Beauty Story Ep.25 เคล็ดลับดึงดูดชีวิตดี๊ดี แบบไม่ต้องวิ่งตาม
  1. Beauty Story Ep.25 เคล็ดลับดึงดูดชีวิตดี๊ดี แบบไม่ต้องวิ่งตาม

Beauty Story Ep.25 เคล็ดลับดึงดูดชีวิตดี๊ดี แบบไม่ต้องวิ่งตาม

แค่ยืนสวย รวย เก่ง น่ารักแล้วปล่อยให้พลังบวกในตัวดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาเอง Beauty Story Ep. นี้จะพาทุกคนมาเรียนรู้ และเก็บทริคดี ๆ กันค่ะ
writerProfile
15 พ.ย. 2024 · โดย

Once in a lifetime ขอใช้ชีวิตแบบที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางโดยไม่ต้องวิ่งไล่ตามอะไร แค่ยืนสวย รวย เก่ง น่ารักแล้วปล่อยให้พลังบวกในตัวดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาเอง ฟังดูเกินจริงไปหน่อย แต่แนวคิดนี้มีจริงนะสาว และมันคือ That Girl Energy พลังที่จะทำให้เราเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสำเร็จ ความรัก และชีวิตที่เราต้องการ โดยไม่ต้องเหนื่อยไล่ตาม

.

“I don’t chase, I attract, what belongs to me will simply find me” นี่คือประโยคของสาว ๆ ตัวแม่อย่าง Kendall Jenner และ Thewizardliz ที่เราได้ฟังแล้ว รู้สึกว่าพลังในตัวเราได้ถูกปลดล็อค ลองคิดดูนะ ถ้าเราแค่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และใช้พลังภายในเพื่อดึงดูดสิ่งดี ๆ แทนการวิ่งไล่ตาม ทุกอย่างที่เราต้องการอาจจะอยู่แค่เอื้อมก็ได้ Beauty Story Ep. นี้จะพาทุกคนมาเรียนรู้ และเก็บทริคดี ๆ กันค่ะ

.

(1) MINDSET RESET Stop Chasing! หยุดวิ่งตาม แล้วหันมาดึงดูดกันดีกว่า

.

ไถฟีดไปเรื่อย ๆ เพื่อนคนนั้นก็มีบ้านแล้ว

เปิดสตอรีไอจี อ้าว ชีเพื่อนคนนี้เปิดร้านคาเฟ่บลา ๆ ไปแล้ว

อายุเท่ากัน แล้วนี่เรามีอะไรเป็นของตัวเองบ้างนะ?

เชื่อว่าสักแวบนึงของชีวิตเราอาจเจอความคิดแบบนี้ปะทะเข้าให้บ้าง บางคนปล่อยผ่านก็ดีไป แต่บางคนเก็บมาคิดไว้แล้วกดดันให้ตัวเองต้องประสบความสำเร็จ ต้องวิ่งไปจนถึงเส้นชัยห้ามหยุด จนพาลให้เครียด รู้สึกหมดพลังใจไปซะก่อน แต่เชื่อไหมว่ามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น!

.

“คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกประการด้วยเถิด” จริง ๆ แล้วในคีย์เวิร์ดขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูท่าอาจมาก่อนกาลในเรื่องการปรับ Mindset ก็เป็นได้ อย่างแรกแค่ลองเริ่มจากการปล่อยวางความคิดที่ว่า "ต้องได้ในทันที" แล้วเปลี่ยนทัศนคติเป็น “ดึงดูด สิ่งที่เป็นของเราในไม่ช้าก็จะเป็นของเราแน่นอน” แบบนี้แทน ไม่จ้อจี้นะ ที่ว่ามานี้ก็คล้องจองไปกับ “กฎแห่งการดึงดูด (Law of Attraction)” ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 1877 บนหนังสือของคุณ Helena Blavatsky นักปรัชญาและนักเขียนชาวรัสเซีย ที่เชื่อว่าพลังงานบวกในจิตใจสามารถนำสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้ หรือที่เรียกว่า “𝙡𝙞𝙠𝙚 𝙖𝙩𝙩𝙧𝙖𝙘𝙩𝙨 𝙡𝙞𝙠𝙚” ลองปรับมุมมองให้เชื่อว่าทุกสิ่งมีเวลาของมัน แล้วจะพบว่าความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นง่ายกว่าที่คิด

.

พอปรับ Mindset ได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการคิดจริงจัง ที่เรียกว่า 𝗠𝗮𝗻𝗶𝗳𝗲𝘀𝘁𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 นั่นเอง คุ้น ๆ ใช่ไหมล่ะ แนวคิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จากหนังสืออย่าง The Secret เดอะซีเคร็ตกฎแรงดึงดูด (2006) เขียนโดย คุณรอนดา เบิร์น ที่สร้างยอดขายได้มากกว่า 30 ล้านเล่ม และยิ่งตอกย้ำความปังด้วยการติด #manifestation บน TikTok ที่มียอดเข้าชมวิดีโอในปัจจุบันกว่า 49.4 ล้าน views เลยทีเดียวมันคือการสร้างภาพความสำเร็จในจิตใจให้ชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ใช่แค่เพียงคิดถึงเป้าหมายแบบผิวเผิน แต่ต้อง จินตนาการถึงสิ่งที่ต้องการด้วยรายละเอียดที่สมจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือความรู้สึก แล้วเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นได้จริง

.

“ความชัดเจนคือกุญแจสำคัญ” การจินตภาพสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจนที่สุด ที่ไม่ใช่แค่การหวังหรือคิดถึงเป้าหมาย แต่ต้องให้สมองของเราได้สัมผัสกับภาพนั้นราวกับว่าเราครอบครองมันอยู่แล้ว

ลองนึกภาพว่าเป้าหมายของเราคือการได้งานในฝัน จินตนาการถึงวันที่ HR โทรมาบอกว่ายินดีต้อนรับเข้าทำงาน เห็นตัวเองนั่งทำงานในออฟฟิศที่ต้องการ หรือรู้สึกถึงความภูมิใจในความสำเร็จ ซึ่งทุกครั้งที่เราจินตนาการแบบนี้ สมองก็จะเริ่มเชื่อว่ามันเป็นไปได้ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างพลังใจแบบแรงกล้าเปี่ยมล้น

.

แต่ก่อนที่จะ Manifest อะไรเข้ามาในชีวิต ลองหยุดคิดให้ดีก่อนว่าแท้จริงแล้วเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ หรือเปล่า

นักจิตวิทยามีทฤษฎีที่น่าสนใจเรื่อง Self - Determination Theory (SDT) ที่บอกว่าการมีแรงจูงใจภายในที่แท้จริง จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ดีกว่าการมีแรงจูงใจภายนอก เช่น ความต้องการเป็นที่ยอมรับของคนอื่น หรือการแข่งขัน ดังนั้นก่อนจะเริ่มต้นกระบวนการ Manifest ใด ๆ ลองถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า สิ่งที่เราต้องการนั้นตรงกับความต้องการที่แท้จริงของเราหรือเปล่านะ

.

(2) Manifest Like a Pro คิดอย่างเดียวไม่เกิด ถ้าอยากเกิดต้องลงมือทำ

.

ใช่ว่านั่งคิดอย่างเดียวแล้วความสำเร็จใด ๆ เอยจะเข้ามาเอง แบบนั้นก็ดูเหนือธรรมชาติ แบบส้มหยุดไปหน่อย เมื่อเราตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ขั้นตอนนี้เรียกว่าสำคัญมาก นั่นคือการลงมือทำมันด้วยความเชื่อมั่น ด้วยพลังใจที่เต็มเปี่ยมว่ายังไงเราก็จะต้องได้สิ่งนั้นมาแน่นอน หากอยากได้งานในฝัน เราก็ต้องทำตัวให้คู่ควรกับสิ่งนั้นเสีย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างมีวินัย ซึ่งจะช่วยให้เข้าใกล้ผลลัพธ์ที่ต้องการจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องไหน ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพียงเราลงมือทำด้วยพลังใจที่เชื่อมั่น ผลักดันด้วยพลังบวกที่ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ก็จะช่วยให้เราไม่ย่อท้อในการทำสิ่งนั้น ครั้งหนึ่งคุณ Mario de Miranda Quintana นักเขียนชาวบราซิล ได้กล่าวไว้ว่า “อย่ามัวเสียเวลาไล่จับผีเสื้อ แต่จงดูแลสวนดอกไม้ให้ดี แล้วผีเสื้อจะบินมาเอง”

.

ก็เดี๋ยวจะหาว่านั่งเทียนเขียน มันสอดคล้องกับทฤษฎีวิทยาศาสตร์ Neuroplasticity ที่บอกว่าสมองของเราสามารถปรับตัว และเปลี่ยนแปลงได้จากสิ่งที่เราฝึกฝนจดจ่อ กล่าวคือหากเรามุ่งไปที่เป้าหมายหรือความสำเร็จ สมองจะเริ่มสร้าง และเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นทางการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท (Neural Pathways) ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ และพาเราไปสู่เป้าหมายได้อย่างแน่นอน

เคล็ดลับที่ช่วยได้ดี คือ จดเป้าหมายลงในไดอารี หรือสมุดส่วนตัว แล้วค่อย ๆ แบ่งมันออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ อย่างละเอียดที่เราสามารถลงมือทำได้จริง ๆ อย่าลืม Tracking ความคืบหน้าด้วยนะ พอเราทำต่อเนื่อง ความสำเร็จที่เราปรารถนาก็จะค่อย ๆ เกิดขึ้นจริงในที่สุดค่ะ

.

(3) Feminine Energy คืออะไร? ทำไมต้องมี?

.

อย่างที่เคยกล่าวไปว่าการ Manifest ต้องมีพลังใจเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ดึงดูดเป้าหมายให้เข้ามา แต่ก็ต้อง Balance ตัวตนของตัวเองภายในอย่างอ่อนโยนด้วย Feminine Energy ปกติแล้วร่างกายมนุษย์เรามีพลังงานชาย - หญิง วนเวียนอยู่ในตัวอยู่แล้วไม่ว่าจะเพศไหน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากปรัชญาและความเชื่อที่มีอายุหลายศตวรรษ จากหลายชาติ เช่น ปรัชญาหยิน - หยางของจีน ซึ่งหยินหมายถึงพลังงานหญิงที่เงียบสงบ และหยางหมายถึงพลังงานชายที่เคลื่อนไหว ในศาสนาฮินดูก็เช่นกัน Shakti หมายถึงจิตสำนึกที่เคลื่อนไหวในแบบพลังงานหญิง และ Shiva เป็นจิตสำนึกแบบคงที่ของพลังงานชาย อีกทั้งในปรัชญาพุทธทิเบตมีการเชื่อมโยงพลังงานหญิงเข้ากับสีแดงด้วยพลังจากดวงอาทิตย์ ส่วนพลังงานชายจะเป็นสีขาวด้วยพลังจากดวงจันทร์

.

เราจะเห็นว่าพลังงานหญิงนั้นไม่จำกัดอยู่ที่เพศหรือเพศสภาพใด คุณ Anjali Tyagi โค้ชด้านการรักษาจิตวิญญาณบอกว่า “พลังงานหญิงเป็นแนวคิดที่รวมคุณลักษณะต่าง ๆ ของความเป็นหญิง เช่น สัญชาตญาณความเห็นอกเห็นใจ การดูแล ความคิดสร้างสรรค์ และความเชื่อมโยงระหว่างกัน” พลังงานนี้เป็นส่วนที่เสริมพลังงานชายที่จะปรากฏเมื่อเรามุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย ทำงานให้สำเร็จ และปล่อยให้ความทะเยอทะยานเป็นตัวนำทาง Feminine Energy จึงเป็นพลังงานเข้ามาเสริมความสมดุล และความกลมกลืน เอเนอร์จีในตัวเรา ดึงเรากลับมาตรงกลางถ้าระหว่างทางเกิดเครียดจากการลงมือทำนั่นเอง

เราสามารถเริ่มต้นพัฒนา Feminine Energy ได้ด้วยการฝึกสมาธิแบบ Visualization หรือกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เช่น การปั้นดิน การวาดรูป หรือการทำโยคะ กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เรารู้สึกสงบ และอยู่ในสภาวะที่เปิดรับมากขึ้น แต่ยังเป็นการกระชับพลังงานในตัวเอง ส่งเสริมให้พลังงานไหลเวียนได้อย่างอิสระ

.

การทำแบบนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งพลังสร้างสรรค์ภายใน เช่น การเต้น หรือการเคลื่อนไหวแบบอิสระ ที่เป็นลักษณะเฉพาะของ Feminine Energy ส่งเสริมให้ร่างกายกับจิตใจทำงานเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลังในการดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต

.

(4) MAGNETIC GIRL GUIDE เทคนิคเป็นแม่เหล็กดึงดูดพลังบวก

.

นอกจากการคิดบวกกับเรื่องภายนอกแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะช่วยดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตเรา คือ การรู้จักชื่นชมและเห็นคุณค่าของสิ่งดี ๆ ที่เรามีอยู่แล้วในตอนนี้ “ทฤษฎีจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology)” บอกว่า การฝึกขอบคุณสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถเสริมสร้างความสุข และสุขภาพจิตที่ดีได้เยอะขึ้นมาก เช่น เราอาจลองเริ่มจากเขียนบันทึกสิ่งที่เราขอบคุณในแต่ละวัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของสิ่งดี ๆ รอบตัวเรา

เมื่อเรามั่นใจในตัวเอง และเปิดใจรับสิ่งดี ๆ รอบข้าง ก็จะช่วยดึงดูดพลังบวกเข้ามาในชีวิตได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้คำพูดและความคิดก็มีบทบาทสำคัญ เพราะแต่ละคำที่เราเลือกใช้ก็มีพลังที่จะสร้างสรรค์หรือทำลายเราได้ เพราะฉะนั้นการพูดด้วยคำที่เสริมสร้างพลังบวก ก็เป็นอีกเคล็ดลับที่ช่วยรักษาพลังงานดี ๆ ในตัวเราไว้ได้

.

(5) Say no to พลังลบ เพชรเห็น เพชรหนีนะคะ

.

ในเมื่อเราปลุกพลังบวกในตัวเองกันมาแล้ว จะปล่อยให้พลังลบมาทำลายทุกอย่างได้ยังไงล่ะ เคยเป็นไหมที่พออยู่ใกล้คนที่ชอบบ่นเรื่องลบ ๆ แล้วเรารู้สึกอึดอัด ไม่อยากฟังต่อ หรือบางทีเราก็เผลอไหลตามน้ำไปกับเขา เช่น เข้าร่วมวงนินทาโดยไม่ทันรู้ตัว นั่นแหละค่ะคือการที่เรารับพลังลบมาโดยไม่ตั้งใจ ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ มันจะกลายเป็นนิสัยที่ทำให้เราดึงดูดสิ่งแย่ ๆ เข้ามาโดยไม่รู้ตัวเอานะ

How to Avoid Toxic Vibes ถ้าเราอยากเป็นคนแบบไหน ให้พาตัวเองไปอยู่ใกล้คนแบบนั้น เช่น ถ้าอยากเป็นคนคิดบวก ให้หาเพื่อนที่ชอบพูดคุยเรื่องสร้างสรรค์ หรือสนใจพัฒนาตัวเองแทนการติดอยู่กับเรื่องลบ ๆ แต่ในชีวิตจริง บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอคนที่มีพลังลบ วิธีรับมือก็คือเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ลองเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้ หรือตั้งขอบเขตในใจ ถ้ารู้สึกว่าอยู่ในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้พยายามตระหนักรู้ในตัวเอง และแยกแยะพลังงานของคนอื่นกับพลังงานของเรา อย่าปล่อยให้พลังลบเหล่านั้นเข้ามากระทบจิตใจเกินไป สุดท้ายถ้ามีคนรอบตัวที่เราเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ แต่รู้ว่าเขามักส่งผลลบต่อเรา ลองลดเวลาที่ต้องใช้ร่วมกัน หรือถ้าจำเป็นต้องเจอกันบ่อย ๆ เช่น ในที่ทำงาน ก็ให้จำกัดบทสนทนาให้อยู่ในเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น

.

“Positive Vibes Only” จำไว้ว่า พลังบวกดึงดูดพลังบวก ถ้าเราโฟกัสที่การพัฒนาตัวเอง และล้อมรอบด้วยคนที่มีทัศนคติดี ๆ ชีวิตเราก็จะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาเองนะสาว ๆ ลองปรับตามเคล็ดลับที่ว่ามานี้ และสังเกตตัวเองดูนะว่าเมื่อเราค่อย ๆ ปรับตัวให้อยู่ท่ามกลางพลังงานดี ๆ ความสุขและความสำเร็จก็จะตามมาแบบไม่ต้องพยายามไล่ตามเลย เพราะฉะนั้นเลือกคน เลือกสิ่งแวดล้อม และเลือกวิธีการรับมือกับพลังลบในแบบที่ดีที่สุดสำหรับเรา แล้วชีวิตจะเบาขึ้นทันตาเห็นค่ะ 💖

—---------------------------------------------------------------------------------

Reference

Calvin Klein, On Set with Kendall Jenner | Calvin Klein Fall 2023 Campaign (2023)

https://youtu.be/wZWjOsox3Ak?si=bcfGGUNbNbBhl_xi

Thewizardliz, This video will change your life (2022)

https://youtu.be/Lk6AkrT5g5w?si=OZYe_QJXEBbsQ5e3

Peter Paxton, Law of Attraction: History and Overview (2022)

https://medium.com/mind-altar/law-of-attraction-history-a-80bc52daa925

Alljit สุขภาพจิตใจ, Manifest กับ กฏแรงดึงดูด (2023)

https://youtu.be/VwfF5FsnKgw?si=cIk8NFwAlkMUgeQu

กภ. อนุชัย พึ่งพระรัตนตรัย, มหัศจรรย์แห่งสมอง ตอนที่ 1 สมอง “สร้าง” ได้ (2023)

https://pt.mahidol.ac.th/ptcenter/knowledge-article/brain_miracle_01/

KATHERINE CHANG, The Everygirl’s Complete Guide to Feminine Energy (2023)

https://theeverygirl.com/feminine-energy-guide/

Maahi Shah, What is divine feminine energy and how can you channel it? (2023)

https://www.harpersbazaar.in/culture/story/what-is-divine-feminine-energy-and-how-should-one-channel-it-670576-2023-09-02

ผศ.ดร.ประพิมพา จรัลรัตนกุล, “ช่างมัน” เสียบ้างก็ดี แต่จะให้ดีอย่าเผลอ “ช่างมัน” ไปซะทุกเรื่อง (2018)

https://www.psy.chula.ac.th/th/feature-articles/self-determination-theory/

Sudarat Tuntivivat, Positive Psychology: Development, Applications and Challenges (2016)

http://bsris.swu.ac.th/jbsd/601/15sudarat.pdf

.

#Wongnai #WongnaiBeauty #BeautyStory #ThatgirlEnergy #สวยฉลาด #Manifest #HealthyGirl