#วงในบอกมา
- ความพิเศษของทางร้านอาหารสไตล์ยุโรป “edm (Enjoy Delicious Meal)” คือคนที่มากินสามารถรีเควสต์วัตถุดิบและเมนูต่าง ๆ จากเชฟได้ อาทิ หากอยากกินซาชิมิ ก็สามารถให้เชฟสั่งปลาแซลมอนนอร์เวย์มาเสิร์ฟเป็นเมนูพิเศษได้
- ชื่อร้าน “edm” ย่อมาจาก Enjoy Delicious Meal! อีกทั้งเป็นแนวเพลงที่ คุณพุฒิพงศ์ จิระธันห์ (เชฟโอป) เจ้าของร้านชื่นชอบ ไม่ใช่สถานบันเทิงตามที่ทุกคนเข้าใจนะจ๊ะ!
- เมนู “Smoked Salmon Salad” มีความพิเศษคือตัว Smoked Salmon แบบโฮมเมดที่ใช้เวลาทำนานถึง 5 วัน!

ในยุคสมัยที่ร้านอาหารบนโรงแรมและการรังสรรค์เมนูจากเชฟชื่อดังกำลังเป็นที่นิยม เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่ใฝ่หาการกินอาหารคุณภาพในระดับเทียบเท่าจากฝีมือเชฟโดยตรง ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง อบอุ่นเหมือนนั่งกินอยู่ที่บ้านบ้างไม่มากก็น้อย วันนี้พวกเราตั้งใจมากันที่ ร้านอาหารสไตล์ยุโรป “edm (Enjoy Delicious Meal)” โครงการ Stadium One โดยเฉพาะ เพราะหลังจากได้ยินชื่อเสียงแบบปากต่อปาก พร้อมทั้งรีวิวจากเพื่อนร่วมงานที่ต่างยกนิ้วให้ในความพิเศษมากมายที่ซ่อนอยู่ภายในร้านขนาดกะทะรัดแห่งนี้ ว่าแล้วก็ขอไปพิสูจน์ด้วยตนเองเลยดีกว่าค่า :D

สำหรับร้านอาหารสไตล์ยุโรป “edm (Enjoy Delicious Meal)” หลายคนได้ยินชื่ออาจจะมีความงงปนเข้าใจผิดว่า เฮ้ย! นี่มันไนต์คลับหรือเปล่า แต่หาไม่รู้ไม่ว่าเป็นการย่อคำจากประโยคเต็ม “Enjoy Delicious Meal” ที่คุณพุฒิพงศ์ จิระธันห์ (เชฟโอป) เจ้าของร้าน ต้องการนำเสนอถึงความ Enjoy แชร์ความสนุกสนานจากผู้ทำและลูกค้าที่มากิน ผ่านเมนูอาหารสไตล์ Comfort Food ที่ตัวเชฟคัดสรรมาจากเมนูโปรดคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีความพิเศษคือหากลูกค้าต้องการวัตถุดิบอื่น ๆ หรืออยากกินเมนูอะไร ก็สามารถรีเควสต์เชฟได้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นกันเองสุด ๆ แถมยังได้ความรู้สึกเหมือนเชฟมานั่งทำให้กินที่บ้านอย่างไรอย่างนั้น อ้อ! และที่สำคัญ คำว่า “edm” ยังมาจากแรงบันดาลใจที่ตัวเชฟชอบฟังและเปิดเพลงในร้านสไตล์นี้อีกด้วย จึงทำให้เมื่อมานั่งกินจะได้ฟังจังหวะตื้ด ๆ จนเกือบเผลอ Put Your Hands Up! เลยทีเดียว

สายเนื้อไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงกับเมนู “Wagyu Rump Steak” (950 บาท) เนื้อวากิวส่งตรงจากออสเตรเลียโดยไม่ผ่านการแช่แข็ง โดยเชฟแนะนำให้กินที่ความสุกประมาณ Medium เพื่อที่จะได้สัมผัสความ Juicy สุดชุ่มฉ่ำในเนื้ออย่างพอดิบพอดี


ตามด้วยเมนูที่ใครกินต่างต้องประทับใจ “Red Wine Braised Wagyu Oyster Blade” (950 บาท) หรือเมนูที่หลายเสียงต่างตั้งสมญานามให้ว่า “ส้อมสะกิด” ความเด็ดดวงของเมนูนี้คือเนื้อวากิวตุ๋นไวน์แดงแบบ Slow Cooked ประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นเสิร์ฟมาคู่กับมันบดเนื้อเนียนละเอียดอันแสนจะละมุนที่แทบไม่ต้องเคี้ยว ยิ่งกินกับเนื้อวากิวตุ๋นไวน์แดงเปื่อย ๆ แล้วล่ะก็ นี่แหละความเปื่อยและนุ่มนวลดั่งคำว่าส้อมสะกิดที่แท้จริง!

“Spicy Barramundi” (320 บาท) เมนูนี้ได้กลิ่นอายของอาหารสไตล์ Mediterranean อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยการคัดสรรปลาเนื้อขาว Barramundi จากอินโดนีเซียชั้นดี จากนั้นนำมาปรุงแต่งด้วยสมุนไพรตามฤดูกาล สำหรับเมนูนี้ทางด้านเทกซ์เจอร์และกลิ่น โดยเฉพาะหนังปลาที่มีความเผ็ด เปรี้ยวเบา ๆ พูดเลยว่าเอาคะแนนไปสิบเต็ม


มากันที่เมนูคนรักพาสต้าคุ้นเคยกันดี “Italian Carbonara” (250 บาท) พาสต้าคาร์โบนาราสไตล์อิตาเลียนแท้ ไม่ใส่ครีม และเน้นหนักที่ความเข้มข้นของชีสและไข่ คลุกเคล้ากับ Pancetta สูตรโฮมเมด ที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอนโดยใช้เวลาหมักนานถึง 1 เดือน ถือเป็นการกินคาร์โบนาราที่ได้สัมผัสถึงความเข้มข้น และพิถีพิถันในทุกคำเลยล่ะ


ต่อด้วยอีกเมนูที่อยากให้ลอง “Mediterranean Fish Stew” (360 บาท) ปลาบารามันดีเสิร์ฟในน้ำสตูว์ที่ทำจากซอสมะเขือเทศและสมุนไพร ความพิเศษคือเมนูนี้สามารถดัดแปลงเป็นเมนู Vegan Vegetarian ได้ สำหรับเมนูนี้สาว ๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษค่ะ เพราะจะได้ความคลีนจากซอสผักล้วน ๆ อีกทั้งยังเพิ่มกิมมิกด้วยธัญพืชและควินัวให้สัมผัสเทกซ์เจอร์ตอนเคี้ยวมากยิ่งขึ้น

เพิ่มวิตามินด้วยผักกันบ้างดีกว่า กับเมนู “Smoked Salmon Salad” (260 บาท) นอกจากความสดกรอบของผัก ความแกรนด์ที่อยากให้ลิ้มลองกันคือ แซลมอนรมควันสูตรโฮมเมดนี่แหละค่ะ ซึ่งเชฟเล่าให้ฟังว่าใช้เวลาทำนานถึง 5 วันเต็ม! นอกจากนี้ตัวน้ำสลัดมะนาวเหลืองก็น่าปลื้มปริ่มไม่แพ้กัน รสชาติมีความเปรี้ยวและหอมเลมอนกำลังดี โดยรวมแล้วจัดว่าดีงามสุด ๆ

ปิดท้ายด้วยเมนูใหม่ล่าสุด “Squid Ink Pasta” (300 บาท) ปลาหมึกผัดเบคอนและเส้นพาสต้าดำโดยใช้ซอสหมึกดำสูตรเฉพาะนำเข้าจากอิตาลีของทางร้าน จากนั้นนำมาปรุงด้วยพริก กระเทียม และมะนาว ที่ต้องยกนิ้วให้คงต้องเป็นตัวปลาหมึกค่ะ เพราะรสสัมผัสและเทกซ์เจอร์ไม่มีความเหนียวใด ๆ อีกทั้งยังได้รสชาติของตัวหมึกดำอย่างเต็มเปี่ยม ถือว่าเมนูนี้ได้กลายเป็นเมนูโปรดไปโดยปริยาย~

จบมื้อนี้สามารถพูดได้เต็มปากเลยล่ะค่ะว่าอาหารคุณภาพระดับโรงแรม ในราคาเอื้อมถึง พร้อมบรรยากาศที่เป็นกันเองนั้นมีอยู่จริง! ใครอยากมาพิสูจน์มื้ออาหารสุดพิเศษพร้อมฟังจังหวะ EDM ให้ต่อมหัวใจกระตุกแบบนี้มากันได้เลยที่ ร้านอาหารสามย่าน “edm (Enjoy Delicious Meal)” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17:00 - 22:00 น. แนะนำให้โทรจองที่เบอร์ 095-916-2956 เลยนะคะ :)
การเดินทาง
ร้านอาหารสไตล์ยุโรปหรือร้านอาหารสามย่าน “edm (Enjoy Delicious Meal)” ตั้งอยู่ในโครงการ Stadium One ติดกับสนามกีฬาศุภชลาศัย (ตรงข้ามโลตัสพระราม 1) สามารถเดินทางได้โดยรถยนตร์ส่วนตัว หรือสถานีรถไฟฟ้า BTS สนามกีฬาแห่งชาติ จากนั้นเดินต่อมาประมาณ 5 นาทีค่ะ ใครกำลังมองหาร้านอาหารสไตล์ยุโรปสามย่านอยู่ แนะนำว่าต้องมาลองให้ได้