ในย่านริมปิงช่วงค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสียามราตรีจากผับบาร์น้อยใหญ่ที่เรียงรายกันเป็นตับให้หนุ่มสาวได้เลือกอิ่มอร่อยพร้อมขยับแข้งขยับขาออกจังหวะไปกับเสียงเพลง หารู้ไม่ตอนนี้มีอีกหนึ่งร้านน้องใหม่ที่อยากจะนำเสนอเชื้อชวนไปดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดคูล พร้อมอาหารรสบรรเจิดที่พรีเซ้นแต่ละจานได้เก๋ไก๋ไฉไลปานอยู่ในโรงแรมหรู แถมค็อกเทลของร้านนี้ที่ต้องกระซิบข้างหูเบาๆว่า the must จริงๆ แต่ทุกเมนูบอกไว้ก่อนราคาไม่แพ้งไม่แพง แถมยังแฝงตัวไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะอยู่ข้างๆร้านกู้ดวิวนี่เอง รอช้าอยู่ใยร้านที่จะไปวันนี้ มีชื่อเท่ๆ ว่ า Escudo Supper Clubนั่นเอง!
Escudo Supper Club มีชื่อตามเลขที่ของร้าน (15) บรรยากาศภายในจะแบ่งออกเป็นสามโซนคือ ส่วน Warehouse ที่อยู่รอบๆบาร์ค็อกเทล มีโต๊ะเก้าอี้สูงๆ เหมาะพาเพื่อนมาแฮงเอาท์ นั่งฟังเพลงแบบชิลๆ แถมมีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่ออย่าง "พี่โทนี่" ยืนประจำการอยู่ ถ้าใครเห็นหน้าตาหวานๆ แบบนี้ อาจนึกว่าค็อกเทล Signature สูตรเด็ด 15 ตัวตามชื่อร้านจะรสหนิมๆ เหมือนใบหน้า แต่ทุกตัวสามารถปรับระดับความนุ่มลึก เข้มแรงได้ดั่งเวทมนตร์เสก หรือเพื่อนคนไหนไม่อยากทานตามเมนูก็เพียงเอื้อนเอ่ยบอกพี่โทนี่ เขาก็จัดให้ได้ตามความชอบ
พี่โทนี่มารอแสดงฝีมือตั้งแต่ช่วงเย็นๆ
การตกแต่งของร้านจะเป็นแนวอินดัสเทรียลในสไตล์ดิบๆ เน้นความเป็นธรรมชาติ ผสมผสานองค์ประกอบของความคลาสสิกของยุคอดีตไว้อย่างลงตัว ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบเมทัลลิกดีไซน์เก๋อย่างโคมไฟ ที่ทำมาจากวัสดุผิวมันวาวทำให้ห้องอาหารดูสวยชวนฝัน รวมถึงพรอพ ของตกแต่งต่างๆ
ขาโต๊ะเป็น bowling pin setter นะเนี่ย อย่างเก๋
ขยับมาอีกนิดตรงส่วน Terrace ในบรรยากาศ outdoor รับลมเเย็นๆ ตรงระเบียงที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบๆร้าน หรือจะเป็นในส่วนของ riverside ด้านล่างที่แนบชิดอิงแอบ ติดริมน้ำได้บรรยากาศชิลๆ เหมาะกับการมาสังสรรค์หรือดินเนอร์กับคนที่รู้ใจเป็นอย่างดี และใครที่ชอบดื่มไวน์ไม่ต้องห่วง เพราะทางร้านมีในห้องเก็บไวน์ที่มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า I Can't Tell You Why (Wine) ที่มีชื่อมาจากเพลงของวง The Eagle ให้ได้นั่งดื่มด่ำเคล้าเสียงเพลงไปตามจังหวะได้สบายๆ
ในส่วนของอาหารของทางร้านมีให้เลือกทานทั้งอาหารยุโรปนานาชาติ หรือาหารไทย-จีนแบบฟิวชั่นที่เชฟพร้อมรังสรรค์เมนูหน้าตาสวยๆ ให้เพื่อน ไป แชะ ชิม ชิลล์ ไปอวดลง FB หรือ IG ได้ทั้งนั้น เริ่มกันที่เมนูทานเล่นอย่าง “ปอเปี๊ยะปูอัดอบชีส” (130 บาท) เมนูลูกครึ่งซึ่งน่าจะถูกใจคนชอบกินของกรุบกรอบ ปอเปี๊ยะทอดใส่ไส้ปูอัดผัดเนยใส่เชดด้าชีส ทอดจนเหลืองกรอบ ทานแกล้มกับผักสด เวลาทานก็จะได้รสชาติของปูอัดนุ่มนิ่มและชีสที่ไหลเยิ้มออกมา ทานคู่มายองเนสวาซาบิรสเข้มข้น เมนูนี้เสิร์ฟมาในแก้วไวน์ได้เก๋ไก๋มากๆ
ถัดมาเป็น “ซุปคะน้าหมูกรอบ” (130 บาท) ซุปคะน้าที่นำไปปั่นผสมกับเครื่องเทศต่างๆจนได้รสชาติเค็มๆ มันๆ จะตัดซดทีละคำหรือจิ้มทานคู่กับแคบหมูที่เสิร์ฟมาด้วยกันก็ได้ ขยับมาอีกนิดเอาใจคนรักสุขภาพและน่าจะเหมาะกับหน้าร้อนช่วงนี้ กับ “สลัดไก่ฮาวาย” (170 บาท) อกไก่ที่นำไปกริลล์บางๆ ที่มาพร้อมกับผักสลัดต่างๆ ราดด้วยน้ำสลัดเรสละมุน เสิร์ฟมาในผลสับปะรด เมนูนี้สาวๆ หลายๆ คนน่าจะถูกปากเป็นอย่างดี
ซุปคะน้าหมูกรอบ
สลัดไก่ฮาวาย
มาดูในส่วนของอาหารจานหลักกันบ้าง กับ “ริบอายสเต็กซอสเห็ด” (420 บาท) สเต็กเนื้อโพนยางคำ ส่วนริบอายซึ่งเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อเยอะ และจะละลายเมื่อโดนความร้อน ซึ่งไขมันที่ละลายก็จะแทรกเข้าไปในชิ้นเนื้อ ทำให้เนื้อทั้งชิ้นนุ่มจนแทบละลายในปาก ยิ่งย่างมาแบบฉ่ำๆ นี่จะมีอะไรที่ฟินไปกว่านี้อีก ถ้าใครไม่ทานเนื้อลองสั่งเป็น“สเต็กทูน่า” (320 บาท) จานนี้แค่เห็นหน้าตาก็ชวนน้ำลายสอแล้ว เป็นทูน่าสีชมพูกริลล์มาแบบบางๆ พอให้ด้านนอกสุกเกรียมนิดๆ ส่งกลิ่นหอมชวนให้ลอง แนะนำให้บีบเลม่อนลงบนเนื้อทูน่าบางๆ แล้วทานคู่กับ garlic butter lemon cream sauce รสมันๆ เปรี้ยวๆ ที่ทานเข้าด้วยกันก็จะช่วยเสริมความอร่อยให้กับอาหารจานนี้ได้อย่างลงตัว
แล้วปิดท้ายด้วยของหวานล้างปากกับเมนู “ช็อคลาวา+ไอศกรีม” ลาวาที่ถูกอัดแน่นไปด้วยดาร์กช็อคโกแลตฉ่ำเยิ้มอยู่ด้านใน พร้อมที่จะระเบิดออกมาให้ได้ทานอยู่ตลอดเวลา ทานคู่กับไอศกรีมวานิลาและฟรุตสลัดยิ่งเย็นฉ่ำหวานชื่นใจ
ริบอายสเต็ก
สเต็กทูน่า
ช็อคลาวา
เยิ้มๆ
จบของคาวเรามาดูบางส่วนของเครื่องดื่มค็อกเทล signature 15 ตัว ที่อยากแนะนำให้ได้ลิ้มลองกันสุดๆ เพราะนอกจากหน้าตาจากดูดีมีระดับแล้ว รสชาติแต่ละตัวล้วนถูกใจถูกปากนักดื่มแน่ๆ เริ่มกันที่ “15 ซามูไร” (200 บาท) วอดก้าสีเขียวเข้มที่มาพร้อมกับผลสับปะรด และผลไม้สดหั่นเป็นลูกเต๋า รสชาติหวานนุ่มของเมล่อนและพีช ถ้าใครชอบความเข้ม สุขุม นุ่มลึก แนะนำเป็น “15 โกลด์มาการิต้า” (170 บาท) สีทองอร่ามที่มากับห่วงสีทองคล้องแก้ว หรือถ้าชอบหวานเปรี้ยวหวานสดใสลองชิม “15 สตรอเบอร์รี่” เหล้าจินที่มีกลิ่นหอมของผลจูนิเปอร์ผสมผสานกับรสหวานนิดๆ ของสตรอเบอร์รี่ลิเคียว
15 ซามูไร
15 โกลด์มาการิต้า
15 สตรอเบอร์รี่
ตัวนี้แหละทีเด็ดถ้าใครอยากจะแชะอวดเพื่อนๆ ลองสั่ง “15 แล็ป วอดก้า” (200 บาท) รสชาติเปรี้ยว หวาน ซาบซ่าละม้ายคล้ายบลูฮาวายแต่เสิร์ฟมาในหลอดทดลองวิทยาศาสตร์ แถมมี dry ice เพิ่มควันเท่ๆ ให้ดูคูลสุดๆ ไปเลย แต่ถ้าใครมาเป็นคู่่ขอแนะนำเป็น “Sweet Fifteen” (190 บาท) ค็อกเทลกลิ่นกล้วยและมะพร้าวที่มีโซ่คล้องไว้ ให้คู่รักต้องดื่มร่วมกันเหมือนความรัก ที่ต้องประคับประคองกันไป
15 แล็ป วอดก้า
Sweet Fifteen
จิบเครื่องดื่มให้ได้อรรถรสก็ต้องจิบเคล้าคู่กับเสียงเพลงเป็นธรรมดา ซึ่งทางร้านจะเปิดเพลงแนว Chill Out สบายๆ ให้เพื่อนๆ ได้ชิลๆ ไปกับบรรยากาศเรื่อยๆ และที่พลาดไม่ได้ก็นี่แหละ 3 ทุ่มครึ่ง ถึงเที่ยงคืนของทุกวัน พบกับวง The Gimmick วงดนตรีของทางร้านที่เล่นเพราะฟินเว่อร์ ใครอยากฟังเพลงของ Sam Smith หรือ John Legend ก็ไม่ต้องถ่อไปถึงกทม. แล้วล่ะ เพราะแค่มาร้านนี้ พี่เขาก็เล่นให้ฟังกันให้อินกันแบบสุดๆ
Escudo Supper Club อยู่บนถนนเชียงใหม่-ลำพูน ร้านอยู่ตรงข้ามลานจอดรถกู้ดวิว (อยู่ข้างกู้ดวิว) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 17:00 – 01:00น. เพื่อนๆ สามารถจอดรถที่ปั๊มน้ำมันเก่าตรงข้ามร้าน บัตรจอดรถสามารถใช้ร่วมกับร้านกู้ดวิว โดยแลกเครื่องดื่่มได้ตามเงื่อนไข ทุก ๆ วันที่ 15 ของเดือน ลดราคาอาหาร 15 % ทุกเมนู
ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้ได้ลิ้มลองพร้อมซึมซับไปกับรรยากาศสุดคูลหน้าบาร์ ที่จะชวนเพื่องมาแฮงเอาท์ปาร์ตี้ หรือจะชวนหวานใจมาสวีทตรงฝั่ง terrace หรือ riverside โดยเพื่อนๆ สามารถสำรองที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของร้านได้ที่เบอร์ 086 118 5556หรือติดตามแฟนเพจได้ที่ //www.facebook.com/pages/Escudo-Supper-Club/411207665712517