ต้องบอกว่าการยื่นภาษีเป็นเรื่องที่ลืมไม่ได้ และควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน สำหรับใครที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถเตรียมเงินช้อปเพื่อลดหย่อนภาษีไว้ได้เลย วันนี้ Wongnai Beauty ได้เอาวิธีการขอ E-Receipt E-Tax มาบอกต่อ พร้อมรวมร้านค้ากว่า 50 ร้านที่ออก e-receipt e-tax ได้ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันต่อเลยค่ะ
E-Receipt E-Tax คืออะไร?
E-Receipt E-Tax เป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกตามกฎหมายจากผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์จากระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร ทั้งนี้หากจะใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนตามมาตรการลดหย่อนภาษี
ดังนั้นผู้ซื้อสินค้าและบริการควรตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ E-Tax ที่ได้รับอนุมัติให้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ จากระบบ E-Receipt E-Tax ของกรมสรรพากรก่อน
เงื่อนไขที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับ E-Receipt และ E-Tax

ระยะเวลาที่ร่วมโครงการคือตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568 ที่จะใช้ยื่นแบบในต้นปี 2569 นั่นเองค่ะ ทั้งนี้สามารถใช้หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือบริการได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
- ส่วนที่ 1 : ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทั่วไปที่ผู้ประกอบการจด VAT โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) แบบเต็มรูปแบบเป็นหลักฐาน แต่ถ้าผู้ขายไม่ได้จดทะเบียน VAT จะต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน
- ส่วนที่ 2 : หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งสำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องมี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เป็นหลักฐานมีดังนี้
- ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้ว
- ค่าซื้อสินค้า หรือ ค่าบริการที่จ่ายให้กับวิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
- ค่าซื้อสินค้า หรือ บริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
ในกรณีที่ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีการจด VAT จะต้องเป็นค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร รวมถึงรูปแบบ E-Book หรือสินค้า OTOP ค่าซื้อสินค้า หรือบริการที่จ่ายเพื่อให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคมและชุมชน
60 ร้านที่ออก E-Receipt E-Tax ได้ ทั้ง OTOP และอื่น ๆ ลดหย่อนภาษี!
ทุกคนรู้แล้วว่าการจะขอให้ร้านออก E-Receipt E-Tax ต้องทำอย่างไรบ้าง ทีนี้เราอยากชวนทุกคนไปดูกันต่อเลยว่าถ้าอยากเริ่มเก็บเอกสารสำหรับใช้ช่วยลดหย่อนภาษีสามารถไปจุดไหนได้บ้าง รวมถึงสินค้า OTOP ก็สามารถขอเอกสาร E-Receipt E-Tax ใครที่ช้อปปิ้งช่วงนี้ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ
หมวดห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และซูเปอร์มาร์เกต
- 7-eleven
- เซ็นทรัล
- โรบินสัน
- Tops Supermarket
- เดอะมอลล์
- สยามพารากอน
- Siam Center
- Siam Discovery
- Emporium
- Emsphere
- Emquartier
- ICONSIAM
- Siam Takashimaya
- Gourmet Market
- โลตัส
- บิ๊กซี
- Makro
- ฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์
- MBK Center
- Paradise Park
- เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9
- เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์
- Go wholesale
หมวดร้านเครื่องสำอาง
- Watsons
- The Body Shop
- BEAUTRIUM
- Boots
- EVEANDBOY
- Cute Press
- Oriental Princess
- Yves Rocher
หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน และเครื่องครัว
- Homepro
- Powerbuy
- Power Mall
- Ikea
- Index Living Mall
- Global House
- SB Design Square
- ไทวัสดุ
- บุญถาวร
- วีรสุ
- Dohome
- Dyson
- Ergotrend
- Tefal Official
- UMIPRO
- Aconatic
- COTTO LIFE
หมวดร้านหนังสือ
- B2S
- Kinokuniya
- Se-ed
- ร้านนายอินทร์
- MEB
- Asia Books
หมวดสินค้าโอทอป (OTOP)
- ดอยคำ
- CHITA HOUSE
- Kingmarind
- Mantra Crafts
- น้ำพริกละเอียด ละออ
- TROPICANA
การเตรียมข้อมูลค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยค่ะ ทุกคนควรเช็กร้านค้าที่ไปซื้อให้ดีกว่าได้รับการลงทะเบียนที่ถูกต้องหรือไม่ จะได้ขอเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมให้ครบถ้วน เมื่อถึงเวลาที่ต้องยื่นภาษีจะได้มีเอกสารที่ครบและสามารถยื่นในระบบได้จริงนั่นเอง ทั้งนี้ต้องบอกว่าการเตรียมไม่ยากแค่ต้องทำให้อยู่ในช่วงเวลาที่โครงการกำหนดให้ได้แค่นี้เลยค่ะ!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ