เบื่อไหม? เวลาจะชักชวนเพื่อนฝูงไปทานข้าวแล้วนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรกัน บางคนอยากกินอาหารไทย บางคนอยากกินอาหารยุโรป บางคนอยากกินอาหารจานเดียว ลองแวะไปนั่ง Cainito กันดูไหม ร้านเปิดใหม่กลางนิมมานซอย 5 ร้านบรรยากาศสบ๊ายสบายเหมือนมานั่งทานบ้านเพื่อน แต่เดี๋ยวก่อนได้ยินชื่อนิมมานฯ อย่าเพิ่งส่ายหน้าเรื่องที่จอดรถ เพราะทางร้านเขามีพื้นที่ให้จอดได้กว่า 30 คันแน่ะ !ส่วนบรรยากาศของร้านก็เก๋กู๊ดมากๆ เพราะเป็นบ้านไม้หลังเก่านำมาดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ด้านหน้าร้านเป็นลานโล่งโปร่งสบาย มีโต๊ะไม้ให้เลือกนั่งรับลม ส่วนด้านในตัวบ้านชั้นล่างเป็นโต๊ะนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ชั้นบนมีระเบียงจัดเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ให้เลือกนั่งรับลมธรรมชาติ ได้อารมณ์เหมือนมานั่งเล่นและกินข้าวอยู่ที่บ้านเพื่อนยังไงยังงั้นเลย ยิ่งถ้าใครมาช่วงค่ำๆ แสงสีของบ้านหลังนี้ยิ่งดูโดดเด่น เหมาะแก่การพาเพื่อนมาแฮงเอาท์ หรือจะชวนคู่รักมาออกเดทเสียเหลือเกิน
Recycle = Redesign
เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งส่วนใหญ่ของร้านเป็นผลผลิตจากการนำวัสดุที่เหลือจากการ renovate บ้านมาดัดแปลงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ แม้แต่ผนังบางส่วน ที่นำเสน่ห์ของเชียงใหม่แทรกเข้าไป เช่นผนังสังกะสีเพนท์ลายรถสี่ล้อแดง อีกหนึ่งสัญญาลักษณ์เฉพาะตัวของเชียงใหม่
บรรยากาศด้านนอกเหมาะแก่การพาเพื่อนมาชิลเอาท์ยามค่ำคืน แถมมี open kitchen ให้ดูเพลินๆ ด้วย
ด้านในเป็นห้องแอร์เย็นสบาย
ช่วงค่ำๆ บรรยากาศชั้นสองดีมากๆ
ด้วยบรรยากาศของร้านที่กว้างขวางแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ มีหลายมุมให้เลือกนั่ง จะชวนเพื่อนจับกลุ่มมานั่งทำงาน พร้อมจิบเครื่องดื่มแบบเพลินๆก็ยังได้ เพราะร้านเขามีบริการ Free Plug Free Wifi อีกด้วยแน่ะ
ถ้าใครกำลังมองหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ กระจกใสด้านบนชั้น 2 สามารถเดินเหยียบได้ด้วยนะ
นอกจากความอร่อยแล้วแล้ว เรายังเสิร์ฟความเป็นกันเอง
เอ่ยถึงบรรยากาศที่ชวนนั่งไปแล้ว ก็ขอมาพูดถึงเรื่องของอาหารที่ชวนกินของที่นี่กันบ้าง ต้องบอกเลยว่าอาหารของที่ร้านนี้มีความหลากหลายมากๆ มีบริการทั้งอาหารเหนือ อาหารไทย อาหารยุโรป ซึ่งทางร้านเขาให้บริการแบบ All Day Dining เริ่มขายกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่มเชียวนะ คือจะเลือกทานเป็นอาหารจานเดียวสำหรับช่วงเวลาเร่งรีบอย่างมื้อเช้า ไปจนถึงมื้อใหญ่สำหรับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงในเวลาเลิกงาน เรียกว่าพอขอเมนูมากางเปิดดู จะได้เห็นว่ามีเมนูอาหารให้เลือกสั่งมากินกว่า 100 เมนูแน่ะ ซึ่งเมนูแต่ละจานเขานำเสนอได้สวยงามน่าทานทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่เมนูทานเล่นอย่าง "มันฝรั่งทอดไคนิโต้"(79 บาท ) มันฝรั่งสไตล์โฮมเมดแท้ๆ ทอดร้อนๆ ชิ้นหนาใหญ่สุกเหลือง กรอบนอกนุ่มในแบบเต็มๆ คำจากมันฝรั่งสด การันตีทำสดใหม่จานต่อจาน ไม่ใช้ของสำเร็จรูป
ถัดมาเป็นเมนู "หมูพาดราว" หรือ "สามชั้นนึ่งสมุนไพร" (150 บาท) เมนูชื่อแปลก ที่พรีเซ้นท์ออกมาได้น่าสนใจด้วยการใช้ส่วนของหมูสามชั้นมานึ่งให้สุกได้ที่ เสิร์ฟมาพร้อมแตงกวาและผักสด แนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้มสุดแซ่บที่พร้อมเสิร์ฟมาให้ หรือถ้าช่วงนี้ใครไดเอ็ทก็แนะนำเป็นเมนูเอาใจคนรักสุขภาพอย่าง "สลัดเต้าหู้ย่างผักธัญพืชรวม" (150 บาท) หรือ "กุ้งแม่น้ำย่างยำสตรอเบอร์รี่" (180 บาท) ที่มาพร้อมกับกุ้งแม่น้ำตัวอวบๆ 2 ตัว ก่อนทานแนะนำให้ราดน้ำยำที่เตรียมมาให้แล้วทานคู่กัน ก็จะได้รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ที่คนชอบเมนูยำๆ ต้องติดใจ
"หมูพาดราว"
"สลัดเต้าหู้ย่างผักธัญพืชรวม"
."กุ้งแม่น้ำย่างยำสตรอเบอร์รี่"
แต่ถ้าต้องการจะกินแค่เบาๆ หรือมาคนเดียวไม่อยากจะกินเยอะเกินไป ลองสั่งเมนูอาหารจานเดียวอย่าง "ข้าวซอยกุ้งเทมปุระ" (120 บาท) หรือ "ข้าวกระเพราหมูกรอบ"(130 บาท) เมนูแสนธรรมดาแต่ไม่ธรรมของทางร้าน โดยเฉพาะซอสกระเพราสูตรดั้งเดิมที่ได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศสมุนไพรของขิง,ข่า อย่างชัดเจน ที่ดูน่าสนใจกว่านั้นก็คือหมูกรอบชิ้นโตหนังกรอบ หนานุ่มที่เสิร์ฟมาพร้อมกันนี่แหละ ที่ทำให้ทานแล้วแทบไม่อยากวางช้อน
"ข้าวซอยกุ้งเทมปุระ"
"กระเพราหมูกรอบ"
มาร้านนี้ทั้งทีถ้าไม่ได้กิน 3 เมนูนี้ต้องเสียใจแน่นอน ตัวแรกเป็น "ไก่ย่างเตกีล่า" (180 บาท) ที่หยิบเอาเครื่องดื่มขึ้นชื่อของเม็กซิโกอย่างเตกีล่าซึ่งเข้ากันได้ดีกับเมนูซีฟู้ด แต่พอมาปรุงคู่กับไก่ที่กริลล์มาแบบกำลังดีก็ยังคงความเอร็ดอร่อยไม่แพ้กัน ส่วนตัวที่สองเอาใจคนรักเนื้อด้วยเมนู "เสือร้องไห้" (280 บาท) ที่เนื้อเหนียวนุ่มกำลังดี ที่ย่างมาแบบ medium rare ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอส หรือถ้าใครไม่ทานเนื้อก็ลองสั่ง "หมูกรอบเกรวี่" (220 บาท) หมูกรอบชิ้นโตหนังกรอบ เนื้อแน่นนุ่มแบบสุดๆ ที่ราดมาพร้อมกับซอสเกรวี่แบบชุ่มๆ ทานคู่กับมันบด ก็ทำให้มื้อนี้อิ่มแปล้ได้สบายๆ
"ไก่ย่างเตกีล่า"
"เสือร้องไห้"
"หมูกรอบเกรวี่"
นอกจากเมนูอาหารคาวแล้ว ทางร้านก็ยังมีของหวาน ไอศกรีมและเครื่องดื่มเยอะแยะมากมาย อาทิ ชาเขียว (60 บาท) หรือ อิตาเลียนโซดา (50 บาท) และของหวานอย่าง "Fruit Crepe"(120 บาท), "mango panna cotta" (69 บาท) ที่รสชาติอร่อยแบบลงตัวกับเนื้อพานาคอตต้านุ่มๆ ตัดกับมะม่วงสดๆ รสหวานอมเปรี้ยวกำลังดี พิเศษสุดๆ เพียงถ่ายรูปอาหารหรือตัวเองแล้วเช็คอินลง facebook / Instagram ก็รับไปเลยเมนูนี้ฟรีๆ เลย เย้!
ชาเขียว
อิตาเลียนโซดา
Fruit Crepe
Mango Panna Cotta
ร้าน Cainito ตั้งอยู่บนถนนนิมานฯ ซอย 5 ถ้ามาจากถนนศิริมังคลาจารย์เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร ร้านจะอยู่ขวามือ หากใครกำลังมองหาพื้นที่ของการสังสรรค์ อยากจะชิม อยากจะแชร์อาหารกับเพื่อนๆ ในหลายๆ เมนู ลองมาทานที่ Cainito กันดูแล้วจะรู้เลยว่าร้านนี้ตอบโจทย์ทุกเมนูอาหารตั้งเช้ายันเย็น! เพื่อนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของทางร้านได้ที่ แฟนเพจ : //www.facebook.com/cainitorestaurantIG : @cainitoreataurantโทร. 089-4349009