#วงในบอกมา
- คุณหมูเจ้าของร้านเคยทำงานในครัวตั้งแต่เด็ก จากเด็กเสิร์ฟ มาเป็น กุ๊ก จนได้มาเปิดร้านอาหารของตัวเอง
- วัตถุดิบของทางร้าน มาจากท้องถิ่นในจังหวัดสุมทรสาคร อาหารทะเลจึงสดใหม่อยู่เสมอ
- วัตถุดิบหายาก หอยพิม มีเพียงแค่ในเขตพื้นที่สมุทรสาคร เป็นของดีประจำจังหวัด
ทุกที่ที่เรามากินอาหาร เราเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าร้านอาหารแต่ละที่ต่างมีที่มาที่ไป ร้านอาหารที่เราพามาวันนี้ก็เช่น ร้าน “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” ร้านอาหารทะเลบรรยากาศดี สมุทรสาคร ร้านที่รายล้อมด้วยธรรมชาติทั้งต้นไม้ใบหญ้า ติดกับริมคลองพิทยาลงกรณ์ ร้านที่เมื่อคุณเข้ามาแล้วจะรู้สึกหายใจได้อย่างเต็มปอด ทางร้านยังใช้โต๊ะไม้และเก้าอี้ไม้เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ
ก่อนที่ร้านอาหารทะเลสมุทรสาคร ร้าน “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” จะเกิดขึ้น คุณหมู เจ้าของร้านได้บอกว่า คุณหมูเคยทำงานในครัวมาตั้งแต่เด็ก เริ่มจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ จนค่อย ๆ ขยับขยายขึ้นมาเป็น กุ๊กในร้านอาหาร จนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว คุณหมูก็ได้ตัดสินใจออกมาเปิดร้านอาหารทะเลเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” โดยทางร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ทั้งโซนธรรมชาติที่เป็นโต๊ะอาหารแบบ Outdoor โซนนี้จะมีดนตรีสดขึ้นเวลา 18.00 น. - 23.30 น. ในทุก ๆ วัน และโซนของห้องคาราโอเกะแบบ VIP เป็นโซนใหม่ในตู้คอนเทนเนอร์ติดแอร์ เย็นสบาย เป็นส่วนตัว ร้านนี้หาง่ายไม่ต้องเข้าซอยในยุ่งยาก และมีที่จอดรถให้บริการด้วยนะคะ
เมนูของทางร้าน “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” จะเน้นหนักไปทางอาหารทะเล และอาหารไทยโดยทางร้านจะคัดวัตถุดิบที่สด ใหม่ จากท้องถิ่น จังหวัด สมุทรสาคร มั่นใจได้ว่า อาหารทุกเมนูที่เสิร์ฟออกไปจะสด ใหม่ แต่ยังคงราคาที่ย่อมเยาว์ ว่าไปแล้วคงต้องพิสูจน์ความสดของอาหารทะเลกันสักหน่อย ขอเริ่มจานแรกด้วยเมนูกินเล่นยอดฮิต “จ๊อปู” (ราคา 130 บาท) ลูกขนาดกำลังพอดี กรอบนอกนุ่มใน กัดเข้าไปก็เจอเนื้อปูที่แน่น มีความฉ่ำ เนื้อไม่แห้ง หอมกลิ่นปูรสสัมผัสหวานนิด ๆ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มบ๊วยช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียว
“หอยพิมแดดเดียว” (ราคา 250 บาท) เมนูนี้ชื่อไม่คุ้นหูเลยค่ะ สั่งมาเพราะความอยากลองวัตถุดิบใหม่ ๆ โดยหอยพิมเนี่ยมีเพียงแค่ในเขตพื้นที่สมุทรสาคร เป็นของดีประจำจังหวัดที่หากินยาก และราคาค่อนข้างสูง โดยทางร้าน “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” ก็ได้คิดเมนูนี้ขึ้นมาและนำมารังสรรค์โดยจะนำไปตากแดด แล้วจึงนำไปทอด ให้ได้ความกรอบที่พอดี เป็นของกินเล่นอีกชนิดที่พอลองกินแล้วชอบ อยากกลับมากินอีก
ท้องเริ่มร้องเลยขอต่อที่เมนูหลักอย่าง “กุ้งลุยสวน” (ขายตามน้ำหนัก 450 บาทต่อกิโลกรัม) จริง ๆ เราเป็นคนที่ชอบกินกุ้งมาก ๆ แต่ก็เป็นคนที่ขี้เกียจแกะกุ้งเองแบบสุด ๆ ถ้าใครที่เป็นแบบเดียวกันก็ขอให้มาที่ร้าน “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” เลยค่ะ เพราะที่ร้านจะนำกุ้งแม่น้ำมาเผาจนได้ที่ และยังแกะมาให้พร้อมกินเลยค่ะ ตบท้ายด้วยการราดน้ำจิ้มลุยสวน สูตรพิเศษที่รสชาติจัดจ้าน แซ่บ เข้ากับรสชาติกุ้งที่ออกหวานและเนื้อเด้งเป็นที่สุด
มีกุ้งแล้วก็ต้องมีปูกับ “ปูไข่นึ่งนมสด” (ขายตามน้ำหนักมีตั้งแต่ราคา 950-1500 บาท) แค่ยกมาวาง น้ำลายก็สอแล้วค่ะ กับไข่ปูที่แน่นจนแทบล้นออกจากกระดอง ปูที่เสิร์ฟมาเป็นปูธรรมชาติ ปูท้องถิ่น สดมาก ๆ ทำให้เนื้อปูมีรสหวานโดยไม่ต้องปรุง ปูที่ร้านจะรับมาใหม่ในทุก ๆ วัน และเมื่อนึ่งกับนมสดแล้ว เนื้อปูและไข่ปูก็จะมีความมัน เคี้ยวเพลิน ๆ กลิ่นหอมจนไม่อยากที่จะหยุดกิน ยิ่งถ้าได้จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดที่มีความเปรี้ยว หวาน เผ็ด ต้องบอกได้คำเดียวว่า เมนูนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ
กินปูแล้วเมนูที่ห้ามพลาดอีกเมนูก็คือ “น้ำพริกปูไข่” (ราคา 290 บาท) เมนูนี้จะใช้เป็นปูทะเล ที่มีไข่ทั้งตัว และจะแกะไข่ปู นำมาตำกับน้ำพริกจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน รสชาติของน้ำพริกถ้วยนี้ต้องบอกว่าจัดจ้านจริง ๆ ทั้ง เผ็ด เปรี้ยว และมัน ๆ จากไข่ปู ผักเคียงที่สด กรอบ ก็เป็นส่วนสำคัญของเมนูนี้เช่นกัน ส่วนตัวแล้วจะชอบกินกับถั่วพูมากที่สุด ใครที่ชอบกินรสจัดจ้านแนะนำให้มาลองเลยค่ะ
พักรสชาติจัดจ้านด้วย “ขาหมูเยอรมัน” (ราคา 250 บาท) ตอนมาเสิร์ฟมาที่โต๊ะก็แอบตกใจกับความใหญ่ของขาหมูชิ้นนี้ ความพิเศษของเมนูนี้คือ ขาหมูจะถูกตุ๋นด้วยสูตรจาก “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” ตุ๋นจนเข้าเนื้อ และทอดจนหนังกรอบได้ที่ กินเข้าไปชิ้นแรกถึงแม้จะไม่ได้จิ้มน้ำจิ้มก็ยังมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเมนูที่กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ลงตัว กินเล่น ๆ ก็ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ
ใครที่ชอบอาหารทะเลแบบหลากหลายต้องรักเมนูนี้แน่นอนกับ “กุ๊กหมูโป๊ะแตก” (ราคา 250 บาท) เครื่องทะเลรวมที่อัดแน่นไว้ในหม้อโดยส่วนประกอบก็มีทั้ง กุ้ง, หอย, หมึก, ปูทะเล, เนื้อปลากระพง และหอยแมลงภู่ จัดเต็มมาก ๆ โป๊ะแตกหม้อนี้ เป็นสูตรที่กุ๊กหมูคิดขึ้นมาเอง รสชาติคล้ายสุกี้รวมกับต้มยำ เพราะมีเต้าหู้ยี้เป็นส่วนผสมของน้ำชุป เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ในการกินโป๊ะแตก แต่ยังคงความเข้มข้นของรสชาติ เมนูนี้ถ้าได้ซดน้ำซุปร้อน ๆ ต้องติดใจ พร้อมกับสั่งข้าวสวยมากินคู่กันแน่นอน
ยกขบวนมาจนครบทั้งกุ้ง หอย ปู งานนี้ถ้าขาดเมนูปลาก็คงจะไม่ได้ เลยขอปิดท้ายกับ “ปลาเต๋าเต้ยเกยตื้น” (ขายตามน้ำหนักจานนี้ราคา 420 บาท น้ำหนัก 5 ขีด) แค่ชื่อเมนูก็ถูกใจแล้วค่ะ คำว่า ‘เกยตื้น’ ความหมายคือ กุ้ง, หมึก, เม็ดมะม่วง, อั่งจ๊อ และแปะก๊วย เข้ามาเกยตื้นบนตัวปลาเต๋าเต้ย ปลาชนิดก็เป็นปลาที่ไม่ได้มีขายมากนัก เนื้อปลาแน่น ไม่ร่วน ซอสที่ราดมีรสชาติออกเปรี้ยวอมหวาน เครื่องใส่มาแบบไม่หวง หากท่านไหนมาเป็นครอบครัวใหญ่ก็สามารถสั่งปลาในขนาดใหญ่ได้ถึงตัวละ 1 กิโลกรัมเลยค่ะ
การกินอาหารที่เราชื่นชอบ พร้อมกับการดื่มด่ำกับธรรมชาติ เป็นการผ่อนคลายที่ดีไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ถ้าหากใครที่ชอบกินอาหารทะเลสด ๆ ที่เหมือนยกมาไว้ทั้งทะเลแถมยังมีวัตถุดิบหายากที่น่ามาลิ้มลอง และอยากมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติก็ลองเข้ามาแวะที่ร้านอาหารทะเลสมุทรสาคร “ครัวกุ๊กหมูซีฟู๊ด” ได้นะคะ และใครที่ชื่นชอบการกินก็อย่าลืมมาอัพเดตร้านเด็ดที่ ชลบุรีกินไรดี? กันนะคะ
การเดินทาง
- อยู่ถนนสหกรณ์ ตรงข้ามหมู่บ้าน ณ ชเล เพลส มาง่ายไม่ไกลจากตลาดมหาชัย
- เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 น. - 23.00 น.
- เบอร์โทร : 086-050-1317
- Facebook : ครัวกุ๊กหมู