ในหน้าหนาวแบบนี้ หลาย ๆ คนก็คงพบเจอปัญหาผิวแห้งกระด้างไม่นุ่มชุ่มชื้นกันใช่มั๊ยคะ แต่บางคนอาจจะกำลังประสบปัญหา ‘ผิวขาดน้ำ’ อยู่ก็ได้ เพียงแต่เราแยกไม่ออก ซึ่งแท้จริงแล้วระหว่าง ‘ผิวแห้ง’ และ ‘ผิวขาดน้ำ’ นั้นแตกต่างกันโดนสิ้นเชิงเลยค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าแตกต่างกันอย่างไร และแก้ปัญหาผิวแบบนี้ได้อย่างไรบ้าง
เช็คอีกที! ผิวแห้ง vs ผิวขาดน้ำ แบบไหนคือปัญหาที่เรากำลังเจออยู่นะ?

ผิวแห้งคืออะไร?
ผิวแห้ง หรือ Dry Skin เป็นประเภทหนึ่งของผิวมนุษย์ เช่นเดียวกันกับผิวมัน ผิวผสม ซึ่งสภาพผิวแห้งคือสภาพผิวที่ขาดความมัน ถือเป็นความผิดปกติของผิวที่ติดตัวมาแต่กำเนิด สาเหตุนั้นเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยกว่าปกติ จึงทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน ทำให้ผิวแตก ตึง คัน ไปจนถึงลอกเป็นขุย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคน ‘ผิวแห้ง’ ?
คนผิวแห้งจะผิวแห้งแต่กำเนิด ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศใดผิวก็ยังคงแห้งอยู่ จะมีรูขุมขนที่เล็ก ผิวเรียบ แต่มีความสากจากการที่ผิวลอกเป็นขุย คนผิวแห้งมักจะเกิดการระคายเคืองง่าย และมีรอยเหี่ยวย่นไว
วิธีรับมือกับปัญหาผิวแห้ง
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น
- รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 และวิตามิน เอ ซี อี
- ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้งโดยเฉพาะ
- ผิวขาดน้ำคืออะไร ?
ผิวขาดน้ำคืออะไร?
ผิวขาดน้ำ หรือ Dehydrated Skin เป็นผิวที่มีน้ำที่กักเก็บใต้ผิวหนังน้อย ทำให้ผิวหนังไม่ชุ่มชื้น ดังนั้นผิวหนังจะผลิตน้ำมันมากกว่าปกติเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งปัญหานี้เกิดได้กับทุกสภาพผิวทั้งผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม สภาพผิวมักจะเปลี่ยนไปในวันเดียว บางเวลาก็ผิวแห้ง บางเวลาก็กลับมามันอีก สาเหตุนั้นเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ การดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มแอลกอฮอล์
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคน ‘ผิวขาดน้ำ’ ?
ในระหว่างวัน ผู้ที่ประสบปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวจะเดี๋ยวก็มันเดี๋ยวก็แห้ง ต่างจากปัญหาผิวแห้งที่ผิวจะแห้งทั้งวันและทุกสภาพอากาศ ผู้ที่ผิวขาดน้ำมีดูหมองคล้ำ ไม่สดใส สังเกตเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน เนื่องจากผิวสูญเสียคอลลาเจน
วิธีรับมือกับปัญหาผิวขาดน้ำ
- เร่งฟื้นฟู บำรุง และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอด้วยสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5 ลิตร, พักผ่อนให้เพียงพอ, หลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้าที่มีฟอง, เลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว, ลดคาเฟอีน และงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอออล์
- รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับสมดุลโลหิต
เมื่อเรารู้แล้วว่าผิวแห้ง และผิวขาดน้ำ คืออะไร และมีลักษณะเช่นไร เราก็สามารถสังเกตร่างกายเรา และรับมือได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ‘น้ำ’ การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวเรานุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังช่วยดูแลระบบอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย เพราะร่างกายเราถ้าเราไม่ดูแลแล้วใครจะดูแลใช่มั๊ยคะ ดังนั้นหันมาใส่ใจร่างกายตัวเองกันเยอะ ๆ นะค้าา~