3.9
73 เรตติ้ง (60 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 22:30
ภูเก็ตซีฟู้ด เชียงใหม่
อาหารทะเลสดๆ ที่หาทานได้ในเชียงใหม่“อาหาร ทะเลสดๆ เน้น!รสอร่อย คุ้มค่า คุ้มราคา บริการดี ดนตรีสด เที่ยว เชียงใหม่ กินอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ ตำรับสุดยอดสูตร “ภูเก็ต” เปิดมานานกว่า 5 ปี” อาหารทะเลสดๆ เป็นปัจจัยอันดับ 1 ของความอร่อย แต่ปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยกว่าความสดเลย ก็คือ สูตรอาหารและฝีมือพ่อครัวแม่ครัว ทำให้เรามั่นใจว่า ทุกอย่างของอาหารทะเลที่อิ่มอร่อยสุดคุ้มที่เป็นหนึ่ง ลงตัวอยู่ที่เรา แล้วทำไมต้องไปกินกันไกลๆ ถึง ภูเก็ต?? ในเมื่อเราคัดสรรความอร่อยที่ รับรองว่าไม่แพ้ใคร จากสูตรดั้งเดิมของคำว่า “ภูเก็ตซีฟู้ด” มาให้คุณแล้วที่นี่” // นี่คือข้อความที่อยู่บนหน้าเว็บของร้านภูเก็ตซีฟู๊ด วันนี้น้าอ้วนมีโอกาสได้มารีวิวร้านนี้ครับ ตามน้าอ้วนมาดูเลยว่าร้านนี้จะดี และเด่นสมที่กับเขียนไว้ไหม ตั้งอยู่บน ถ.คันคลองชลประทาน อยู่ตรงซ้ายมือของทางเข้า ค่ายทหาร มทบ.33(ศูนย์ฝึก รด.) กับ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ หากใครมาจากทางสี่แยกโรงแรมเชียงใหม่ภูคำก็จะอยู่ซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากทางศาลากลางร้านก็จะอยู่ขวามือครับ บรรยากาศของร้านนี้จะมีอยู่ 3 โซนครับ คือโซนที่เป็นห้องแอร์ เย็นสบาย รองรับลูกค้าได้หลายสิบคนครับ ส่วนโซนที่สองจะเป็นด้านนอก Open Air ธรรมดาครับ ก็มีหลายสิบโต๊ะอยู่เหมือนกัน โซนนี้จะสามารถมองเห็นนักร้องเล่นดนตรีได้ถนัด และโซนสุดท้ายจะเป็น Outdoor เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโล่งๆ ชิลๆ เลยครับ สำหรับเมนูอาหารของร้านภูเก็ตซีฟู๊ด น้าอ้วนดูแล้วเยอะมากครับ มีทั้งหมวดของปลา ก็จะแยกเป็นปลาเก๋า ปลากระพง ปลาสำลี ปลาจาระเม็ด ฯลฯ รวมไปถึงปลาเต๋าเต้ย ด้วยนะครับ ในเมนูที่โด่งดังที่ กทม. คือ เมนู “เต๋าเต้ยหม้อไฟจักรพรรดิ์” เมนูนี้หาทานยาก แล้วบางครั้งมาไม่ได้ทาน บางครั้งถึงขั้นโทรจองเลยครับ และยังแยกเป็นหมวดกุ้ง หมวดหอย หมวดปู เยอะแยะมากมายครับ และแต่ละอย่างก็เอาไปทำได้หลายเมนูเลยจริงๆ ส่วนราคาของที่นี่เขาจะขายเป็นขีดครับ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะราคาต่างกัน เนื่องด้วยอาหารทะเลมีการเปลี่ยนแปลงราคาอยู่บ่อยๆ น้าอ้วนว่าน่าจะไปดูเมนูที่หน้า Fan Page ของร้านภูเก็ตซีฟู๊ดจะดีกว่า เพราะที่นี่เขาอัพเดทราคาอยู่ตลอดเวลา เมนูอาหารร้านภูเก็ตซีฟู๊ด คลิกที่นี่ มีอยู่ข้อความหนึ่งที่ประกาศบนหน้าเว็บไซต์ของร้าน “เรามีความเข้าใจถึงความรู้สึกลูกค้าดี เพราะลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ที่จะต้องรับความเสี่ยงในการรับประทานอาหาร ดังนั้นหากอาหารจานใดไม่สด ไม่อร่อย ทางร้านก็ยินดี เต็มใจ ที่จะไม่คิดราคาอาหารจานนั้นอีกด้วย” ร้านนี้เขากล้าการันตีเลยว่าอาหารเขาสด ดังนั้นน้าอ้วนต้องลองดูซิว่า วันนี้จะได้มีการติกันบ้างหรือไม่ เมนูแรกที่วางโบ๊ะ ลงบนโต๊ะก็คือ เมนูที่หลายๆ คนเวลาไปดื่ม (รวมถึงน้าอ้วนด้วย) ชอบสั่งเป็นกับแกล้ม ก็คือหมึกไข่นึ่งมะนาว อย่างแรกที่น้าอ้วนต้องชิมคือน้ำซุป … ยอมรับว่าเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ลงตัวกลมกล่อมจริงๆ ยิ่งน้ำซุปร้อนๆ ยิ่งทำให้แซ่บยิ่งขึ้น รวมถึงหมึกครับ จานนี้อดได้รับคำติจากน้าอ้วน เพราะหมึกตัวใหญ่มาก และสดกรอบ และมีไข่หมึกด้วยอร่อยเลยจานนี้ ตามมาติดๆ ด้วยกุ้งกระทะร้อน กุ้งตัวโตมากกกก จานนี้ได้มา 3 ตัวครับ เขาใช้ซอสสามรสนำมาผัดกับกุ้งและปรุงให้กลมกล่อม รสชาติลงตัวจริงๆ (ไม่ได้ชมเกินหน้า แต่มันจริง) มีพริกยักษ์ มีสัปปะรดด้วย รสชาติออกแนวจัดจ้าน และกุ้งเนื้อแน่น สดจริงๆ ปลากระพงทอดน้ำปลา เสิร์ฟพร้อมกับน้ำยำมะม่วง ปลาตัวใหญ่ดีครับ เนื้อไม่ยุ่ย เนื้อนุ่ม และไม่มีกลิ่น ทานพร้อมกับน้ำยำมะม่วงที่เปรี้ยว หวาน เผ็ด รสชาติลงตัวนะครับจานนี้ อร่อยดี ไฮไลท์ของที่นี่ที่เป็นอันดับต้นๆ ก็เห็นคงไม่พ้นปูเนื้อผัดผงกระหรี่ จานนี้จัดปูเนื้อมาตัวนี้ 5 ขีดครับ ตัวใหญ่เอาเรื่อง กลิ่นของผงกะหรี่หอมมาก รสชาติของน้ำซอสผงกระหรี่อร่อย พอมาถึงวัตถุดิบหลักก็คือเจ้าปูเนื้อ ปูนี่เนื้อแน่นครับ ก้ามปูก็ใหญ่มาก เนื้อแน่น หวาน (ถ้าปูไม่สดจริงเนื้อจะไม่หวาน) โดยสรุปแล้วจานนี้น้าอ้วนยกนิ้วให้เลยแหละ มีแต่กับข้าว ก็ขออะไรที่มันเป็นข้าวหน่อยละกัน ก็จัดเป็นข้าวผัดกุ้งมาครับ กุ้งสะใจมากเพราะกุ้งสดกรอบ ส่วนข้าวผัดก็ถือว่าธรรมดา แต่ชอบใจตรงกุ้งเนี่ยแหละ อิอิ และปิดท้ายด้วยส้มตำ รสชาติกลางๆ ไม่จัดจ้านเท่าไร แต่ถ้าเติมพริก เติมมะนาวซะหน่อย น้าอ้วนว่าจะอร่อยเลย ในส่วนเรื่องของอาหาร ก็คงได้อ่านตามที่น้าอ้วนรีวิวไปแล้วนะครับ รับรองว่าร้านนี้สดจริงครับ (แต่ถ้าไม่สดก็คืนได้ ทางร้านไม่คิดเงินครับ, สาเหตุที่อาจจะทำให้อาหารไม่สด ง่ายๆ คือคนที่ทำอาหารเขาไม่ได้เป็นคนทาน ทำได้เพียงใช้ความมั่นใจในของที่มาใหม่ รวมถึงสายตา และความรู้สึก ในการวิเคราะห์ ดังนั้นบางครั้งคุณภาพของวัตถุดิบอาจจะพลาดไปบ้าง แต่ว่ากรณีนี้จะเจอน้อยมากครับ) ที่ร้านนี้เขาจะสต๊อกสินค้า (วัตถุดิบ) ไว้ให้เพียงพอในการทำอาหารให้ลูกค้าเท่านั้น เขาจะไม่สั่งมาเป็นจำนวนมาก เพราะถ้าเวลาผ่านไป มันจะทำให้คุณภาพของวัตถุดิบพร่องลงไป (วัตถุดิบสั่งตรงจากภูเก็ตโดยตรง) และที่นี่เขาไม่ใส่ผงชูรสนะครับ อีกประเด็นหนึ่งที่ร้านนี้เขาแตกต่างจากที่อื่น อย่างที่บอกว่าอาหารทะเลที่นี่เขาจะขายเป็นขีด แต่เขาจะ Max สุดที่ 7 ขีด หลังจาก 7 ขีดเป็นต้นไป ราคาต่อขีดจะถูกลงๆ ไม่เหมือนที่อื่น เช่น ปลาเก๋า ขีดละ 58 บาท เกิน 7ขีด คิดขีดละ 20บาท หรือปลากระพง ขีดละ 42 บาท เกิน 7ขีด คิดขีดละ 20บาท... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo