ด้วยทรัพยากรและวัตถุดิบที่แพงขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ ข้าวราดแกง 2 อย่าง (ราคา ถึง 70 บาท) จะมีปริมาณที่น้อยนิดทานไปก็ไม่อิ่ม (แล้วจะซื้อมาทานทำไมล่ะ ?) พอกันทีกับข้าวราดแกงที่ไม่คุ้มค่าความอิ่ม! แทนที่จะสั่งเบิ้ล เก็บเงินไว้เป็นค่ารถแล้วบึ่งมาที่ร้าน "Blackdishes" ดีกว่า
หน้าร้าน
บรรยากาศร้าน
แวบแรกที่เห็นร้าน "Blackdishes" หลายคนอาจคิดว่าเป็นร้านขายแผ่นเสียงฮิปฮอป แต่พอเข้าไปข้างในก็จะได้สำผัสกับความมีรสนิยม ด้วยการตกแต่งสไตล์ Modern Loft
Menu
ด้วยความที่ เจ้าของร้าน เป็นคนขี้เล่นและชอบทำอะไรให้สวนกระแส จึงเป็นที่มาของชื่อ "Blackdishes" เพราะนอกจากจะใช้ภาชนะสีดำ เพื่อดึงตัวอาหารและสีของซอสให้เด่นชัด ยังตั้งชื่อเมนูแต่ละอย่างให้ดูเหมือนปีศาจร้าย เพราะทุกๆอย่างเน้นปริมาณแบบ บิ๊กๆ จัดเต็ม ทานแล้วอิ่มกายอิ่มใจ
ประเดิมกันให้หนำใจ กับ “The Hot Oil” (125 บาท) รวมเมนูของทอดเอาไว้เรียกน้ำย่อย ทั้ง Onion Ring ชุบแป้งฟูกรอบ, ปูอัดฝอยชุบแป้งทอด, และ Curly Fries ทรงเครื่อง จิ้มใน Seaweed Dip รสกลมกล่อม
เรียกน้ำย่อยได้ที่แล้วก็มาต่อด้วยเมนูข้าวทรงเครื่องปริมาณล้นทะลักสะใจอย่าง “The Toxic” (หมู/ไก่ 165 บาท/ แซลมอน 215 บาท) ข้าวหน้าออมเล็ตเนื้อเนียน ราดหน้าด้วยซอสแกงเขียวหวานรสจัดจ้านทำจากเครื่องแกงเขียวหวานโขลกสดๆแบบวันต่อวัน เป็นการจับคู่แบบ East-Meets-West ที่สะใจสุดๆ สำหรับคนที่อยากได้อารมณ์แบบญี่ปุ่นๆหน่อย “The Darkness” (หมู/ไก่ 165 บาท/ แซลมอน 215 บาท) ก็เข้มข้นใช่ย่อย! ทุกอย่างเหมือนกับ “The Toxic” แต่แค่เปลี่ยนซอสแกงซอสเห็ดดำที่ใช้เห็ดถึงสามชนิดเคี่ยวกับโชยุปรุงพิเศษจนหอมกรุ่นปรุงขั้นสุดท้ายด้วยน้ำมันงาเกรดพรีเมียม และยังมี “The Sin” (หมู/ไก่ 165 บาท/ แซลมอน 215 บาท) ข้าวหน้าซอสผงกะหรี่ไทยสไตล์ตามสั่งง่ายๆบ้านๆ แต่รสชาติเข้มสะใจ
สเต๊กของร้าน "Blackdishes" ก็จัดหนักไม่แพ้เมนูข้าวหน้าทรงเครื่องต่างๆ เผลอๆ ล้นทะลักกว่าเพราะเป็นโปรตีนเน้นๆ ใครที่ชอบรสจัดจ้าแบบโชว์พาวก็ต้องโดน “The King of Hell” (หมู/ไก่ 195 บาท/ แซลมอน 295 บาท) เป็นสเต๊กที่ปรุงรสด้วยซอสเผ็ด สูตรเม็กซิกันกึ่งโมรอคโคแต่ทวีคูณความแซ่บด้วยพริกขี้หนูแบบไทยๆ เวลาย่างก็ทาซ้ำด้วยซอสเผ็ดเพื่อตอกย้ำความสะใจ
ส่วนใครที่อยากโทนดีกรีความเผ็ดลงมาหน่อยก็ยังสามรถจัดหนักกับ “The Poison Rosy” (หมู/ไก่ 195 บาท/ แซลมอน 295 บาท) ซึ่งใช้ซอสเกาหลีสูตรพิเศษของทางร้านทำจาก โคจูจัง (เต้าเจี้ยวพริกสไตล์เกาหลี) นอกจากสเต๊กทุกอย่างจะมาแบบปริมาณบิ๊กๆ ยังเสิร์ฟพร้อม ซอสซิกเนเจอร์ด้านข้าง, เฟรนช์ฟรายซ์, โคล์สลอว์สูตรพิเศษปรุงด้วยน้ำมันงาจากญี่ปุ่น และยังมีข้าว Risotto ที่ทำจากข้าวญี่ปุ่น อีกด้วย!
“The Hot Oil” (125 บาท)
จิ้มใน Seaweed Dip รสกลมกล่อม
“The Toxic” (หมู/ไก่ 165 บาท/ แซลมอน 215 บาท)
ข้าวหน้าออมเล็ตเนื้อเนียน ราดหน้าด้วยซอสแกงเขียวหวานรสจัดจ้านทำจากเครื่องแกงเขียวหวานโขลกสดๆแบบวันต่อวัน
“The Darkness” (หมู/ไก่ 165 บาท/ แซลมอน 215 บาท)
เสิร์ฟพร้อมซอสแกงซอสเห็ดดำที่ใช้เห็ดถึงสามชนิดเคี่ยวกับโชยุปรุงพิเศษจนหอมกรุ่นปรุงขั้นสุดท้ายด้วยน้ำมันงาเกรดพรีเมียม ทานพร้อมกับทงคัตสึกรอบนอกฉ่ำในยิ่งได้อรรถรสสุดๆ!
“The King of Hell” (หมู/ไก่ 195 บาท/ แซลมอน 295 บาท)
แดงเดือดสมชื่อสุดๆ
“The Poison Rosy” (หมู/ไก่ 195 บาท/ แซลมอน 295 บาท)
ใช้ซอสเกาหลีสูตรพิเศษของทางร้านทำจาก โคจูจัง (เต้าเจี้ยวพริกสไตล์เกาหลี)
“La Trappe” (330 บาท) คราฟท์เบียร์สไตล์เบลเยียมสูตร White Trappist ด้วยการบ่มรอบสองในขวด จึงสดชื่นและได้อรรถรสสุดๆ เหมาะที่จะแกล้มกับทุกๆเมนูในร้าน และยังมี Craft Beer นำเข้าอีกกว่า 13 ชนิดด้วยกัน
การเดินทาง
มาถึงร้าน "Blackdishes" ทั้งทีรับรองไม่ผิดหวังเพราะถึงราคาจะแพงกว่าข้าวราดแกงแต่รับรองท้องแน่นด้วยคุณภาพ! "Blackdishes" อยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ ฝั่งตรงข้าม Lotus กับ Macro เข้าตรงทางเข้าที่สองและขับตรงยาว ตัวร้านจะอยู่ฝั่งซ้าย
