ใครต่อใครที่อยู่ในเมืองก็น่าจะรู้สึกกันได้ว่า ร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพสมัยนี้มีอยู่มากมาย เป็นเรื่องยากที่จะหาร้านที่โดดเด่น เพราะทั้งน้ำซุป คุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน แต่ถึงกระนั้นใครต่อใครก็ยังคงไปรับประทานอยู่เพราะสามารถอิ่มได้ในราคาที่ค่อนข้างถูก วันนี้วงในค้นพบร้านชาบู ชาบู 1 ร้านที่เด็ดดวงทั้งเรื่องวัตถุดิบ และบรรยากาศ เราจะพานักชิมทุกๆ ท่านบุกมาที่สะพานควาย มาลิ้มลองชาบูบุฟเฟ่ต์ที่เสิร์ฟเนื้อวากิวคุณภาพจากออสเตรเลีย พร้อมซูชิที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพแล่กันสดๆ คุณภาพแบบเน้นๆ ที่ร้าน "Penguin Eat Shabu"
บรรยากาศข้างหน้าร้าน
เหตุผลที่ตั้งชื่อว่า Penguin ก็เพราะว่าอยากให้ร้านมีบรรยากาศที่น่ารักโดนใจเหล่าสาวๆ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทางร้านจะมีตุ๊กตาเพนกวิ้นอย่างมากมายเพื่อให้แขกทุกๆคนได้ทานไปและก็ถ่ายรูปไป เพื่อบรรยากาศอันแสนครึกครื้น ทางร้านตกแต่งแบบ Cozy Loft ซึ่งให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและอบอุ่นแต่ก็แอบแฝงไปด้วยความซุกซนในแบบฉบับวัยรุ่น ผ่านโทนสีเทาของกำแพงแบบ Bare Concrete ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าจดจำของร้านนี้เลยเดียว
มีตุ๊กตาเพนกวิ้นน่ารักๆอย่างมากมาย
บรรยากาศภายในร้าน
แต่มีแค่บรรยากาศอย่างเดียว ก็ใช่ว่าจะทำให้แขกติดใจได้ การที่ร้านอาหารสักร้านจะมีแฟนคลับติดตามอย่างสม่ำเสมอ โต๊ะเต็มตลอด ยิ่งถ้ามามื้อเย็นก็ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน จำต้องมีเมนูคุณภาพที่เด็ดดวงสุดๆ ซึ่งร้าน "Penguin Eat Shabu" ก็จัดหนักอย่างเต็มภาคภูมิด้วยบุฟเฟ่ต์ "เนื้อวากิวริบอาย" คุณภาพสูงจากออสเตรเลีย ทานแบบไม่อั้น แค่ 659 บาทเท่านั้น!
"เนื้อวากิวริบอาย"
659 บาท ก็จริงแต่ดูคุณภาพเนื้อซะก่อน! สี Marbling สดๆสวยงามแบบนี้ รสชาติเข้มข้นรสสัมผัสนุ่มนวลจนแทบจะละลายในปาก แค่เห็นรูปก็รู้แล้วว่าเป็นไม่ใช่เนื้อคุณภาพกิ๊กก๊อก ร้านนี้เขาเอาจริงสุดๆ วิธีการรับประทานก็แสนจะเรียบง่าย แค่จุ่มลงไปในน้ำซุปที่ทางร้านเคี่ยวเอง มีทั้งแบบใส (ซึ่งได้จากการเคี่ยวกระดูกไก่และหอยนานาชนิด) และแบบโชยุ (ที่ได้จากคัตสึโอะบูชิ หรือปลาโอแห้งฝาน โชยุ และส่วนผสมสูตรเฉพาะ รสชาติจะออกแนวน้ำซุปแบบ Sukiyaki แต่จะไม่เข้มบาดคอจึงซดได้เรื่อยๆแบบสบายใจ) และก็วนไปวนมา (เสียงของการจุ่มเนื้อและวนไปวนมาคือที่มาของคำว่าชาบู ชาบู)
"เนื้อริบอายจากออสเตรเลีย"
แต่ถ้าอยากเพิ่มระดับความนุ่มของเนื้อทางเราขอแนะนำวิธีการทานอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือ ให้แผ่ตัวเนื้อวากิวไว้ในชามเปล่า แล้วก็ค่อยตักน้ำซุปที่เดือดปุดๆลงไปในชามทีละนิดๆ จนเนื้อกลายเป็นสีชมพู วิธีนี้เปรียบเสมือนการ Poach หรือการลวกเนื้อแบบไฟอ่อนๆ ซึ่งจะทำให้เนื้อสุกทั่วถึงแต่ รสสัมผัสอ่อนนุ่มชุ่มฉ่ำ สามารถใช้ได้กับเนื้อสัตว์ทุกประเภทที่ผ่านการสไลซ์มาแบบบางๆ ส่วนความสุกนั้นเราสามารถกำหนดได้ ถ้าต้องการแบบ Medium Rare ให้ทานตอนเนื้อมีสีชมพู Medium ก็คือสีชมพูอ่อนๆ ถ้า Well Done หรือสุก ก็จะออกสีขาวปนน้ำตาลอ่อนจะทานสดๆ หรือจิ้มซอสสูตรพิเศษประจำร้านก็ยิ่งได้อรรถรส ไม่ว่าจะเป็นซอสพอนสึ ที่ทางร้านยอมลงทุนใช้น้ำส้มยูซุสดๆส่งตรงจากญี่ปุ่นเพื่อคุณภาพและรสชาติที่สดชื่นเป็นเอกลักษณ์สุดๆ หรือ น้ำจิ้มสุกี้สูตรพิเศษ รสแซ่บจัดจ้านรสสัมผัสค่อนข้างอ่อนสดชื่นช่วยชูรสวัตถุดิบทุกประเภทได้เป็นอย่างดี นอกจากเนื้อวากิว ทางร้านก็ยังมีวัตถุดิบคุณภาพอย่าง "เนื้อริบอายจากออสเตรเลีย" รสเข้ม มี "หมูคุโรบูตะ"รสชาติสะอาดสะอ้านรสสัมผัสเนียนนุ่มน่าหลงใหล และยังมีอาหารทะเลสดๆมาให้รับประทานกันอย่างคุ้มค่าสุดๆ
"สันคอหมูคุโรบูตะ"
"หมูปลอดสารพิษ มีให้เลือกทั้ง สันคอ หมูสามชั้น และ สันนอก"
มีทั้งอาหารทะเลสดๆ อย่างหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ และ กุ้งทะเล
แค่เนื้อวากิวคุณภาพทานไม่อั้นในราคาแค่ 659 บาท ก็คงจะทำให้คนรักเนื้อหลายต่อหลายท่านแทบจะละลาย แต่เราอยากจะบอกว่าในราคาบุฟเฟ่ต์นี้ ยังมีเมนูเด็ดอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น “ซูชิปลาแซลมอน”ใช้คิงแซลมอนสดๆ จากนอร์เวย์ตัวละ 5-6 กิโล เนื้อจึงเด้งสดใหม่มากๆ ยังไม่พอทางร้านก็มีซิกเนเจอร์โรลล์ที่โดดเด่นทั้งรสชาติและการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น “แซลมอนโรลล์” ที่ใช้คิงแซลมอนหั่นพอดีคำวางบนข้าวห่อสาหร่ายที่อัดแน่นไปด้วยครีมชีสรสกลมกล่อม ก่อนเสิร์ฟก็นำมาเบิร์นจนเกรียมนิดๆ หอมแตะจมูกแต่ไกล ราดด้วยสไปซ์ซี่มายองเนสรสเข้มข้น และท็อปด้วยไข่กุ้งสดๆ ก็เป็นอันเสร็จ
“แซลมอนโรลล์”
จากซ๊ายไปขวา “แซลมอนสไปซ์ซี่มากิ” “แซลมอนยำตะไคร้” “วากิวโรลล์”
“แซลมอนยำตะไคร้”
“แซลมอนสไปซ์ซี่มากิ” ก็เป็นอีกหนึ่งความแซ่บที่น่าลิ้มลอง คิงแซลมอนห่อในเข้าสาหร่าย ท็อปด้วยเลมอนนำเข้าสดๆ พร้อมราดซอสสไปซ์ซี่สไตล์ ไทยญี่ปุ่นฟิวชั่น หวาน เปรี้ยว แซ่บ สดชื่น สำหรับใครที่ชื่นชอบยำก็ต้องลิ้มลอง “แซลมอนยำตะไคร้”คิงแซลมอนสดๆ หั่นเป็นลูกเต๋าเท่าๆ กัน คลุกเคล้ากับน้ำยำสูตรแซ่บสดชื่นประจำร้าน
นอกจากแซลมอนทางร้านก็ใช้เนื้อวากิวมาทำเป็นซูชิเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “ซูชิวากิว” ที่ใช้เนื้อวากิวแผ่นใหญ่ๆ วางบนข้าวซูชิพอดีคำ อาบูรินิดหน่อยจนเกรียมได้ที่และราดซอสปลาไหล เวลาทานก็ให้ทานไปเลยคำเดียวหมด หรือ “วากิวโรลล์”ก็ใช้ข้าวห่อสาหร่ายอัดแน่นไปด้วยไข่หวานรสกลมกล่อม แตงกวาญี่ปุ่นกรอบสดชื่น และห่อทับอีกชั้นด้วยเนื้อวากิว ออสเตรเลียสไลซ์บางๆ แล้วค่อยอาบูริจนได้กลิ่นหอม สีเกรียมนิดๆ น่ารับประทานสุดๆ
“ซูชิวากิว” ที่ต้องผ่านขั้นตอนการอาบูริ หรือ เผาไฟให้เกรียมนิดๆ แต่หอมสุดๆ
“ซูชิวากิว” ก่อนเสิร์ฟก็โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย กระเทียมเจียว และซอสปลาไหลรสโอชา
“วากิวโรลล์”
แถมยังมีของทานเล่น เมนูซิกเนเจอร์ และ วัตถุดิบประกอบชาบู ชาบู อีกกว่า 70 อย่างให้เลือกทานแบบไม่อั้น
ไม่ว่าจะเป็น "เห็ดเข็มทองผัดเนย" หรือ "หมูพันเห็ดเข็มทอง" หอมกลิ่นเนยชวนรับประทาน
และ"ไก่คาราเกะ" กรอบนอกฉ่ำในเหมาะกับการแกล้มเบียร์
และยังมี "ไก่เทริยากิ" หนังกรอบเนื้อฉ่ำอีกด้วย
ใครที่ชอบ "เกี๊ยวซ่า" ก็ต้องโดนสักชุด แถม "เฟรนช์ฟรายส์" ของที่ร้านก็กรอบนอกนุ่มในยิ่งถ้าจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้ยิ่งเด็ด
จะจุกกันทั้งทีก็ต้องจุกด้วยคุณภาพแบบเน้นๆ บุฟเฟ่ต์วากิวคุณภาพ ราคาเพียง 659 บาท คงไม่มีที่ไหนอีกแล้วในประเทศ และสำหรับคนไม่ทานเนื้อทางร้านก็มีบุฟเฟ่ต์แบบ Full Option จัดเต็ม ราคาเริ่มต้นแค่ 359 บาท รวมถึงเมนู A La Carte อีกด้วย คุ้มเสียขนาดนี้เห็นทีต้องไปโดนบ้างแล้ว!!Penguin Eat Shabu มี 2 สาขา ที่สาขาสะพานควาย และสาขาราชพฤกษ์ เพื่อนๆ สามารถสอบถามรายละเอียเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 098-919-2632 และแฟนเพจ //www.facebook.com/penguineatshabu
