4.1
313 เรตติ้ง (247 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:30
Hanaya
Sushi ที่สั่ง
花屋 : ตำนานร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกของเมืองไทย since 1939 กับเมนูแปลกหายากเบคอนปลาวาฬจริงๆแล้วร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยมีเปิดมาตั้งนานแล้ว แต่กระแสความนิยมหรือ Market Trend ของการทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนโดยมีร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกแรกๆนั้นเพิ่งมาบูมได้ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาครับ ผมว่าเหตุผลส่วนหนึ่งคือการขยายตัวของเมืองหลวงตามจุดต่างๆ ทำให้เกิดห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆหรือมอลล์ต่างๆปลูกสร้างขึ้นมาหลากหลาย รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เริ่มมีและขยายตัวออกไปตามเส้นทางต่างๆทำให้โซนอย่างทองหล่อหรือเอกมัย (ซึ่งมีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เยอะในบ้านเรา) เริ่มมีร้านอาหารญี่ปุ่นหน้าใหม่เปิดขึ้นมากมายครับ ดังนั้นการที่จะดึงดูดคนเข้าไปเดินตามห้างหรือมอลล์เหล่านั้นก็ต้องมีร้านอาหารเป็นจุดขายเช่นกัน ซึ่งถือว่าอาหารญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของหลายๆคนเพราะถูกปากคนไทยและอาจมองว่าดีต่อสุขภาพ (เพราะเน้นวัตถุดิบจากปลา) [ประวัติเกี่ยวกับร้าน:] Hanaya เกริ่นมาตั้งนาน ผมขอรีวิวเกี่ยวกับร้านนี้บ้างครับ ชื่อร้านเขียนเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นแบบคันจิได้เป็น 花屋 คำว่า Hana แปลว่าดอกไม้ ดังนั้นสัญลักษณ์โลโก้ร้านจึงเป็นรูปดังกล่าว ร้านนี้มีประวัติอันยาวนานและถือว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกของเมืองไทย ย้อนกลับไปถึงปีพ.ศ.2482 (1939) ปีแรกที่ร้านเริ่มให้บริการบนถนนสี่พระยา ซึ่งตัดกับถนนเจริญกรุงนับเป็นถนนเก่าแก่แห่งแรกๆของกรุงเทพและเป็นย่านการค้าที่สำคัญสมัยก่อน เท่าที่ผมดูรูปประวัติตามช่วงเวลาหรือ Milestone ของร้านจากในเมนูเห็นว่าช่วงปีแรกๆทางร้านมีบริการรับส่งอาหารด้วย ด้วยความสำเร็จและเปิดมาอย่างต่อเนื่องทางร้านได้ก่อสร้างขยายร้านใหม่ (บนพื้นที่ตั้งร้านปัจจุบัน) และฉลองเปิดร้านใหม่สิ้นปี พ.ศ.2509 และให้บริการมาถึงปัจจุบันครับ รวมระยะเวลาร่วม 70 ปี [ที่ตั้งและการเดินทาง:] • ถ้ามาตามถนนเจริญกรุง ช่วงจากสามแยกสุรวงศ์ (เดินรถวันเวย์) ตรงมาผ่านหน้าไปรษณีย์กลางและสี่แยกไฟแดงแรก ชิดขวาไว้แล้วพอเห็นซอยเจริญกรุง 39 เลี้ยวเข้ามาเลยอีกประมาณ 50 เมตร เห็นป้ายร้านเอารถจอดที่ลาน • ถ้ามาตามถนนสี่พระยา (จากท่าน้ำสี่พระยาตรงมาจากสี่แยกไฟแดง) หรือมาจากหัวลำโพง (เลี้ยวมาตามถนนเลียบคลองผ่านหน้าโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม ตรงมาทางสี่แยกสี่พระยาเลี้ยวซ้าย) จากแยกสี่พระยาให้ชิดขวาเลยแล้วสังเกตทางเข้าลานจอดร้านเป็นคล้ายๆอุโมงค์แคบๆลอดใต้ตึก [บรรยากาศภายในร้าน:] พอเดินเข้ามาในร้านจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของบรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆเหมือนเราเข้าไปใช้บริการร้านอาหารขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่นประมาณนั้นครับ มีตู้กระจกโชว์ชุดเกราะซามูไรโบราณอยู่มุมหนึ่งของร้าน ร้านแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนคือ ซูชิบาร์ เป็นที่นั่งบาร์หันหน้าเข้าหาตู้ซูชิและมองเชฟเวลาปั้น คล้ายๆร้านซูชิทั่วไป อีกส่วนจะเป็นโต๊ะที่นั่งแยกออกมาปกติ ต่อ 4 ที่ ผมมาใช้บริการที่นี่ก่อนหน้ารีวิวนี้ประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว ทุกครั้งมาในช่วงเย็นถึงหัวค่ำ จะสังเกตเห็นคนญี่ปุ่นมานั่งทานกันเยอะเหมือนกัน สัดส่วนคนไทยต่อคนญี่ปุ่นตอนที่ผมไปประมาณ 70:30 ครับ [สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาร้าน:] • ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด ยังไม่รวม SC ต้อง +10% รับบัตรเครดิต • บิลตอนเรียกเก็บเงิน เป็นแบบดั้งเดิมเลยคือเขียนในกระดาษแผ่นเล็กๆเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมราคารวมทั้งหมด • ร้านไม่มีสาขาใดๆ เปิดบริการทุกวันแบ่งเป็น 2 ช่วง 11:30-14:00 (รับออเดอร์สุดท้าย 13:40) และ 17:30-22:00 (รับออเดอร์สุดท้าย 21:40) • ร้านปิดทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน • เมนูอาหารของที่นี่ก็คล้ายๆกับร้านอาหารญี่ปุ่นตามห้างทั่วไป อย่างเช่น Bento Set ต่างๆ, Lunch Set, เมนูพิเศษประจำวัน, ซูชิและซาชิมิ (ชุดต่างๆ), Sushi สั่งแยกเป็นคำๆ หรือจะเป็นพวกกับแกล้มต่างๆ ส่วนขนมหวานของที่นี่เด่นๆคือพุดดิ้งชาเขียวถั่วแดง • สำหรับเมนูปลาดิบ ทางร้านจะแยกเป็น 2 เกรดคือ ปลาไทยหรือนำเข้า (Local or Import) มีบอกระบุชัดเจนในเมนูทั้งแบบชุดและสั่งเป็นคำสำหรับซูชิ ราคาค่อนข้างแตกต่างกันเยอะ • ที่นี่มีเมนูหาทานได้ยากมากอย่างเช่น เบคอนปลาวาฬ (Kujira Bacon ราคา 1,400 บาท/ ดูรูปในเมนูจากด้านล่างรีวิวของผมได้เลย) ตับปลาอังโก (500 บาท) ครีบปลากระเบน (250 บาท) เนื่องจากผมมาจัดมื้อหนักซัก 2-3 รอบได้และสั่งมาค่อนข้างหลายอย่างมากครับ ดังนั้นจะขอรีวิวทั้งหมดรวมๆเลยครับดังนี้ • Sashimi Moriawase (B) ปลาดิบรวมญี่ปุ่นกับไทยชุด B ราคา 700 บาท มี 6 อย่างคือ แซลมอน ปูอัด หอยปีกนก ซาบะดอง ปลากะพงทะเล ปลาโอ ผมเข้าใจว่าปลาโอกับกะพงทะเลเป็นของไทย โดยรวมส่วนตัวผมว่าคุณภาพกับความสดของปลากลางๆไม่ได้โดดเด่นมาก ขนาดชิ้นปลาและความหนาถือว่าใหญ่ดีสำหรับปลาโอกับกะพงทะเล (ไทย) ถ้าเทียบกับราคาชุดนี้แล้วสรุปผมว่าก็สมเหตุสมผลดีไม่แพงเกิน สั่งมาทานได้ • Youfu Katsu Teisyoku หรือชุดหมูทอดราดซอสฝรั่ง ราคา 170 บาท เป็นอาหารชุดราคาประหยัดเหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรืองบจำกัด ในชุดประกอบด้วยข้าวหน้าหมูทอดราดด้วยซอสรสชาติออกหวานนิดๆพอประมาณไม่ชุ่มเคียงด้วยสลัดผักกะหล่ำปลีฝอย มันฝรั่งบด และไข่ต้มสุกผ่า เสิร์ฟพร้อมกับมิโซะ (ไม่เค็มมาก) กับถ้วยซุปผักดองกับเต้าหู้แบบญี่ปุ่น (รสชาติจืดๆไม่จัด แต่เคี้ยวนุ่มมันดี) ส่วนตัวผมว่าชิ้นหมูทอดไม่ใหญ่มากแต่หนา ชุบแป้งทอดมาได้กรอบดีมาก ส่วนซอสที่ราดเข้ากันได้ดีไม่เลี่ยน เทียบกับร้านอื่นๆผมว่าราคาไม่แพงครับ • Makunouchi Bento (Nami) อาหารกล่องธรรมดา ราคา 220 บาท ตามสไตล์ข้าวกล่องทั่วไป มีข้าวปั้นแปะด้วยงาดำ ของทอดต่างๆ ไข่หวานม้วน ซาบะย่างซีอิ๋ว สำหรับเมนูนี้จะเป็นแค่ซุปผักดองญี่ปุ่นเฉยๆ ไม่มีเทมปุระรวมหรือปลาดิบใดๆ ช่องตรงกลางจะเป็นมะเขือม่วงดองฝานชิ้นเล็กๆไว้กินแกล้ม ถือว่าเป็นข้าวกล่องชุดธรรมดาตามชื่อที่ตัด option เมนูอาหารที่ราคาสูงออก แต่ว่าทางร้านก็มีเมนูข้าวกล่องที่มี option อื่นๆให้สั่งด้วยแต่ราคาจะสูงขึ้น ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนชอบทานข้าวกล่องที่อาจจะสั่งเมนูปลาดิบเป็นชุดแยกต่างหากทานรวมๆกันครับ สรุปผมว่าอาหารต่างๆที่ใส่ตามช่อง ค่อนข้างหลากหลายดี แต่อย่างละหน่อย รสชาติใช้ได้ ที่ผมว่าเด่นและคิดว่าอร่อยดีคือไข่หวานม้วน ราคารับได้ครับ • Ebi Tempura หรือเทมปุระกุ้ง ผมว่าเค้าทอดมาได้ดีเลยครับ แป้งข้างนอกทอดกรอบกำลังดีไม่แข็งเกิน กุ้งข้างในนุ่มดี ไม่เลี่ยนอมน้ำมัน จัดตกแต่งเสิร์ฟมาอย่างสวยงามตามแบบร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ • ปลาซาบะย่างซีอิ๋ว ครึ่งตัวส่วนหัว พร้อมผักดองหวาน ใช้ได้ • ปลาซัมมะย่างซีอิ๋ว มาทั้งตัวเลย ผมว่าเนื้อนุ่มกว่าซาบะ ราคาไม่ต่างกันมาก น่าจะ 170 บาท • ปลาไข่ย่างเกลือ ลักษณะเป็นกับแกล้ม มาทั้งตัว 3 ตัวใหญ่ๆ อร่อยมากครับ กลิ่นหอมๆ • Sushi สั่งแยกเป็นคำๆ ที่จำได้มี **Aburi Engawa 200 บาท อร่อยมากครับ หอม เคี้ยวนุ่มกรุบๆ ไม่ยุ่ยขาดเลย สั่งเบิ้ล 2 คำ แต่ราคานี้แพงไปหน่อยเทียบกับร้านอื่น, Zuwaikani หน้าขาปูสึวาอิ 200 บาท ผมว่าเฉยๆ แต่สดดี, หน้าปลาโอไทย 40 บาท ไม่ค่อยอร่อย, Ika ปลาหมึกขาว 40 บาท เคี้ยวแล้วเหนียวแต่ไม่ติดฟัน ไม่คาว อร่อย ตัวนี้สั่งได้, Mentaiko หน้าไข่ปลาคอด 50 บาท แปลกดีครับไม่ค่อยมีให้สั่งร้านอื่น ไข่ปลาเม็ดสีแดงๆรองด้วยแตงกวา กินแกล้มด้วยมะนาวฝานบางๆ ผมว่าไม่คาวดี มันๆ • พุดดิ้งชาเขียวถั่วแดง ราคา 100 บาท เมนูของหวานขึ้นชื่อของร้าน เท่าที่ผมรู้เค้าจำกัดจำนวนถ้วยที่ทำต่อวันด้วยครับ ตัวพุดดิ้งนุ่มและเด้งมากๆ รสชาติไม่หวานมาก ได้กลิ่นมัทฉะเต็มๆ เมนูนี้สุดยอดมากครับ แต่ราคาแอบแพงไปหน่อย นานๆทีได้มาลองไม่เสียหายครับ ผมแนะนำสั่งเลย ค่าเสียหายตกแต่ละมื้อที่ไปทาน รวม SC แล้วอยู่ที่ 1,900-2,100 บาท สำหรับมื้อใหญ่ 2 -3 คนครับ สรุปโดยรวมตามที่ผมรีวิวไปทั้งหมด ร้านนี้ถือว่ามีประวัติอันยาวนานมาก แต่ส่วนตัวผมว่าร้านเค้าไม่ได้บูมมากเหมือนแต่ก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นมีเยอะมากมายตามห้างหรือย่านทองหล่อ บางทีคนที่ต้องการทานก็เน้นความสะดวกมากกว่าหรือต้องการบรรยากาศแบบสีสันอย่างย่านทองหล่อ แต่ร้านนี้จุดขายก็คงยังเป็นเรื่องบรรยากาศสำหรับคนที่ต้องการสไตล์เก่าย้อนยุค (ถ้าเทียบก็เหมือนคนที่ต้องการทานอาหารไทยสไตล์ชาววังในบรรยากาศวันวานย่านเกาะเมืองรัตนโกสินทร์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพครับ) รสชาติผมว่าโดยรวมก็โอเคดี สำหรับพวกซูชิหรือซาชิมิที่ผมจะเน้นความเห็นส่วนตัวผมว่าสู้ร้านอาหารเจ้าดังๆบางร้านแถวทองหล่อยังไม่ได้ในเรื่องคุณภาพและความสด ส่วนราคาผมว่าแอบแรงบางเมนูเช่นกันครับ ขอให้ 4 ดาวครับ... อ่านต่อ
30 Likes0 Comment
photo