ปัญหาร่องตาลึกและมีริ้วรอยบริเวณใต้ตา เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับเราค่ะ เพราะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ไม่สดใส เปล่งปลั่งเท่าที่ควร และวันนี้เราอยู่กันที่ Dr.Grich Clinic คุณหมอจะมาแนะนำวิธีแก้ร่องตาลึก จะมีวิธีไหนบ้างมาชมกันค่ะ
1.ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่าฮายารูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า HA เป็นสารสังเคราะห์ที่ถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับสาร Hyaluronic Acid ในร่างกาย นำมาฉีดบริเวณที่มีร่องลึกอย่างเช่นใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาความเหี่ยวย่นของผิว แต่วิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น เพราะอาจจะส่งผลต่อดวงตาได้
ข้อดี
- เป็นวิธีที่ทำง่าย ไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลย
- ใช้เวลาทำรวดเร็ว เพียง 15-30 นาที
- หากเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อเสีย
- หากเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ จะมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ หรือเป็นอันตรายอย่างมาก
- หากไม่ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจส่งผลแทรกซ้อนได้
2.ฉีดไขมัน (Fat Transfer)
การฉีดไขมัน หรือ Fat Transfer คือดูดไขมันตนเองจากต้นขา ต้นแขน สะโพก หรือส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย เมื่อดูดออกมาแล้ว จะผ่านกระบวนการปั่นแยกให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพ จากนั้นจึงนำกลับไปฉีดเข้าสู่ร่างกาย บริเวณที่ต้องการ เพื่อเติมเต็มไขมันใต้ผิวหนัง วิธีการนี้กำลังได้รับความนิยมเพราะไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย แต่ใช้เวลาในการพักฟื้นจากการดูดไขมันนาน
ข้อดี
- ไม่มีสารแปลกปลอม เพราะเป็นไขมันจากตนเอง
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะอยู่ถาวร
- ไม่มีแผล
- เป็นเซลล์ไขมันที่มีชีวิต ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
- คนที่ผอมมาก ๆ ไม่สามารถทำได้
- พักฟื้นนานจากการดูดไขมัน
- ไขมันบางส่วนจะสลายไปตามธรรมชาติในแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นในบางกรณีอาจต้องเติมไขมัน 1-2 ครั้ง
เป็นอย่างไรบ้างคะ อยากทำวิธีไหนกันเอ่ย หากสาว ๆ คนไหนไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับคุณหมอได้โดยตรงค่ะ ใครที่ไปใช้บริการมาแล้วอย่าลืมกลับมารีวิวให้ร้าน Dr.Grich Clinic ด้วยนะคะ ครั้งหน้า Wongnai Beauty จะกลับมาแนะนำบริการอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม