ผมคิดว่าหลายคนคงจะรู้จักกับ โรงแรม 137 Pillars House เชียงใหม่ อยู่แล้วแน่เลยครับ เพราะที่นี่นอกจากจะมีความสวยงามของพื้นที่โดยรอบ และเสน่ห์มนต์ขลังที่ออกมาจากเรือนไม้เก่า ที่มีเสาทั้งหมดจำนวน 137 ต้น และวันนี้นอกจากผมจะพาเพื่อน ๆ มาทัวร์ดูบรรยากาศแล้ว ผมก็จะรีวิวอาหารของที่นี่ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันครับ เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้ว เราก็ไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ
สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปโรงแรม 137 Pillars House เชียงใหม่ ผมบอกเลยว่าเดินทางไปง่ายมากจริง ๆ ถ้าเรามาจากในคูเมือง ให้ขับมาทางสะพานนครพิงค์ เมื่อลงสะพานก็ให้ขับตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยหน้าวัดเกตุ จากนั้นก็ตรงมาผ่านหน้าวัดเกตุจะเห็นซอยอยู่ทางซ้ายมือก็เลี้ยวเข้าไปเลย จากนั้นอีกประมาณ 20 เมตรก็จะเห็นโรงแรมอยู่ทางขวามือของเรา
มาถึงโรงแรม 137 Pillars House เชียงใหม่ แล้วอย่างแรกเลยก็คงต้องทำตามคำเรียกร้องของเพื่อน ๆ ที่อยากให้ผมรีวิวชุด Afternoon Tea per Couple (1,200 บาท++) ชุดน้ำชากลางวันที่ดูดีมีชาติตระกูลแบบสุด ๆ เป็นอย่างแรก โดยชุด Afternoon Tea ที่ว่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟทุก ๆ วันในช่วงเวลาตั้งแต่ 13:00-18:00 น. แล้วจะบอกเลยนะว่าชาที่นี่เขาก็เลือกใช้ Ronnefeldt Tea ชาชั้นดีจากเยอรมันเลยนะเธอ ซึ่งถ้าใครชื่นชอบการดื่มชาอยู่แล้ว ก็คงจะคุ้นชื่อนี่กันอย่างแน่นอน โดยมีชาให้เลือกดังต่อไปนี้ครับ Signature White Tea , Superior Jasmine , Royal Darjeeling , Classic Earl Grey , Aromatic Lemongrass , Calming Chamomile
คราวนี้เรามาดูของกินที่เสิร์ฟมาแบบอลังการเป็นตึกคอนโดสูง 3 ชั้นกันบ้าง เริ่มจากชั้นล่างเลย ชั้นล่างนี้ก็จะประกอบไปด้วยอาหารคาวต่าง ๆ อย่าง Smoked Salmon Wasabi Cream Cheese Rolls , Mini Chicken Curry Cone Puff , Mini Quiche Lorraine และ Organic Egg Salad, Asparagus, and Thyme Cream Cheese ถัดขึ้นมาตรงกลางก็จะมี Chocolate Eclair , Mango Coconut Panna Cotta , Apple Crumble Cake และ Stone Fruit Cake ส่วนชั้นบนสุดก็จะมี Macadamia Nut Cookie , Passion Fruit Macaroons และ Longan and Cranberry Scones ที่หลายคนติดใจนั่นเอง
สำหรับห้องอาหารที่นี่ก็จะมีชื่อว่าห้องอาหาร Palette ครับ ซึ่งผมกล้าพูดเลยว่าที่นี่มีเมนูที่น่ากินอยู่เพียบเลย โดยห้องอาหารจะมีเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 18:00 - 23:00 น. งั้นวันนี้เราก็มาเริ่มต้นรีวิวกันที่ Marinated Salmon and Mango Salad (360 บาท++) จานนี้จะเป็นการเอาสลัดผักสด, มะม่วงสุก, สตรอว์เบอร์รี, อาโวคาโด และแซลมอนสไลซ์ห่อครีมชีส มาคลุกเคล้าเข้ากับน้ำสลัดบัลซามิก เพื่อให้ได้รสเปรี้ยวอมหวานแบบว่าทานแล้วสดชื่น อะไรประมาณนั้น
Blowtorched Tiger Prawns & Salmon (550 บาท++) อีกหนึ่งจานเรียกน้ำย่อยที่ผมชอบมาก ๆ เพราะเชฟได้นำเอากุ้งลายเสือเบิร์นไฟให้สุก ส่วนเนื้อปลาแซลมอนก็เบิร์นเพียงให้สุดแค่รอบนอก ทีนี้เวลากินเข้าไปเราก็จะได้กลิ่นหอม ๆ ไง เท่านั้นยังไม่พอคุณมันยังมีกลิ่นหอมบาง ๆ ของขิง, ใบมะกรูด อยู่ด้วย พร้อมรสเค็มอ่อน ๆ ของซอสที่ราดลงไป เอาเป็นว่าได้กินแล้วน้ำย่อยพรั่งพรูออกมาแน่คุณเอ้ย
Goong Luang Kua Kao Mao Mhee (450 บาท++) จานนี้ก็เก๋ คือการนำเสนอในรูปแบบเมี่ยงคำ แต่มันเป็นเมี่ยงคำที่ใหญ่เต็มคำมาก วิธีกินก็คือเอาใบชะพลูมาห่อกุ้งแม้น้ำไซส์พี่บิ๊ก จากนั้นก็ราดซอสพริกลงไป โรยข้าวเม่า-มะพร้าวกรอบลงไปอีกหน่อยเป็นอันจบข่าว
ต่อกันที่ Lamb Chops (990++ บาท) กินคำแรกผมนี้กรี๊ดเลยพูดจริง เพราะเจ้าซี่โครงแกะออสเตรเลียจานนี้คือดีเวอร์! ผมสั่งเชฟว่าเอาแบบ Medium Rare ทีนี้เนื้อนอกก็จะดูสุก ๆ แต่พอหั่นเข้าไปเนื้อยังคงฉ่ำมากกก กินคู่กับซอสไวน์แดงรสชาติของเนื้อก็จะถูกขับออกมาเต็มปากเลย เหมือนมีแกะฝูงใหญ่วิ่งเล่นไปทั่วทั้งปาก นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเคียงเป็น Ratatouille , ผักผัดเนย และมันบด
กินของคาวแล้วก็ล้างปากกันหน่อยด้วย Raspberry Dome (190 บาท++) โดมของหวานที่ด้านในสอดไส้ด้วยมูสราสป์เบอร์รี และมูสมะม่วงให้กินกันแบบเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ นอกจากนี้ก็ยังเสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดหอมเย็นชื่นใจ
นอกจากห้องอาหารแล้วที่ 137 Pillars House เชียงใหม่ ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ Jack Bain’s Bar บาร์สไตล์วินเทจในเรือนไม้อันแสนคลาสสิก ที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะอันสวยงาม ซึ่งช่วยส่งเสริมอรรถรสในการนั่งชิลล์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเครื่องดื่มที่ผมอยากแนะนำวันนี้ก็มีสองตัวด้วยกันเริ่มจาก Welcome Tea (190 บาท++) น้ำมะตูม ผสมชาเปปเปอร์มินต์ เติมรสเปรี้ยวเข้าไปแบบเบา ๆ แบบนี้เอาไว้เสิร์ฟต้อนรับใครเขาก็โอเค The Elephant Runner (380 บาท) ซู่ซ่าแบบช้างวิ่งด้วยส่วนผสมของ น้ำส้ม, น้ำสับปะรด และน้ำมะนาว เติมกลิ่นหอมของกล้วยเข้าไปอีกหน่อย อร่อยแบบช้างคึกคักเลย
ในระหว่างที่นั่งดื่มอยู่ ถ้าใครรู้สึกเหงาปากก็สามารถสั่ง Bar Bites หรือของกินเล่นมาขบเคี้ยวไปด้วยแบบเพลิน ๆ ก็ไม่ว่ากัน โดยเมนูที่จะแนะนำก็มีเมนูของโปรดผมอย่าง Roasted Blue Cheese Pizza (160 บาท++) พิซซ่าที่บนหน้าอัดแน่นด้วยเครื่องอย่าง พาร์เมซานชีส, หัวหอมเคี่ยวหวาน ๆ และทีเด็ดของเมนูนี้อย่างบลูชีสหอมเข้มเต็มรสชีส Deep Fried Marinated Prawns (180 บาท++) กุ้งลายเสือหุ้มแผ่นปอเปี๊ยะ แล้วเอาไปห่อใบเตยก่อนทอดจนสุก เสิร์ฟให้ทานพร้อมน้ำพริกเผาแบบโบราณ และ Eggplant Bruschetta (180 บาท++) ขนมปังกรอบหน้ามะเขือม่วง ผัดกับมะเขือเทศ, กระเทียมสับ, หอมใหญ่ และไวน์ขาว โรยหน้าด้วย Brie Cheese หอม ๆ มัน ๆ
สำหรับวันนี้ก็เรียกได้ว่ารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแบบจุใจทั้งอาหาร และบรรยากาศดี ๆ ซึ่งถ้าใครอยากมาสัมผัสบ้างก็แวะมากันได้ทุกวันเลยนะครับที่ห้องอาหาร Palette และ Jack Bain’s Bar โรงแรม 137 Pillars House เชียงใหม่ แล้วก่อนจากกันไปก็อย่าลืมกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดรีวิวอาหารน่ากิน ๆ แบบนี้ที่มีมาเสิร์ฟให้ถึงที่ทุกวัน!
การเดินทาง
- ใครอยากไปร้าน 137 Pillars House เชียงใหม่ ก็ไม่ยากเลยครับ จากคูเมือง ให้ขับมาทางสะพานนครพิงค์ เมื่อลงสะพานก็ให้ขับตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยหน้าวัดเกตุ จากนั้นก็ตรงมาผ่านหน้าวัดเกตุมาให้เลี้ยวเข้าซอยทางซ้ายมือ แล้วตรงไปอีกประมาณ 20 เมตร โรงแรมจะอยู่ทางขวามือ
- เวลาเปิด-ปิด :: เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:30 - 23:00 น.
- เบอร์ติดต่อ :: 053-247-788