3.8
15 เรตติ้ง (15 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 14:00
Din Chu
ติ่มซำฮ่องกง กับโปรพิเศษซื้อ 1 แถม 1ถึงสิ้นปี และเป็ดปักกิ่งหนังบ๊างบางที่ลดราคาในช่วงวันพ่อถ้าพูดถึงอาหารจีน ปกติจะชอบกินอาหารจีนกวางตุ้งที่สุด และส่วนใหญ่ก็จะได้กินที่ฮ่องกงนั่นแหละ เพราะมีธุระต้องไปที่นั่นบ่อย เวลาไปฮ่องกง จะไปตลาดซื้อผักมาผัดกิน เวลาไปกินข้าวที่บ้านคนฮ่องกง เค้าจะมีพริกเผาฮ่องกงใส่ถ้วยมาด้วยนะ เอามาคลุกๆ กับข้าวนิดหน่อยอร่อยดี แล้วบะหมี่กับติ่มซำที่นั่น ขนาดเข้าร้านบ้านๆ ที่เต็มไปด้วยคนแก่ ไร้เงานักท่องเที่ยว ก็ยังอร่อยเลย ส่วนที่เมืองไทย ก็มีติ่มซำหลายร้านที่อร่อยเทียบเท่ากับที่ฮ่องกง แต่ถ้าจะกินให้ดีๆ ส่วนใหญ่มักต้องไปกินที่โรงแรม ซึ่งราคาก็จะสูงเกินไปอยู่สักหน่อย นานๆ กินทีพอได้ แต่บ่อยๆ กระเป๋าเบาแน่ๆ แต่ที่ “ติ่งฉู” เป็นร้านอาหารจีนฮ่องกงที่รสชาติเหมือนกินที่ฮ่องกงเลย พวกติ่มซำจะราคาไม่แพงมาก เข่งละไม่เกินร้อยบาท แถมตอนนี้มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 ในช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ด้วย มีไปจนถึง 31 ธ.ค. เลย ใครจะพาครอบครัว อาม่าอากงไปกินเลี้ยงปีใหม่ ไปที่นี่ก็ได้นะ ติ่มซำของ “ติ่งฉู” จะมีเมนูเด็ดๆ ให้เลือกไม่เยอะมากนัก เพราะเค้าไม่เน้นฟิวชั่น แต่เน้นต้นตำรับแบบฮ่องกงแท้ เช่น “ฮะเก๋า” (เข่งละ 95 บาท) แป้งจะบางและนุ่ม ไส้ข้างในจะเป็นเนื้อกุ้งจริงๆ ชิ้นใหญ่ๆ เลย รู้สึกได้ถึงเนื้อกุ้งเต็มๆ ส่วน “ขนมจีบ” (เข่งละ 90 บาท) หนึ่งเข่งมี 4 ลูก เนื้อกุ้งและหมูตีเข้ากันจนเนียนแน่น และ “ขนมจีบสาหร่าย” (เข่งละ 90 บาท) ขนมจีบห่อด้วยสาหร่ายด้านนอก รสชาติมันๆ จากสาหร่ายเข้ากับเนื้อขนมจีบได้ดีเลย ส่วนซาลาเปาที่นี่ก็มี 2 เมนูเด็ด คือ “ซาลาเปาไส้ไข่แดงไหล” (เข่งละ 80 บาท) เนื้อซาลาเปานุ่มและเบา พอบิออกมาไส้ไข่เค็มด้านในก็จะไหลออกมาหยาดเยิ้มยั่วน้ำลายมากๆ ปกติเวลากินซาลาเปาไส้ไหล จะกินคนเดียวไม่ต่ำกว่า 4 ลูกรัวๆ (หมายถึงกินคนเดียวหมดอย่างรวดเร็ว ไม่แบ่งใคร) อีกเมนูคือ “ซาลาเปาไส้เผือกไหล” (เข่งละ 80 บาท) แป้งซาลาเปาจะเป็นสีม่วงอ่อนๆ บิไส้ด้านในออกมาจะเจอกับไส้เผือกไหลหอมๆ มันๆ เหมาะกับคนที่อยากจะกินซาลาเปาไส้ไหล แต่ต้องระวังเรื่องแคลอรี่จากไข่แดง ก็เลี่ยงมากินไส้เผือกไหลแทนได้ ดีต่อสุขภาพมากกว่า ส่วนเมนูติ่มซำที่ไม่ใช่พวกขนมจีบซาลาเปาก็มี “ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่” (เข่งละ 75 บาท) เนื้อหมูนุ่มๆ กับซอสเต้าซี่หวานๆ เค็มๆ กลมกล่อม และ “ขาไก่นึ่งซอสแดงเต้าซี่” (เข่งละ 75 บาท) ส่วนพวกเมนูของทอดก็มีของอร่อยหลายอย่างเลยทีเดียว ทีนี่ทำของทอดได้อร่อยมาก แม้จะตั้งทิ้งไว้สักพักนึงแล้ว อาหารก็ยังคงกรอบอยู่ และไม่อมน้ำมันเลย เมนูที่ชอบมากๆ คือ “ฟองเต้าหู้ยัดไส้กุ้งทอด” (ราคา 90 บาท) ฟองเต้าหู้ด้านนอกกรอบมากๆ ส่วนเนื้อกุ้งข้างในก็เนียนนุ่ม จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยแล้วเข้ากันดี หรือแม้จะไม่จิ้มอะไรเลย รสชาติก็ยังอร่อย อีกอันคือ “เปาะเปี๊ยะทอด” (ราคา 70 บาท) เปาะเปี๊ยะไส้เผือกทอดกรอบๆ ตัวไส้ปรุงรสได้กลมกล่อมมาก เค็มๆ หวานๆ แล้วก็มี “ขนมผักกาดทอด” (ราคา 70 บาท) ขนมผักกาดเนื้อเหนียวนุ่มแบบนวดมาจนอยู่ตัวไม่เละ ทอดแบบด้านนอกกรอบๆ เล็กน้อยๆ อีกอันเพิ่งเคยกิน คือ “ห่ามโส่ยโก๊ะ” (ราคา 70 บาท) ที่ข้างนอกเป็นแป้งข้าวเหนียวทอด กรอบนอกนุ่มใน ข้างในเป็นไส้กุ้งแห้งผัดกับหมูสามชั้นตากแห้งและหมูสับ อร่อยมากเลยเมนูนี้ จบจากติ่มซำ ก็มาถึงเมนูอาหารจานหลักกันบ้าง ซึ่งอาหารของที่นี่จะมีเชฟจากฮ่องกง ที่เป็นคนฮ่องกงแท้ๆ เป็นผู้ดูแลการออกเมนูใหม่ๆ และควบคุมรสชาติอาหาร เริ่มที่เมนูโปรดสองเมนูแรกก่อน คือ “เต้าหู้พริกเกลือ” (ราคา 120 บาท) ใช้เต้าหู้คินุมาทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน แล้วเอาไปคลุกกับพริกเกลือเค็มๆ เผ็ดนิดๆ เป็นจานที่กินแล้วหยุดไม่อยู่จริงๆ เพราะเต้าหู้ทอดจะมันๆ กรอบและนิ่มในคำเดียว ส่วนพริกเกลือที่ผัดมาด้วยกัน รสชาติเหมือนพริกเกลือที่คลุกถั่วทอด เมนูเลยเป็นเมนูที่กินแล้วเพลินมากๆ เค็มๆ มันๆ เผ็ดนิดๆ อีกเมนู คือ “มะเขือยาวปลาเค็ม” (ราคา 200 บาท) เมนูนี้อยากกินมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้กินสักที คราวนี้ได้ลองก็ไม่ผิดหวัง มันเป็นเมนูที่อร่อยจริงๆ มะเขือยาวอบจนนุ่มกับหมูสับ ปลาเค็ม และน้ำพริกเผาฮ่องกง หอมกลิ่นปลาเค็มลอยมาจางๆ และมีรสชาติปลาเค็มผสมรวมอยู่ในน้ำซอสนิดๆ แต่ไม่เยอะจนเค็มเกินไป สามารถกินเปล่าๆ ได้ หรือจะกินกับข้าวก็ลงตัว ตามมาด้วย “ปลาเก๋าดำนึ่งผักแห้ง (ราคา 720 บาท) ปลาเก๋าดำสดๆ ที่ทางร้านจะมีบ่ออนุบาลปลาอยู่ในร้านด้วย ปลาจึงสดใหม่จริงๆ เพราะอาหารจีนส่วนใหญ่จะไม่เอาปลาที่ตายนานแล้วมาทำอาหาร เพราะจะทำให้ความหวานและความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาหายไป ส่วนตัวผักแห้งที่เอามานึ่งกับปลาจะเป็นผักตากแห้งของจีน ให้รสชาติหวานๆ เค็มๆ เข้ากันดีกับเนื้อปลาฉ่ำๆ มันๆ อีกเมนูจะค่อนข้างอลังการนิดนึง และเป็นเมนูที่ราคาสูงอยู่สักหน่อย แต่พอเห็นวัตถุดิบที่ใช้แล้ว ก็คิดว่าคุ้มกับราคาอยู่ นั่นคือ “กุ้งมังกรสองแผ่นดิน” (ราคา 1,800 บาท) เป็นล็อบสเตอร์หรือกุ้งมังกรที่นำไปปรุงสองแบบในจานเดียว คือ ด้านนึงผัดกับเซเลอรี่และซอส XO รสชาติจะออกเผ็ดๆ เข้มข้นๆ ส่วนอีกด้านนึงจะผัดออกมารสชาติอ่อนกว่า เนื้อกุ้งมังกรสดและเด้งดึ๋ง ผัดกับซอสมาจนเข้าเนื้อดีเลยทีเดียว ปิดท้ายด้วย “เป็ดปักกิ่ง” (ราคา 900 บาท) ที่ตอนนี้จะมีโปรลดเหลือตัวละ 599+ เฉพาะช่วงเวลา 17.00 - 22.00 น. ไปจนถึง 7 ธ.ค.นี้เท่านั้น เป็ดย่างที่ติ่งฉูหนังบางกรอบไม่อมน้ำมัน ส่วนแป้งจะเป็นแป้งแบบบางเช่นกัน กินกับน้ำราดสมุนไพรที่หอมเครื่องเทศยาจีน ไม่หวานมากเกินไปแบบที่อื่น ส่วนเนื้อเป็ดที่เหลือสามารถสั่งให้เค้าเอาไปปรุงเป็นอาหารจานอื่นได้อีก และในช่วงช่วงเทศกาลวันพ่อ 5-7 ธันวาคมนี้ ที่ร้านเค้ามีส่วนลดพิเศษ15% ทุกโต๊ะ เฉพาะค่าอาหารอีกด้วย ใครจะพาพ่อไปกินข้าว ลองไปที่นี่ดู เมนูอาหารจีนที่ “ติ่งฉู” มีหลายเมนูเลยที่ผู้สูงอายุกินได้และน่าจะชอบ สำหรับเส้นทางไปร้าน ให้วิ่งเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ถ้ามาจากเอกมัย ก็ขับตรงมาอย่างเดียวเลย พอเห็น Pure Place ก็เลี้ยวเข้าซอยที่อยู่ข้างๆ Pure Place ได้เลย ร้านติ่งฉูจะอยู่ตรงข้ามกับ Pure Place สังเกตเห็นง่ายมาก เลี้ยวขวาเข้าไปจอดรถด้านในได้เลย... อ่านต่อ
22 Likes0 Comment
photo