คุณกำหนดเป้าหมายของชีวิตไว้อย่างไร? อะไรคือความสำเร็จสำหรับคุณ?
.
บางคนต้องการ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง ความสุข แล้วเรามีวิธีคิดเพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายได้อย่างไร อะไรคือความท้าทายในฐานะมนุษย์ และคนทำงาน
.
บทความใน Harvard Business Review ได้นำเสนอคำถามเกี่ยวกับการทำงาน ชีวิต และการกำหนดเป้าหมาย อาจจะเรียกว่า การวางแผนชีวิตเพื่อช่วยนำทางผ่านช่วงเวลาสำคัญ แล้วเราจะรู้ว่า บางครั้งการหยุด ทบทวน แล้วถอยหลังเล็กน้อย เราจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น และถามกับตัวเองได้ว่า อะไรคือส่ิงที่สำคัญที่สุด
.
หลังจากอ่านข้อความนี้ หวังว่าคุณจะพบสิ่งที่ช่วยนำทางให้คุณพบกับเป้าหมายที่คุณต้องการมากที่สุด
.
ก่อนจะไปถึงวิธีในการกำหนดเป้าหมายของชีวิต มีตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่ออาจารย์และลูกศิษย์คู่หนึ่ง คุกันว่า ทฤษฎีการจัดสรรทรัพยากร สามารถช่วยให้เข้าใจได้ว่า การใช้เวลาเพื่อทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องแทนที่จะใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รัก อาจนำคุณไปสู่ความสำเร็จในอาชีพการงานได้อย่างดี แต่ก็ส่งผลลบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวเช่นกัน
.
เชื่อหรือไม่ว่า เพียงข้อความนี้ มีหลายคนที่ตัดสินใจหยุดทำงานล่วงเวลา หยุดทำงานพิเศษ หรือบางคนอาจถึงกับเปลี่ยนงานเปลี่ยนอาชีพ แล้วหันมาโฟกัสกับชีวิตครอบครัวมากขึ้น บางคนตัดสินใจเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองกับคนในครอบครัว เราไม่สามารถบอกได้ว่าใครประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่อย่างน้อย เขาได้พิจารณาและเลือกเป้าหมายในชีวิตของเขาแล้ว
.
1. ตอบคำถามแรก อะไรคือความสำเร็จ?
ศาสตราจารย์ Clay Christensen จาก Harvard Business School ได้สอนเรื่องทฤษฎีการจัดการและนวัตกรรมเพื่อสร้างบริษัทที่แข็งแกร่ง และเชื่อว่าการจัดการ (Management) ช่วยใหัคนมีชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นได้ด้วย โดยมีการถามคำถามในห้องเรียนว่า เราจะมีความสุขในอาชีพการทำงานได้อย่างไร จะมั่นใจได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่น
.
คำตอบที่น่าสนใจคือ เงิน ไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ทรงพลังที่สุด (แต่ก็อยู่ในระดับสูง) แต่สิ่งที่กระตุ้นได้มากคือ โอกาสในการเรียนรู้ การเติบโต ความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วม และการได้รับการยอมรับ ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของงาน Management นั่นคือองค์ประกอบในที่ทำงาน
.
ส่วนที่บ้านการจัดการก็มีส่วนช่วย ถ้าเราจัดการกับทรัพยากรคือ เวลา ที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับการทำงานอย่างหนัก เราอาจเข้าใกล้กับความสำเร็จในทางอาชีพ แต่นั่นก็อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับคุณ ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ว่าคุณวัดผลชีวิตอย่างไร และกำหนดว่าอะไรคือความสำเร็จ
.
2. สำรวจความคิดและจุดมุ่งหมาย
อีกวิธีที่น่าสนใจคือ การกำหนด ค่านิยม (Value), ความหลงใหล (Passion) และ จุดมุ่งหมาย (Purpose) เพื่อวางแผนและนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ซึ่งต้องรู้ก่อนว่าทั้งสามคำ มีนิยามว่าอย่างไร
ค่านิยม เป็นรากฐานของความหลงใหลและจุดมุ่งหมาย ค่านิยมไม่ใช่สิ่งนามธรรม แต่เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจและพฤติกรรม
ความหลงใหล เป็นแรงขับเคลื่อนทางอารมณ์ให้เกิดการกระทำที่สอดคล้องไปกับค่านิยม ความหลงใหลจะช่วยค้นหาอาชีพที่รัก และสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้
จุดมุ่งหมาย เป็นการรวมค่านิยมและความหลงใหลเข้าด้วยกัน เป็นทิศทางในชีวิตที่มากกว่าแค่ความสนุกสนาน เป็นสิ่งอ้างอิงในการตัดสินใจ เป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนระยะยาว เป็นสิ่งที่ต้องการบรรลุในท้ายที่สุด
.
ทุกคนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า มีค่านิยมอย่างไร มีความหลงใหลในเรื่องใด และกำหนดเป็นจุดมุ่งหมาย เพื่อให้สามารถวางแผน และกำหนดเป็นทิศทางให้กับชีวิตได้
.
3. สิ่งรอบตัวที่ทำให้มีความสุขได้ทันที
ชีวิตของผู้บริหารหลายคน ทำงานหนักจนไม่เหลือเวลาให้ตัวเองและครอบครัว มีคำแนะนำจากศาสตราจารย์ Stewart Friedman แห่ง Wharton School บอกว่า ผู้บริหารสามารถใช้ทักษะที่มีสร้างประโยชน์ให้เกิดกับทั้งนายจ้าง, พนักงาน, ครอบครัว และสังคม และถึงทำไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็เกิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาในครั้งต่อไป สุดท้ายเราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
.
ยกตัวอย่าง เช่น ผู้บริหารที่กำหนดโครงการวิ่งการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยสังคม โดยพนักงานทุกคนสามารถร่วมกิจกรรมกับบริษัท และชวนคนในครอบครัวมาร่วมกิจกรรมด้วยกัน ผลคือ สามารถระดมทุนให้กับสังคม ได้ใช้เวลากับครอบครัว ทำให้ภาพลักษณ์องค์กรดี และสุขภาพของตัวเองก็ดีขึ้น และยังมีโอกาสได้รับประโยชน์อื่นๆ เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
.
4. ลองเล่าเรื่องให้ตัวเองฟัง
หลายคนที่ต้องการกำหนดเป้าหมายให้ชีวิต เลือกใช้วิธีการ “บอกเล่าเรื่องราว” กับตัวเอง ซึ่งวิธีการง่ายๆ นี้ กลับทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเรื่องราวสามารถกำหนดความคิดและพฤติกรรมของเราได้ ถ้าเรากำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน บอกเล่าเรื่องราวนี้กับตัวเองซ้ำๆ บ่อยๆ อาจเหมือนการสะกดจิต แต่ก็ทำให้เรามุ่งมั่นและโฟกัส ไม่หลุดจากเป้าหมาย และพุ่งตรงไปสู่ความสำเร็จได้
.
ปัจจัยสำคัญคือ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นว่าสามารถทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นได้จริง และไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง แทนที่จะบอกตัวเองว่าเรากำลังพยายามทำอะไร ให้เปลี่ยนใหม่และบอกว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ และเราต้องการผลลัพธ์อย่างไร นี่เป็นวิธีที่นำเราไปสู่ความสำเร็จได้เช่นเกัน
.
5. ปล่อยวางที่แปลว่าปล่อยวาง
หลายคนเหนื่อยอ่อนจากการทำงาน ใช้เวลาหลายชั่วโมงพยายามทำให้เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รวมถึงตัวเองพอใจกับงานที่ทำ แต่รู้หรือไม่ว่า การทำงานหนักเกินไปไม่ได้ส่งผลดี และไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายคือความสำเร็จมากขึ้นเสมอไป มีงานวิจัยหนึ่งพบว่า การทำงานหนักเกินไปจนเกิดความเครียดมีผลร้ายต่อทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว
.
ดังนั้น จงเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ออกไปเที่ยว พักผ่อน พูดคุยกับคนอื่นๆ ทั้งที่บ้าน หรือสถานที่ที่แตกต่างออกไป เพื่อเปิดมุมมอง การพยายามมากเกินไปไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จ ดีไม่ดีอาจจะทำให้เรายิ่งห่างไกลออกไปก็ได้
.
และแน่นอนว่า หากเราต้องการพื้นที่สำหรับค้นหาตัวตน พูดคุยกับตัวเอง กำหนดเป้าหมายเพื่อพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ ลองไปนั่งฟังเพลงชิลๆ มีเล่นดนตรีสดๆ กับอาหารอร่อยๆ ที่นี่ https://www.wongnai.com/collections/live-music-bars
ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมถามตัวเองว่า อะไรคือเป้าหมายและความสำเร็จในแบบของคุณ ขอให้ทุกคนเจอสิ่งที่ตามหาและมุ่งมั่นที่จะไปถึงสิ่งนั้น ขอให้ระลึกไว้ว่าหากเราไม่ยอมแพ้ หากเราไม่ล้มเลิก ความล้มเหลวก็ไม่มีวันหาเราเจอ
#Wongnai #Wongnaivibes #WongnaiVibesStory
Ref: https://hbr.org/.../our-favorite-advice-on-work-change...