี้ยว - Banatella Waffle (169 บาท) โดดเด่นมากสำหรับดีไซน์ของวาฟเฟิลโฮมเมด ที่ทางร้านพิมพ์ออกมาให้เป็นวงกลม และยังไม่ได้ดูดีแค่หน้าตาอย่างเดียวด้วย เพราะแป้งวาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน ก่อนจะวางทับด้วยไอศกรีมช็อคโกแลต ก่อนโรยทับด้วยฮาเซลนัต และราดทับด้วยนูเทลล่าช็อคโกแลตที่มีส่วนผสมของฮาเซลนัตเช่นเดียวกัน กินคู่กับกล้วย เข้ากันได้ดีสุดๆ - Waffle ชาไทย ใช้วาฟเฟิลโฮมเมดเช่นเดียวกันเมนูก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนเป็นวางทับด้วยไอศกรีมวานิลลา โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์และราดทับด้วยซอสชาไทยสูตรเฉพาะของทางร้าน ความหอมหวานที่ลงตัวนี้ตัดเข้ากับผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสตอเบอร์รี่ที่วางคู่กัน - โทสต์คาราเมลสตอเบอร์รี่ (195 บาท) ต้องยกนิ้วให้สำหรับไอเดียการครีเอทขนมปังโทสต์ที่ถูกหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ เคลือบทับด้วยเนยและคาราเมลเข้มข้น รสชาตินุ่มนวล แป้งกรอบนอกนุ่มใน ตักกินสลับกับไอศกรีมวานิลลา เบรคความหวานด้วยลูกสตอเบอร์รี่ชิ้นโต - โทสต์ช็อคโกแลตเฟอเรโร่ (215 บาท) นำเสนอให้ลักษณะเดียวกับเมนูก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนจากคาราเมลเป็นราดทับช็อคโกแลต แต่พรีเมี่ยมยิ่งกว่าเพราะใส่ลูกเฟอเรโร่มาด้วย ใครที่เป็นแฟนคลับเฟอเรโร่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รับรองฟินกันไปข้าง - ชาเขียวเซนชะ (120/pot) และ Matcha Green Tea Latte (80 บาท) เครื่องดื่มของที่นี่ค่อนข้างเน้นไปทางชาญี่ปุ่นเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยตัดความหวานเลี่ยนให้กับตัวขนมปังที่กินเข้าไปได้ด้วย โดยชาทั้งหมดนั้นเป็นเกรดพรีเมี่ยมนำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรง ดังนั้นจะสั่งเป็นชาร้อนอย่าง ชาเขียวเซนชะหรือสั่งเป็น Matcha greentea Latte ได้รสชาติชาออริจินอล - Soda Punch (85 บาท) และ สตอเบอร์รี่ปั่น+วิปครีม (95 บาท) มาเหนื่อยๆ ร้อนๆ ต้องสั่งโซดาพันซ์แก้วนี่ เพราะด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน บวกกับความซ่าของโซดา หรือจะสั่งเป็นสตอเบอร์รี่ปั่นที่ทำจากสตอเบอร์รี่สด ผสมกับไซรัปและโยเกิร์ต ทำให้ได้ความ หวานอมเปรี้ยว ช่วยบูทความเฟรชให้กับร่างกายได้ดีสุดๆ เขียนไปหิวไปแบบนี้ สงสัยต้องได้ไปเบิ้ลรอบสองแน่ๆ ใครที่แวะผ่านไปมาต้องลองไปชิมกันให้ได้นะ... อ่านต่อ
4 Likes0 Comment
photo