#วงในบอกมา
- ร้าน Casa Lapin มีเฮาส์เบลนด์ในนาม “Supreme House Blend” ที่เกิดจากการผสมผสานเมล็ดกาแฟจาก 3 แหล่งปลูกในจังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย และน่าน
- ในทุก ๆ เดือน ร้าน Casa Lapin จะมีเมล็ดกาแฟ Single Origin 6 ชนิดจาก 6 แหล่งปลูกที่ดีที่สุดทั้งในไทยและทั่วทุกมุมโลก มาหมุนเวียนให้เราได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟสุดพิเศษกัน
- สำหรับเครื่องดื่มตระกูล “Refreshment” หรือ “เครื่องดื่มสดชื่น” ร้าน Casa Lapin จะเน้นเลือกใช้ผลไม้เขตร้อนที่ปลูกในประเทศไทย และสามารถควบคุมคุณภาพได้ตลอดทั้งปี

สำหรับคอกาแฟ เราเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Casa Lapin (คาซ่า ลาแปง) คาเฟ่แรก ๆ ที่มาพร้อมกับกระแส Third Wave Coffee ยุคที่ทั้งผู้ปลูกและผู้ดื่มกาแฟให้ความสำคัญกับกาแฟคุณภาพดี หรือที่เรียกว่า Specialty Coffee ซึ่งล่าสุดร้าน Casa Lapin ก็พร้อมต้อนรับเหล่า Cafe Hopper กลุ่มใหม่ ๆ ได้มาสัมผัสประสบการณ์ดื่มด่ำรสกาแฟในหลากหลายมิติ รวมถึงลิ้มลองเมนูอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มต่าง ๆ ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ อบอุ่น และเป็นกันเอง แต่ยังคงความเป็น Casa Lapin ได้อย่างชัดเจน
เราเดินทางมาเยือนร้าน Casa Lapin คาเฟ่บ้านกระต่ายหลังใหม่กันที่โครงการ Att U Bangna (แอท ยู พาร์ค บางนา) ชั้น G ที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมของร้านซึ่งออกแบบคล้ายโครงสร้างของโพรงกระต่าย และแม้ตัวร้านจะมีกระจกรอบด้าน แต่ด้วยลูกกรงที่สามารถกรองแสงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อก้าวเข้าไปนั่งด้านในเรายังคงสัมผัสได้ถึงแสงธรรมชาติในระดับที่เหมาะเจาะ (แถมยังถ่ายรูปสวยเอามาก ๆ) ประกอบการตกแต่งสไตล์ Cozy แซมกลิ่นอายโมเดิร์นหน่อย ๆ ร้าน Casa Lapin สาขานี้จึงพาเราตกหลุมรักแรกพบได้ไม่ยาก


ร้าน Casa Lapin มีเฮาส์เบลนด์ หรือเมล็ดกาแฟคาแรกเตอร์เฉพาะของร้านในนาม “Supreme House Blend” ที่ผสมผสานเมล็ดกาแฟจาก 3 แหล่งปลูกในจังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย และน่าน ซึ่งนำมาสร้างสรรค์ Black Coffee และ Milk Coffee ทั้งแบบร้อนและเย็นได้อย่างเหมาะเจาะ และเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี เราได้ลอง “Hot Latte” (120 บาท) ได้รสชาติของกาแฟที่ยังคงชัดเจนกลมกล่อมและดื่มเพลินมาก ๆ


นอกจากนี้ ในทุก ๆ เดือน ร้าน Casa Lapin จะคัดสรรเมล็ดกาแฟ Single Origin 6 ชนิดจาก 6 แหล่งปลูกคุณภาพทั้งในไทยและทั่วทุกมุมโลก มาหมุนเวียนให้เราได้ลิ้มลองรสชาติกัน เช่น เอธิโอเปีย, กัวเตมาลา, คอสตาริกา, บุรุนดี ฯลฯ และสำหรับในไทยจะมีอย่างน้อย 1-2 ใน 6 ชนิด โดยครั้งนี้เราได้ลิ้มลองเมล็ดกาแฟจาก “บ้านแม่มอญ” จ.เชียงราย กับเมนู “Drip Coffee” (150 บาท) กาแฟดริปที่ให้ความ Bright แซมรสชาติเบา ๆ ของผลไม้ ทำให้รู้สึกดื่มง่าย เหมาะสำหรับยามบ่ายที่ต้องการความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า


หากใครไม่ใช่คอกาแฟ หรืออยากลิ้มลองเครื่องดื่มหมวดอื่น ๆ ดูบ้าง เราแนะนำให้เลือกลิ้มลองในหมวดของ “Refreshment” หรือ “เครื่องดื่มสดชื่น” ซึ่งร้าน Casa Lapin จะเน้นเลือกใช้ผลไม้เขตร้อนที่ปลูกในประเทศไทย และสามารถควบคุมคุณภาพได้ตลอดทั้งปี เราได้ลอง “My Sunshine” (140 บาท) ชาผลไม้อบแห้งที่ดื่มแล้วสดชื่นเรียกพลังกายและใจได้เป็นอย่างดี
ส่วนถ้าใครอยากอิ่มท้อง ร้าน Casa Lapin ก็พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูแบบฉบับ Comfort Food เน้นใช้วัตถุดิบคุณภาพ และปรุงอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นเมนูตระกูล All Day Breakfast เราเชียร์ให้ลอง “The Breakfast” (280 บาท) ครบครันทั้งขนมปัง, ไข่ดาว, เบคอน, ไส้กรอก และผักต่าง ๆ


อีกเมนูแนะนำคือ “Pesto Cream Salmon Pasta” (410 บาท) พาสต้าเพสโตครีมซอสโฮมเมดและสเต๊กปลาแซลมอน แนะให้บีบเลมอนนิด หรือกินพร้อมกับมะเขือเทศเชอร์รีที่ให้อย่างจุใจ จะยิ่งทำให้รสชาติของทุกสิ่งอย่างนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว

สำหรับคนรักสุขภาพหรือคนที่อยากกินของหวานโดยไม่รู้สึกผิด ร้าน Casa Lapin ก็พร้อมเอาใจด้วย “Acai Fruit Bowl” (220 บาท) ทางร้านใช้เป็นอาซาอิพูเรท็อปด้านบนด้วยเมล็ดเจีย, กราโนล่า และผลไม้สดต่าง ๆ ทั้งแอปเปิลเขียว, เสาวรส, สตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี และกล้วยหอม

ครั้งนี้ ไม่เพียงตกหลุมรักบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในแบบฉบับร้าน Casa Lapin แต่เรายังได้สัมผัสประสบการณ์ดื่มด่ำรสชาติของกาแฟในหลากหลายมิติ แถมยังได้ลิ้มลองเมนูอาหารสไตล์โฮมเมดกันอีกด้วย และถ้าใครยังติดใจรสชาติกาแฟที่ได้ดื่มในร้าน Casa Lapin ทางร้านเขาก็มีเมล็ดกาแฟ Single Origin ให้เลือกซื้อติดมือกลับบ้าน รวมถึงของที่ระลึกต่าง ๆ ในแบบฉบับ Casa Lapin ที่ใครไม่อยากได้ถือว่าใจแข็งมาก!

การเดินทาง
สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ดื่มด่ำรสชาติของกาแฟในแบบฉบับของ Casa Lapin คาเฟ่บางนากับสาขาโครงการ Att U Bangna ก็สามารถเดินทางมาได้ตามเส้นทางติดขาออกบางนา-ตราด กม. 12 หรือนั่งรถตู้สายหมอชิต 2- ตลาดกิ่งแก้ว มาลงตลาดกิ่งแก้ว ต่อรถแท็กซี่ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงโครงการ Att U Bangna ร้านกาแฟบางนา Casa Lapin จะอยู่ที่ชั้น G ติดกับถนนใหญ่ และสามารถไปลิ้มลองกาแฟกันได้ที่ Casa Lapin สาขาใกล้บ้าน โดยสามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่ เลยค่ะ