เทศกาลกินเจปีนี้ขอพาคุณเข้าใจกลางเมืองที่ “ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์” แหล่งรวมช็อปปิ้งสินค้า ITLIFESTYLE MALL ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยสะดวกมากมาย ทั้งที่จอดรถ และการเดินทาง โดยสามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงสถานี พระราม 9 มาไม่ยากเลย เอาละ! เรามาดูกันว่ามีร้านไหนขายอาหารเจถูกตาถูกใจบ้าง
เริ่มกันที่ชั้น G FOOD MALL กันก่อน ร้าน “จานเดี่ยว by ยำแม่ริ้ว” ซึ่งจริงๆเป็นร้านอาหารทะเลที่บางแสนดังนั้นบรรยากาศร้านจึงตกแต่งให้เหมือนทะเล มีความเป็นกันเอง ไม่เกร็ง แต่สาขานี้มาเปิดในกรุงเทพฯ ทางร้านจึงขายอาหารจานเดียวเพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองคนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ พนักงานจะคอยเทคแคร์ลูกค้าเป็นอย่างดี
เมนูเจแนะนำคือ “แพนงเห็ดเจ” (89 บาท) เหมาะสำหรับคนที่เบื่ออาหารรสจืด เพราะแกงแพนงของร้านสุดยอดของความเข้มข้นจริงๆ ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดไปอีก แต่ถ้าไม่อยากทานให้มันหนักท้องก็สามารถเลือกเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน “ยำเห็ดรวม” (99 บาท) เต็มไปด้วย เห็ดหูหนูดำ เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า รสชาติแซ่บจัดจ้าน เรื่องรสชาติที่เข้มข้นและจัดจ้านนั้นเป็นจุดเด่นของทางร้าน ลูกค้าที่มาทานถ้าอยากรีเควสรสชาติที่ใช่สามารถสั่งพ่อครัวได้เลยว่าต้องการอาหารรสชาติแบบไหน จะเค็มนิด หวานหน่อย เปรี้ยวจัด สามารถสั่งได้หมดเลย



มาต่อกันที่ร้าน “บ้านหม้อดิน” ชั้น G FOOD MALL ที่เดินเข้าครั้งแรกได้กลิ่นอายความดั้งเดิมในยุคสมัยก่อน ที่มาจากการตกแต่งให้ดูโบราณด้วยไม้สีเข้ม สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวสามารถนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์สามารถดูเชฟทำอาหารได้และมีโต๊ะรองรับสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม จุดเด่นของร้านคือ “หม้อดินโบราณ” ที่ทำให้เมนูนั้นมีกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของหม้อดินและตื่นตาตื่นใจเวลาเสิร์ฟ
ประเดิมด้วยซิกเนเจอร์ “ข้าวอบหม้อดินหมื่นปีเจ”(99 บาท) เพียงแค่เสิร์ฟที่โต๊ะก็รีบหยิบช้อนส้อมไม่ทัน ข้าวหอมร้อนๆ ที่ราดด้วยซอสเหนียวข้นสูตรพิเศษของทางร้านเต็มไปด้วยเครื่อง กุ้ง หมูแฮม ข้าวโพด เห็ดออรินจิ แครอทและผักคะน้า เมนูนี้เด็ดจริง อิ่มแปร้แน่นอน และแนะนำอีกหนึ่งเมนู “ราดหน้าห้าเซียนเจ” (89 บาท) สุดฟินด้วยรสชาติที่กลมกล่อมหอมสุดๆ ของส่วนประกอบ 5 อย่าง กุ้ง, ผักคะน้า, หมู, แฮม และแครอท ไม่น่าเชื่อว่ามันคือรสชาติของอาหารเจ ได้ลองสักครั้งแล้วจะติดใจ



สำหรับใครที่ชอบทานอาหารแบบไทยๆ รสชาติรุ่นเดอะต้องมาที่นี่ “ง้วนหลังวัง” ตั้งอยู่ชั้น G FOOD MALL ร้านเก่าแก่ที่รุ่นลูกในยุคปัจจุบันได้ทำการพัฒนาร้าน โดยนำเอาประสบการณ์ด้านรสชาติอาหารตั้งแต่รุ่นปู่และรุ่นพ่อมาผสมผสานกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงให้ทุกๆท่านได้ลิ้มลองกัน
เริ่มกันที่ “โซบะหน้าไก่เห็ดหอมเจ” (89 บาท) เส้นโซบะเหนียวนุ่มเข้ากับน้ำซอสรสเด็ดได้เป็นอย่างดี กลิ่นหอมของเห็ดนั้นยั่วน้ำลาย เนื้อไก่เจนุ่มเคี้ยวง่าย หรือใครที่ชอบความเข้มข้นของแกงกะทิต้องจัดไปกับเมนู “ข้าวเขียวหวานไก่เจ” (79 บาท) รสชาติเข้มข้น ทานพร้อมกับข่าวสวยร้อนๆ ถือว่ามื้อนี้เลิศมาก มีแรงพร้อมสู้กับงานที่โต๊ะต่อทันที



อยากได้ฟิลโรงเตี๊ยมในหนังจีนที่เราชอบดูกันในหนังซีรีย์ ขอแนะนำ “Kopitiam” (โกปี่เตี่ยม) ชื่อร้านมีที่มาของการสมาสคำว่า โกปี่ และ โรงเตี่ยม รวมกันเป็น โกปี่เตี่ยมมีความหมายว่าร้านกาแฟในสมัยก่อน ดังนั้นแล้วการตกแต่งร้านเป็นสไตล์จีนโบราณซึ่งมีกลิ่นอายของโรงเตี๊ยมในยุคสมัยก่อนนั่นเอง
ใครที่เบื่อการทานอาหารจืดและมันๆ ต้องเจอ “ยำวุ้นเส้นเจ” (109 บาท) เห็ดเข็มทอง หมึกเจ กุ้งเจ เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม มะเขือเทศ คื่นช่าย น้ำยำเจ รสแซ่บจัดจ้าน แต่ถ้าใครอยากทานรสชาติไหนเป็นพิเศษสามารถแจ้งที่พนักงานได้เลย ใครที่อยากอิ่มท้องก็เลือกเป็น “ข้าวผัดเจ” (109 บาท) ข้าวผัดสีสวยเป็นผักห้าสีประกอบด้วย ข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท เห็ดหอม และก้านคะน้า ผัดกับน้ำซอสเจสูตรพิเสษ ใช้ข้าวหอมมะลิชั้นดี ข้าวผัดไม่แฉะ มีกลิ่นหอมกะทะ เสิร์ฟที่โต๊ะร้อนๆ บีบมะนาวเพิ่มรสชาติสักนิด ดีไม่ใช่เล่น



ปิดท้ายการเดินทัวร์อาหารเจที่ไม่จำเจด้วยร้านสุดฮอตที่ใครๆ ก็รู้จัก “Pepper Lunch” ชั้น 1 FOOD MALL ด้วย “ชุดสเต๊กไก่ซอสพริกไทยดำเจ” (169 บาท) เด่นที่ซอสพริกไทยดำที่ส่วนผสมมีซอสถั่วเหลือง ซอสเห็ดหอมเจ น้ำมันงา พริกไทยดำ ผสมกันอย่างลงตัว ราดลงสเต๊กไก่เข้ากันได้เป็นอย่างดี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆและเครื่องดื่มเจให้เลือกระหว่างชาเขียว เย็นหรือชาเขียวร้อน หรือจะเลือกเป็นเมนูยอดฮิตช่วงเจ “ชุดพาสต้าเทริยากิหมูเจ” (169 บาท) ที่ประกอบไปด้วยเส้นพาสต้า, หมูเจ, ข้าวโพด, ถั่วแขก, เห็ด ราดด้วยน้ำมันมะกอกและซอสสูตรพิเศษ นอกจากหมูเจรสชาติกลมกล่อมแล้วยังโดดเด่นที่เส้นพาสต้า ด้วยการต้มเส้นให้น้ำเดือดที่สุด แล้วใส่เกลือลงไป ปริมาณน้ำกับเกลือต้องสัมพันธ์กัน ต่อด้วยลงเส้นพาสต้าซึ่งใช้เวลาแค่ 9 นาทีเท่านั้น เพื่อให้เส้นนุ่มพอดี เสิร์ฟพร้อม สลัด และคู่กับเครื่องดื่มเจ


