จะดีแค่ไหน หากเราได้กินผักสด ๆ กรอบ ๆ เด็ดมาจากฟาร์มที่มั่นใจได้ว่าปลอดสารพิษ? วันนี้ bellyishungry ขอพักท้อง มากินผักรักษาสุขภาพบ้างค่ะ เพราะเพิ่งเจอแหล่งขุมทรัพย์สีเขียวในกรุงเทพฯ ที่มั่นใจได้ว่า ได้กินผักสดกรอบปลอดสารพิษแน่นอน!
ที่ร้าน “FarmTimes at 46” อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มากนัก กดจิ้ม Map ใน Wongnai มารับรองไม่หลงทางแน่นอนค่ะ
เข้ามาในร้านจะพบกับฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ที่ใหญ่พอสมควรเลย ความสดชื่นนี่ปะทะใบหน้าเต็ม ๆ มองไปไหนก็เห็นแต่ผักใบสวย สีเขียวลายตาไปหมด~ บรรยากาศเต็มสิบ! >_< จุดเด่นของทางร้านคือไม่ใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และใช้สารชีวภาพในการฉีดไล่แมลง มั่นใจได้เลยว่าไม่มีสารพิษปนเปื้อนค่ะ เห็นว่าทางร้านมีบริการขายผัก ให้เราได้ไปเด็ดผักกันสด ๆ เลยด้วย!
ในส่วนของเมนูอาหารก็หลากหลายมาก ๆ เหมาะกับ family dining ในช่วงวันหยุดจริง ๆ แถมโซนนั่งกินอาหารก็มองเห็นวิวฟาร์มผักด้านนอกแบบใกล้ชิดมาก เห็นแล้วก็อยากลองชิมผักของทางร้านเลยทีเดียว <3
เรียกน้ำย่อยด้วย สลัดผักรวม (120 บาท) ผักสลัดสดกรอบจากฟาร์มที่ร้าน สามารถเลือกน้ำสลัดได้สองอย่าง ซีซาร์ เทาซันด์ไอแลนด์ ดิวทาร์ทาร์ งาญี่ปุ่น และซีฟู้ดวาซาบิ
ทางร้านแนะนำเมนู พัฟผักโขมและเบคอนอบชีส (175 บาท) ที่ใครมาต้องสั่งทุกโต๊ะ! แป้งตอติญาสอดไส้ไปด้วยผักโขม เบคอน และ ชีสสามชนิด ทั้งมอสซาเรลลา เชดด้าร์ และพาร์เมซาน เสิร์ฟคู่กันซอสเทาซันด์ไอแลนด์ซึ่งเข้ากันได้ดีมาก! เป็นของกินเล่นเรียกน้ำย่อยที่บอกเลยว่าเบรกแตกสุด ๆ แนะนำจริง ๆ ค่ะ
ขาดไม่ได้กับเมนูใหม่แกะกล่องอย่าง พิซซ่าฮาวายเอี้ยนไวท์ซอส (175 บาท) เสิร์ฟมาในถาดขนาดกำลังดี แบ่งกิน 6 ชิ้น จุดเด่นของจานนี้คือ แป้งพิซซ่าที่นวดเองแบบบางกรอบ แถมเลือกใช้ไวท์ซอสกับหน้าฮาวายเอี้ยน น่าแปลกใจมากที่ไวท์ซอสเข้ากันได้ดีกับหน้านี้มากกว่าซอสมะเขือเทศอีก! ด้วยความที่ไวท์ซอสมีความละมุนในตัว แถมมีตัวสับปะรดหวานอมเปรี้ยวมาตัด รสชาติไปด้วยกันได้ดีมาก ๆ
ใครที่อยากทานผักสลัดแบบอิ่มหน่อย แนะนำ สลัดเนื้อสันในโคขุน (220 บาท) แน่นอนว่าใช้ผักที่เก็บสดใหม่จากฟาร์ม เคียงมากันเนื้อโคขุนไทยเฟรนช์ตัวท็อปจากกำแพงแสน มีความนุ่มและมันแทรกกำลังดี เสิร์ฟกับน้ำสลัดงาญี่ปุ่น รสหวานกลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับตัวเนื้อ
สายพาสต้าอย่างเราปลื้มกับเมนูนี้มาก! เพนเนกุ้งเพสโต้ (150 บาท) อีกหนึ่งเมนูขายดี ความพิเศษ อยู่ที่ตัวซอสโหระพาโฮมเมดที่ทำสดใหม่ และกุ้งสดตัวใหญ่ นำไปผัดกับน้ำมันมะกอกที่ดีต่อสุขภาพ เรียกว่าเป็นเมนูโปรดสำหรับสายเฮลตี้เลยก็ว่าได้ค่ะ
ใครที่เน้นทานเนื้อแบบเน้น ๆ แนะนำ เนื้อริบอายจิ้มแจ่ว (220 บาท) เนื้อริบอายเกรดพรีเมียมที่มีมันแทรกกำลังดี ย่างแบบเกือบสุก ยังคงมีความฉ่ำ juicy ด้านใน เสิร์ฟพร้อมแจ่วโฮมเมด หวานเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อม
พอร์คชอป (280 บาท) ชอบตรงที่ทางร้านเลือกพอร์คชอปติดกระดูกชิ้นใหญ่ เกรดเอสเพียว คัดไซส์ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไปมาย่างแล้วได้สุกกำลังดี เนื้อนุ่ม มีความหนึบ มีความฉ่ำ! กินกับมันบดโฮมเมดเนื้อเนียนสุดนุ่มละมุน
เมนูข้าวที่นี่ก็มีพร้อมเสิร์ฟนะคะ อยากให้ลองจานนี้เลย ข้าวผัดสมุนไพรแซลมอน (200 บาท) ข้าวผัดสมุนไพรเครื่องหนัก เสิร์ฟกับแซลมอนนอร์เวย์ที่สดมาก ไม่มีกลิ่นคาว แถมยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดี เป็นเมนูสุขภาพ ได้ประโยชน์ครบ!
ปิดท้ายมื้อเด็ดด้วยน้ำผักสกัดเย็น มีนกรีน (135 บาท) เป็นน้ำผักสูตรที่โด่งดังในต่างประเทศ ได้ประโยชน์จากแอปเปิ้ลเขียว คะน้า เซอลารี ขิง แตงกวา และเลมอน แต่ละตัวเปี่ยมประโยชน์ทั้งนั้น แถมมีคุณสมบัติลดระดับน้ำตาลในเลือด ผม สายตา ฯลฯ ซึ่งเจ้าน้ำสกัดเย็นตัวนี้ใช้วิธี cold press ยังคงความสดไม่ปรุงแต่ง ทั้งน้ำตาลและสารกันเสีย อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งคิดว่าจะมีกลิ่นผักแรงจนดื่มไม่ได้นะคะ ทางร้านได้ปรับสูตรให้ดื่มง่ายขึ้น คือเพิ่มแอปเปิ้ล มะนาว และแตงกวาเพื่อเพิ่มรสหวานจากตัวผัก ดื่มง่ายได้ประโยชน์จริง ๆ
เป็นยังไงกันบ้างคะ? กับเมนูเด็ดแต่ละจานของ “FarmTimes at 46” ที่พาให้เราประทับใจทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศร้านที่แฝงความอบอุ่น แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วยค่ะ จบมื้อนี้ไป อิ่มท้องแบบไม่เสียสุขภาพเลยจริง ๆ แต่ของแบบนี้อยากแนะนำให้มาลองด้วยตัวเอง เห็นว่าในอนาคตใกล้ ๆ จะมีเปิดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วย! ใครสนใจสามารถมาแวะได้ที่ร้านหรือติดต่อได้ที่เบอร์ 095-843-0749 เลยค่า