ในสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ หลายคนเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ที่บ้าน หลายบริษัทอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการออกมาสัมผัสกับเชื้อไวรัสตัวนี้ข้างนอกบ้าน การทำอาหารกินเองที่บ้านจึงถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่จำเป็นและเป็นตัวเลือกการบริโภคที่ปลอดภัย และสามารถควบคุมความสะอาดได้ตามต้องการ แต่ไหน ๆ ก็จะทำกินเองทั้งทีแนะนำให้ทำเมนูที่สามารถเก็บไว้กินได้นานหน่อย เพราะไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อไหร่ วันนี้ Wongnai จะขอนำเสนอ 6 สูตรเมนูอาหารยังชีพ! ทำกินเองให้ปลอดภัยช่วงโรคระบาด แถมยังเก็บไว้กินได้นานแบบสบาย ๆ อีกด้วย
1.แกงกะหรี่ไมโครเวฟ
"แกงกะหรี่" เป็นเมนูยอดนิยมที่ชอบกินตามร้าน แต่ก็สามารถทำได้ที่บ้านด้วยไมโครเวฟแบบง่าย ๆ ยิ่งอุ่นร้อนซ้ำก็ยิ่งรสขาติเข้มข้น เพียงเติมผักและเนื้อสัตว์เพิ่มเรื่อย ๆ เก็บในช่องเย็นธรรมดาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ถ้าอยากเก็บได้นานกว่านั้น แนะนำให้ตักแยกเป็น portion ใส่ในช่องแช่แข็ง จะอยู่ได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์
วัตถุดิบ
- เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบซอง 1 ซอง
- เนื้อหมูหั่นเต๋า 200 กรัม
- แครอทหั่นเต๋า 1 หัว
- มันฝรั่งหั่นเต๋า 1 หัว
- หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 1 ลูก
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ข้าวญี่ปุ่น สำหรับกินคู่
วิธีทำ
1. นำมันฝรั่ง หอมใหญ่ แครอทใส่น้ำเปล่าพอท่วมผัก นำเข้าไมโครเวฟโดยใช้ความร้อน 1,100 วัตต์นานประมาณ 5-6 นาทีจนผักสุก รินน้ำออก เตรียมไว้
2. นำเนื้อหมูใส่ชามกระเบื้อง ใส่น้ำเปล่าให้ท่วมเนื้อหมู นำเข้าไมโครเวฟโดยใช้ความร้อน 1,100 วัตต์ เป็นเวลาประมาณ 4-5 นาที รินน้ำออก เตรียมไว้
3. ผสมเนื้อหมู และผักตามด้วยซอสแกงกะหรี่ เอาเข้าไมโครเวฟอีกครั้งโดยใช้ความร้อน 800 วัตต์ นานประมาณ 8-10 นาที นำออกจากเตา
4. ตีไข่ให้เข้ากัน เทลงจานกระเบื้อง นำเข้าไมโครเวฟโดยใช้ความร้อน 300วัตต์ คอยดูเมื่อขอบไข่เริ่มสุกให้นำออกมาคนเรื่อย ๆ จนไข่สุกเป็นแผ่น แล้วนำมาโปะข้าว
2.ต้มจับฉ่าย
"ต้มจับฉ่าย" เป็นเมนูที่เราพบเห็นบ่อย ๆ ตามร้านข้าวต้มโต้รุ่ง แต่รู้ไหมว่าทำกินเองที่บ้านได้ไม่ยาก แถมยิ่งอุ่นร้อนซ้ำก็ยิ่งให้รสชาติที่ดีด้วย เพียงเติมผักและเนื้อสัตว์เพิ่มเรื่อย ๆ เก็บในช่องเย็นธรรมดาได้ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าตักแยกเป็นportionใส่ในช่องแช่แข็ง จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์
วัตถุดิบ
- น่องไก่ 500 กรัม
- ผักโขม 150 กรัม
- กะหล่ำปลี 150 กรัม
- ขึ้นฉ่าย 80 กรัม
- หัวไชเท้า 100 กรัม
- แครอท 100 กรัม
- กวางตุ้ง 100 กรัม
- เห็ดหอม 80 กรัม
- สามเกลอ 50 กรัม
- ซอสปรุงรส 30 กรัม
- ซีอิ๊วขาว ½ ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำสามเกลอผัดกับน้ำมันในกระทะพอให้มีกลิ่นหอม จากนั้นใส่แครอท หัวไชเท้า ผักโขม กะหล่ำปลี และกวางตุ้ง เห็ดหอมลงไป ผัดให้หอม พักไว้
3. นำผักที่ผัดเมื่อสักครู่ใส่ลงหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า เมื่อน้ำเริ่มเดือดให้ใส่น่องไก่ลงไป
4. ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว เกลือป่น ซอสหอยนางรม และน้ำตาลปี๊บ
5. ใช้ไฟกลางแล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ โดยใช้เวลา 20-30 นาที หรือเคี่ยวจนผักเปื่อย และนิ่มจากนั้นใส่ขึ้นฉ่ายลงไปคนให้เข้ากัน ปิดไฟ
6. ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
TIP : หมั่นคอยช้อนฟองออกขณะที่ต้มน้ำซุป เพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใสน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
3.แกงส้ม
"แกงส้ม" เป็นเมนูประจำบ้านของใครหลาย ๆ สามารถประยุกต์โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายได้ เช่น แกงส้มชะอมกุ้ง แกงส้มดอกแค เป็นต้น แกงส้มที่ยิ่งอุ่นร้อนซ้ำก็ยิ่งให้รสชาติที่ดี เพียงเติมผักและเนื้อสัตว์เพิ่มเรื่อย ๆ เก็บในช่องเย็นธรรมดาได้ประมาณ 3-4 วัน แต่ถ้าตักแยกเป็น portionใส่ในช่องแช่แข็ง จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์
วัตถุดิบ
- พริกแกงส้ม 100 กรัม
- เนื้อปลากะพงต้มสุก 150 กรัม
- กุ้งขาว 200 กรัม (ปอกเปลือก ผ่าหลัง เอาเส้นดำออก)
- ชะอม 100 กรัม (รูดเอาแต่ใบ)
- ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้น 100 กรัม
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- พริกแกงส้ม 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. โขลกพริกแกงส้ม และเนื้อปลากะพงสุกตำให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วตักขึ้นพักไว้
2. ทำไข่ชะอมโดยตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากันแล้วใส่ใบชะอมลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อนได้ที่แล้วเทไข่ลงไปทอด ทอดจนสุกทั้งสองด้าน นำขึ้นพักให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้
3. ตั้งหม้อบนเตา ใส่น้ำเปล่าเปิดไฟแรง รอจนน้ำเดือดแล้วใส่พริกแกงส้มลงไปคนให้ละลายดี รอจนเดือดอีกครั้งแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขาม และน้ำตาลปี๊บ
4. ใส่กุ้งลงไป รอจนกุ้งสุกจึงใส่ผักกาดขาวหั่นชิ้น คนให้เข้ากันแล้วนำไข่ทอดชะอมที่หั่นเตรียมไว้ใส่ลงไป เมื่อกุ้งสุกจึงตักเสิร์ฟ
TIP 1 : การใส่เนื้อปลาลงไปตำทำให้แกงส้มเข้มข้นขึ้น
TIP 2 : พอใส่กุ้งแล้วห้ามคน เพราะจะทำให้คาว
4.แกงจืด
"แกงจืด" เป็นเมนูอาหารที่ทำได้ง่าย ๆ กินกันได้ทั้งครอบครัว วิธีทำไม่ยากเลย เพียงแค่ต้มน้ำสต๊อกเตรียมไว้ แล้วนำผักหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ใส่ลงไปก็กินได้ไปอีกหลายมื้อแล้ว เก็บในช่องเย็นธรรมดาได้ประมาณ 3-4 วัน แต่ถ้าตักแยกเป็นportionใส่ในช่องแช่แข็ง จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 อาทิตย์เลยทีเดียว
วัตถุดิบ
- เนื้อหมูสับ 100 กรัม
- ผักกาดขาว 100 กรัม
- แครอท 50 กรัม
- สาหร่ายแช่น้ำพอนิ่ม 50 กรัม
- ต้นหอม 1 ช้อนโต๊ะ
- ขึ้นฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ
- สามเกลอ 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น ⅛ ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ½ ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ½ ถ้วยตวง
- ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนชา
วิธีทำ
1. ผสมเนื้อหมู พริกไทยป่น เกลือนวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนพักไว้
2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่สามเกลอต้มให้หอมแล้วใส่หมูที่ปั้นเตรียมไว้ แล้วใส่แครรอท ผักกาดขาว ต้มพอสุก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และซีอิ๊วขาว รอให้เดือดอีกครั้งใส่สาหร่าย ปิดไฟยกออกจากเตา ตักใส่ภาชนะโรยต้นหอม ขึ้นฉ่าย จัดเสิร์ฟ
5.น้ำพริกตาแดง
"น้ำพริกตาแดง" แคคิดก็เปรี้ยวปาก มีขั้นตอนการเตรียมที่ไม่ยากเลย แถมยังเป็นเมนูที่เก็บไว้ได้นานอีกด้วยโดยเวลากินแนะนำให้ตักแยกออกมาสำหรับพอกิน 1 มื้อเพื่อป้องกันการบูด แนะนำเก็บในช่องเย็นธรรมดาได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ไม่ควรเก็บในช่องแช่แข็งเพราะรสชาติจะเสีย
วัตถุดิบ
- พริกชี้ฟ้าแห้ง 100 กรัม
- หอมแดง 100 กรัม
- กระเทียม 50 กรัม
- ปลาช่อนป่นแห้ง 100 กรัม
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขาม 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นำพริกชี้ฟ้าแห้ง หอมแดง และกระเทียมมาคั่วบนกระทะด้วยไฟอ่อนจนสุก และมีกลิ่นหอม
2. นำพริกชี้ฟ้าแห้งที่คั่วปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำกระเทียม และหอมแดงมาปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้
3. นำพริกแห้ง กระเทียม และหอมแดงที่ปั่นผสมกับปลาแห้ง
4. ตั้งกระทะใส่ น้ำมันและ น้ำพริกตาแดงผัดให้หอมจากนั้นปรุงรสชาติด้วยน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ผัดจนที่ทุกอย่างเข้ากัน
5. จัดเสิร์ฟใส่ถ้วยพร้อมผักสด และผักต้มต่าง ๆ
6.หมูแดดเดียว
ปิดท้ายที่ "หมูแดดเดียว" เมนูที่เวลาไปร้านอาหารออีสานจะต้องสั่งกิน แต่ช่วงนี้แม้จะออกไปกินไม่ได้ ก็ทำกินเองแบบรสเด็ดไม่แพ้ร้าน โดยเนื้อสัตว์แดดเดียวสามารถเก็บโดยยังไม่ทอดได้ในช่องธรรมดา 1 อาทิตย์ แต่ถ้าแยกเป็น portionใส่ในช่องแช่แข็งแล้วล่ะก็ สามารถอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนเลยทีเดียว
วัตถุดิบ
- เนื้อหมูสันคอ 1 กิโลกรัม
- กระเทียม 8 กลีบ
- รากผักชี 6 ราก
- พริกไทย 2 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ช้อนชา
- งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นำเนื้อหมูสันคอมาหั่นให้เป็นเส้น
2. ตำกระเทียม รากผักชี และพริกไทยให้ละเอียด
3. นำเนื้อหมูที่หั่นแล้วใส่ในชามผสม ตามด้วย งาขาว และสามเกลอ ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา และน้ำตาลคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง
4. นำไปตากแดดจัด 1 วัน หรือนำหมูแดดเดียวมาเรียงลงบนตะแกรงแล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส อบเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
4. จากนั้นนำไปทอดเก็บไว้ แล้วนำไปประกอบกับเมนูอื่น ๆ หรือจะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เลยก็ได้!
เพียงเท่านี้! เราก็จะมีเมนูอาหารเอาไว้กินแบบหมุนเวียนได้ง่าย ๆ แม้ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน ๆ แล้ว ยิ่งแยกเก็บใส่ถุงแล้วแช่ในช่องแช่แข็งยิ่งช่วยยืดอายุการเก็บไว้ได้นาน จะกินเท่าไหร่ เวลาไหนก็เพียงหยิบออกมาอุ่นเท่านั้น แต่สิ่งที่ปลอดภัยที่สุด คือการรักษาความสะอาดของวัตถุดิบ และวิธีทำคือต้องใช้ช้อนสะอาด ไม่ใช้ช้อนที่ใช้แล้วมาตักแบ่งเก็บใส่ตู้เย็น รวมไปถึงการล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสอาหารต่าง ๆ กินอาหารที่ปรุงสุก แยกกินช้อนใครช้อนมัน จานใครจานมัน แค่นี้โรคระบาดจะไม่น่ากลัวสำหรับพวกเราอีกต่อไปแล้ว สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ ที่นี่ ได้เลย
นอกจากนี้ยังมีสูตรอาหารที่น่าสนใจอีกเพียบเช่น เมนูอาหารไทยๆ อย่างเมนู “ม้าฮ่อมะยงชิด” หรือเมนูแซ่บๆ กับเมนู “ยำขนมจีนน้ำจิ้มแจ่วสามชั้นทอด” แต่ถ้าอยากซดน้ำซุปร้อน ๆ คล่องคอก็ต้องเมนู “จิ้มจุ่ม” ตบท้ายด้วยของหวานย้อนวันวานชวนนึกถึงวัยเด็กกับเมนู “เค้กโบราณ” สามารถตามไปดูกันได้เลยจ้า!