#วงในบอกมา
- ถือเป็นความเหมาะเจาะของชื่อร้านอาหารอิตาเลียน @13 Wine & Dine ที่ตัวเลข 13 นั้นมาจากทั้งที่ตั้งร้าน ณ ซอยทองหล่อ 13 และจำนวนหุ้นส่วน 13 คนที่มีความชอบในการกินอาหารเหมือนกัน
- ร้าน @13 Wine & Dine ได้เชฟมากประสบการณ์ด้านอาหารอิตาเลียนกว่า 20 ปี เป็นผู้สร้างสรรค์รสชาติของอาหารอิตาเลียนที่มีกลิ่นอายถูกปากคนไทย
- มาเยือนร้าน @13 Wine & Dine ไม่ควรพลาดเมนูตระกูล “ทรัฟเฟิล” ไม่ว่าจะเป็น “Truffle Soup” เสิร์ฟพร้อม Garlic Cheese Bread โฮมเมด หรือ “Pizza Truffle” พิซซ่าบางกรอบพร้อมซอสทรัฟเฟิลสูตรเด็ด
ถ้าไม่นับร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดกันอย่างครึกครื้นในเมืองไทยทุกช่วงถนนหนทาง เรามองว่าร้านอาหารอิตาเลียนในเมืองไทยก็มีให้เราได้ไปเยือนเพื่อลิ้มลองรสชาติไม่น้อยไปกว่ากัน และครั้งนี้เราจะขออาสาพาไปรู้จักกับ @13 Wine & Dine อีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนในเมืองไทย ซึ่งไม่เพียงเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมที่อิมพอร์ตจากอิตาลีเป็นหลัก แต่ทุกเมนูนั้นได้ผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากประสบการณ์กว่า 20 ปี ถ่ายทอดเป็นเมนูอาหารอิตาเลียนที่ยังคงแบบฉบับต้นตำรับแต่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยได้ชวนประทับใจ
เราเดาไปก่อนว่าชื่อร้าน @13 Wine & Dine มาจากที่ตั้ง ณ ทองหล่อซอย 13 ซึ่งถือว่าถูกเพียงครึ่ง เพราะจริง ๆ แล้วยังเกิดจากหุ้นส่วนร้านทั้ง 13 คนที่ล้วนมีความชอบในการกินอาหารเหมือน ๆ กัน และเมื่อตัดสินใจร่วมกันว่าอยากเปิดร้านอาหารอิตาเลียนโดยมีเชฟมากประสบการณ์ที่ทุกคนต่างยอมรับในฝีมือการทำอาหาร ร้านอาหารอิตาเลียน @13 Wine & Dine จึงเกิดขึ้น
โดยหนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน @13 Wine & Dine ได้บอกกับเราว่า 4 สิ่งที่ทางร้านให้ความสำคัญคือ 1.วัตถุดิบ โดยทางร้านเลือกแบบพรีเมียมและนำเข้าจากอิตาลีเป็นส่วนใหญ่ 2. การบริการอย่างใส่ใจจากพนักงาน 3. รสชาติและความคุ้มค่า และ 4. การปรุงอาหารของเชฟมากฝีมือ ที่เข้าใจเป็นอย่างดีทั้งวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงอาหารอิตาเลียน
มาเริ่มที่ Appetizers กันก่อนกับ “Mussels White Wine” (490 บาท) หอยแมลงภู่ออสเตรเลียผัดกับไวน์ขาวแบบครีมมีนิด ๆ พร้อมด้วยกระเทียมและพาสลีย์ เมนูนี้เชฟบอกเราว่าต้องใช้ไฟแรงเพื่อดับกลิ่นคาวของหอยและชูกลิ่นไวน์ขาวให้หอมโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ต่อด้วยหมวด Soup ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนั่นคือ “Truffle Soup” (390 บาท) ซอสสูตรเฉพาะทำจากทรัฟเฟิลจากอิตาลี นำมาเคี่ยวและผัดกับพอร์ตไวน์ จนได้ความเข้มข้นและกลิ่นที่เหมาะเจาะ เสิร์ฟพร้อม Garlic Cheese Bread แบบโฮมเมดที่เชฟทำเอง ส่วนตัวเราว่าเข้ากันได้ดีมาก
ต่อด้วยเมนูตระกูล Pasta ที่เราสามารถเลือกเส้นที่ชอบกับเมนูที่ใช่ได้ แต่ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ลิ้มลองเมนูใหม่ได้แก่ “Linguine Scallops” (790 บาท) เส้นลิงกวินีเนื้อสัมผัสกำลังดี ไม่สุกหรือแข็งจนเกินไป ผัดกับหอยเชลล์ฮอกไกโดสไตล์ผัดพริกกระเทียมเพื่อให้มีรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย ก่อนจะไปกันที่ Main Course กับ “Lamb Chop” (1,180 บาท) ซี่โครงแกะที่หมักจนได้รสชาติเข้มข้น และย่างได้นุ่มฉ่ำกำลังดี และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นสาบกวนใจ เสิร์ฟพร้อมซอสโรสแมรีและมินต์ซอส เชฟแอบกระซิบบอกเราว่า ถ้าใครอยากได้ฟีลแบบไทย ๆ ก็สามารถขอน้ำจิ้มแจ่วเพิ่มความแซ่บกันได้
แน่นอนว่ามาร้านอาหารอิตาเลียนจะไม่ลองพาร์ท Pizza ก็ดูจะมีมิชชันไม่คอมพลีท ซึ่งถ้าใครติดใจ “Truffle Soup” เมนูเด็ดของทางร้าน @13 Wine & Dine เราไม่อยากให้พลาด “Truffle Pizza” (590 บาท) ด้วยเช่นกัน โดยเชฟบอกเราว่าจะต้องตีแป้งและพักไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพื่อให้มีความเหนียวและยืดหยุ่นที่ดี รวมถึงใส่โอลีฟออยเพิ่มความหอม จนได้พิซซ่าที่แป้งบางกรอบพร้อมด้วยซอสทรัฟเฟิลสูตรเฉพาะที่จัดเต็มทุกอณูทุกคำ ใครไม่เบิลชิ้นสองถือว่าใจแข็งพอสมควร
ก่อนจะไปกันที่ Main Course กับ “Lamb Chop” (1,180 บาท) ซี่โครงแกะที่หมักจนได้รสชาติเข้มข้น และย่างได้นุ่มฉ่ำกำลังดี และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นสาบกวนใจ เสิร์ฟพร้อมซอสโรสแมรีและมินต์ซอส เชฟแอบกระซิบบอกเราว่า ถ้าใครอยากได้ฟีลแบบไทย ๆ ก็สามารถขอน้ำจิ้มแจ่วเพิ่มความแซ่บกันได้
และห้ามพลาดเมนูสุดพิเศษกับ “Canadian Lobster” (ไซส์ L น้ำหนัก 1.3-1.5 กิโลกรัม/ 4,900 บาท) ที่ต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้นเพื่อให้เราได้ลิ้มรสความสดและหวานของเนื้อล็อบสเตอร์ได้ดีที่สุด โดยทางร้านจะมีล็อบสเตอร์ให้เลือกทั้งไซส์ S, M และ L รวมถึงสามารถเลือกเมนูพาสต้าที่อยากลิ้มลองพร้อมกับล็อบสเตอร์เมนูนี้ได้อีกด้วย
นอกเหนือไปจากรสชาติของอาหารอิตาเลียนที่เราอยากเชียร์ให้คนไทยได้มาลิ้มลองและเชื่อว่าจะประทับใจได้ไม่ยาก ทางร้าน @13 Wine & Dine ยังพร้อมให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนพร้อมความพิเศษด้วยเสียงดนตรีสดเพราะ ๆ ทุกคืนวันพุธ, วันศุกร์ และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 - 22.30 น.
รวมถึงใครที่สนใจอยากจองห้องประชุมระหว่างวันพร้อมคอฟฟี่เบรก ทางร้านอาหารอิตาเลียน @13 Wine & Dine ก็พร้อมให้บริการ โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก หรือ โทร. 02-382-1313 ได้เลยค่ะ
การเดินทาง
หากใครต้องการมาลิ้มลองอาหารอิตาเลียนที่ร้าน @13 Wine & Dine เราแนะนำให้เดินทางแบบสะดวกสบายสุด ๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อ ทางออก 3 จากนั้นเดินมายังซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ต่อรถแท็กซี่หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์มายังซอยทองหล่อ 13 (ซอยอัครภัทร) สังเกตทางซ้ายมือร้านอาหารอิตาเลียนทองหล่อ @13 Wine & Dine จะตั้งอยู่ด้านหน้าของ ฌาณิ เรสซิเดนซ์ นั่นเองค่ะ