#วงในบอกมา
- “กำเบ้อ” แปลว่าผีเสื้อ ซึ่งร้านต้องการสื่อว่าเราเปรียบเหมือนผีเสื้อ ที่กำลังบินอยู่ในดงสวนสวย
- เมนู “ตำมะเขือ” จะเผามะเขือให้ส่งกลิ่นหอมก่อนนำไปตำ
- มาแล้วไม่ควรพลาดเมนู “ข้าวซอย”
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนฉ่า จนไม่สามารถทนนอนเปื่อยอยู่ที่ห้องได้อีกต่อไป ดังนั้นความคิดเดียวของเราคือการหาแหล่งโอเอซิสดี ๆ ในเชียงใหม่ กระทั่งได้ขับรถออกไปตระหาเรื่อย ๆ จนไปสะดุดตากับป้ายรูปทรงแปลก ๆ ดูคล้ายกับผีเสื้อ อ้าว! รอช้าอะไรล่ะเลี้ยวเข้าไปเลยสิ ขับตรงเข้าซอยไปเรื่อย ๆ ก็จะพบแหล่งโอเอซิส ที่ภายนอกถูกปกคลุมไปด้วยเหล่าต้นไม้นานาชนิด และมีละอองน้ำเล็ก ๆ คอยสร้างความชุ่มฉ่ำลองออกมาจากนอกร้าน ซึ่งมันตรึงให้เราติดกับ จนได้เข้าไปพบกับโลกแห่งผีเสื้ออย่าง ร้าน “Gramber Cafe” ร้านอาหารเหนือเชียงใหม่ ที่เหมาะกับการมาหย่อนใจ ภายใต้บรรยากาศที่สุดแสนจะร่มรื่น
“Gramber Cafe” ตั้งอยู่ในกลางซอย ของย่านสี่แยกหนองจ๊อม แม้ว่าอาจจะอยู่ในซอยลึกหน่อย แต่เราขอยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ที่นี่แหละคือหนึ่งในร้านอาหารบรรยากาศดีเชียงใหม่ของเรา! เพื่อน ๆ ก็คงอาจจะสงสัยแน่ ๆ ว่าจะมีร้านอาหารดี ๆ ในซอยลึกแบบที่เราเกริ่นมาจริง ๆ หรือ? เอาล่ะ ทุกคนจะรู้ตัวอีกที กระทั่งไปเจอเข้ากับบ้านเรือนไม้ไทยหลังใหญ่ ที่รอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ถูกจัดวางอย่างวิจิตร เป็นสวนสวยสุดร่มรื่น และภายในของเรือนไม้ไทย ก็เป็นทั้งร้านอาหารเหนือและคาเฟ่ภายในที่เดียวกัน ซึ่งสไตล์การตกแต่งของร้าน ก็ราวกับว่าสถานที่นี้คือผลงานชิ้นเอกของศิลปินมือทองเลยล่ะ ทั้งผีเสื้อสีทองที่ประดับประดาอยู่ ก็ส่องแสงระยิบระยับประดุจว่ามันมีชีวิตจริง ๆ ยิ่งถ้าได้มาตอนบรรยากาศช่วงเย็น มีแสงอ่อน ๆ นี่นะ มันคงโรแมนติกเอามาก ๆ แน่เลย เอาล่ะ...โม้อยู่นาน ท้องไส้ก็ส่งสัญญานเตือนบอกให้สั่งอาหารได้แล้ว
เปิดตำราปฐมบทของกลิ่นอายความล้านนาด้วยเมนู “ออร์เดิร์ฟเมือง” (ราคา 199 บาท) หลายคนคงอาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องเอาเมนูที่ดูธรรมดานี้มานำเสนอ เราจะบอกว่าเพื่อน ๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน จนกว่าจะได้ลองชิม ทั้งสำรับอาหารเหนือของเมนูนี้ เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร น้ำพริกหนุ่มและน้ำพริกอ่องรสชาติกลมกล่อมถึงพริกถึงขิง เคียงข้างมาด้วยเครื่องแกล้มอย่างหมูยอ ที่มีเนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟัน โดดเด่นไม่ซ้ำใคร, หมูทอดรสเด็ด, ไส้อั่วที่หอมเย้ายวนถึงตำรับล้านนา, แหนมสดสไตล์โฮมเมด และผักลวกชนิดต่าง ๆ จะกินแกล้มกับตัวไหนก็เข้ากันได้ดีไปหมด
ส่งต่อไม้ต่อกับเมนู “ข้าวซอย” (ราคา 79 บาท) ที่ร้านก็จะใช้เทคนิคง่าย ๆ แต่เพิ่มรสชาติได้ถึงใจยิ่งขึ้น โดยจะนำน้ำพริกข้าวซอยลงไปผัดในกระทะร้อน ๆ จนส่งกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจ จากนั้นก็จะปรุงเป็นน้ำซุป ซึ่งทีเด็ดก็อยู่ที่ตัวน้ำพริกแกงของข้าวซอยที่รสชาติครบรส ปิดท้ายด้วยความละมุนจากหัวกะทิ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานั้นก็จะผสานเข้ากับ “เนื้อหมู” หรือ “เนื้อไก่” ได้อย่างดี เพราะเนื้อสัตว์ทั้งสองนี้ก็จะผ่านการตุ๋นในน้ำซุปจนรสชาติน้ำแกง ซึมอยู่ในทุกอณู เพื่อน ๆ แทบจะจินตนาการถึงรสชาติไม่ออกเลยล่ะสิท่า ว่ามันจะถึงเครื่องขนาดไหน แนะนำว่าต้องลอง
เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ทั้งสองเมนูก็หมดเกลี้ยงหายวับไปกับตา ไม่รอช้าไปต่อกับ “หมูเค็ม” (ราคา 79 บาท) หมูสันคอแทรกมันกำลังดี หมักด้วยสูตรเฉพาะ นำลงไปทอดในกระทะร้อน ๆ จนได้ความกรุบกรอบที่พอดี รสชาติหมูเค็มกลมกล่อมจานนี้ ให้อารมณ์เหมือนกับหมูรสมือแม่ที่ทอดให้กินในทุก ๆ เช้าเลย ยิ่งเสิร์ฟมาในปิ่นโตน้อย ก็ทำให้อดคิดถึงแม่ไม่ได้เลย “ข้าวผัดปลาเค็มหมูหวาน” (ราคา 119 บาท) ข้าวสวยร้อน ๆ ผัดในเตาไฟ ผัดคลุกเคล้ากับปลาเค็ม ความหอมของปลาเค็มจะคละคลุ้งเต็มทั่วทั้งเตา รสชาติของปลาเค็มก็ได้ซึมแทรกเข้าไปในอณูของตัวข้าว ทำให้ข้าวผัดได้รสชาติที่กลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับหมูหวาน รสเค็มหวานฉ่ำเนื้อกำลังดี กินคู่กันมันดีไม่น้อยเลยล่ะ
“แกงเห็ดรวมปลาแห้ง” (ราคา 85 บาท) แกงเห็นรสชาติพื้นบ้านที่ดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเอาเสียเลย ความเหนือชั้นของรสชาติคือน้ำซุป รสชาติของกระดูกหมูและปลาแห้งในน้ำซุปเข้ากันดีอย่างบอกไม่ถูก ตามด้วยเห็ดหลากชนิด ซึ่งรสชาติไม่ต้องพูดถึง กินเพลินเลยล่ะ “แกงหน่อไม้” (ราคา 85 บาท) แกงหน่อที่น้ำซุปเหลือร้ายจริง ๆ ความกลมกล่อมของรสชาติแบบนี้ต้องยอมยกนิ้วให้เค้าล่ะ มาพร้อมกับหน่อไม้ต้มสุกเนื้อกรุบกรอบ มิติของรสชาติของเมนูนี้ถึงใจจริงเชียว
มาร้านอาหารเหนือเชียงใหม่จะขาดเมนูนี้ไปไม่ได้กับ “ปูอ่อง” (ราคา 59 บาท) เป็นมันปูล้วน ๆ ย่างบนเตาไฟ จนได้รสชาติที่กลมกล่อมพอดี ไม่เลี่ยน กลิ่นปูหอมกรุ่นขึ้นจมูก เด็ดไม่น้อยหน้าคานิมิโซะแบบญี่ปุ่นแน่นอน “ตำมะเขือไข่ต้ม” (ราคา 79 บาท) มะเขือยาวถูกนำไปเผาจนได้กลิ่นหอมควันไฟเตะจมูก จากนั้นตำและรังสรรค์รสชาติ จนได้เป็นน้ำพริกมะเขือตามแบบฉบับร้าน “Gramber Cafe” เชียงใหม่ เป็นน้ำพริกที่เราต้องยกใจให้ที่หนึ่งเลย
“ยำหมูยอ” (ราคา 99 บาท) เมนูที่เหมือนจะดูเบสิก แต่ไม่เลย! ความเด็ดของที่นี้จะอยู่ที่ “หมูยอ” เป็นหมูยอสไตล์โฮมเมด ซึ่งเนื้อสัมผัสจะแน่นเด้งเป็นพิเศษ กัดเข้าไปคำแรกจะได้ความฉ่ำของเนื้อหมูยอ และความเด้งสู้ฟัน เรียกได้ว่าเค้าคือจุดเด่นของจานนี้เลย โดยจะนำมายำคลุกเคล้าจนได้รสชาติที่จี๊ดจ๊าดชวนน้ำลายสอไปเลยจ่ะแม่ “แหนมซี่โครง” (ราคา 99 บาท) แหนมซี่โครงหมักเข้าเนื้อ รสชาติเปรี้ยวเค็มกำลังดี ทอดในน้ำมันที่ร้อนฉ่าจนได้ความกรุบกรอบ และยังคงฉ่ำของรสชาติแหนม เมนูนี้แทะกันเพลิน ๆ ไปเลย
และนอกจากเมนูอาหารเหนือไปแล้ว ทางร้านก็ยังมีในส่วนของคาเฟ่อีกด้วย เราก็ขอแนะนำเมนูเครื่องดื่มเติมความสดชื่นอย่าง “คาปูชิโนเย็น” (ราคา 70 บาท) กาแฟรสนุ่มลุ่มลึก รสชาติหวานอมเข้มของรสชาติกาแฟกำลังดี “Lemon Soda” (ราคา 79 บาท) แก้วนี้รสชาติเปรี้ยวซ่า ทำเอากระปี้กระเปร่าสุด ๆ เอาใจคนรักสุขภาพกันหน่อยกับ “Apple Carrot Cold Pressed” (ราคา 75 บาท) น้ำผลไม้สกัดเย็น ที่อุดมไปด้วยวิตามินเต็ม ๆ! และหากใครอยากจิบชาร้อน ๆ แนะนำตัวนี้เลย “Earl Gray Tea” (ราคา 79 บาท) เอิร์ลเกรย์คุณภาพดี ที่มีกลิ่นหอมละมุนขึ้นจมุก ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเอามาก ๆ
เป็นการออกมาท้าสภาพอากาศที่คุ้มค่ามากวันหนึ่งเลย เพราะได้เจอกับร้านที่เป็นเหมือนกับแหล่งความร่มรื่น เอาไว้หย่อนใจสบาย ๆ และนั่งกินอาหารที่รสชาติดี นี่ถ้าได้มาช่วงเย็น ๆ เราก็ไม่อยากคิดเลยนะว่า มันจะดีต่อใจขนาดไหน เอาไปเป็นใครที่กำลังหาร้านอาหารเชียงใหม่ คาเฟ่เชียงใหม่ หรือร้านอาหารบรรยากาศดีเชียงไว้ ไว้ดินเนอร์ ร้าน “Gramber Cafe” เชียงใหม่ ก็เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ดีเอามาก ๆ เลย หากตามมาแล้ว แต่ยังไม่จุใจ เราก็ขอเปิดวาร์ปแหล่งรวมร้านอาหารเชียงใหม่อย่างเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกัน
การเดินทาง
- ร้านตั้งอยู่บริเวณสี่แยกหนองจ๊อม (ใช้เส้นทางรวมโชคพลาซ่า มุ่งหน้าไปทางแม่โจ้ ก่อนซึ่งแยกหนองจ๊อม ซ้ายมือจะมีซอยร้านปะยางเฮงเชียงใหม่ ให้เลี้ยวซ้ายขับเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ)
- เวลาเปิด - ปิด : เปิดเวลา 10.00 - 22.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
- เบอร์ติดต่อ : 086-616-1554