[รีวิว] “Hon Thonglor” ร้านโอมากาเสะพรีเมียม ส่งความฟินตรงจากญี่ปุ่น

#วงในบอกมา

• “Hon Thonglor” ร้านในเครือ Meruto Sushi เปิดใหม่ล่าสุดใจกลางทองหล่อ โดยยังคงไว้ซึ่งคอนเซปต์เดิม พร้อมเสิร์ฟวัตถุดิบพรีเมียมเท่านั้น
  
• ทางร้านมี 4 ราคา 3,900 บาท, 5,900 บาท 7,900 บาท และ 9,900 บาท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
  
• ทางร้านมี “Uni” ส่งตรงจากญี่ปุ่นคุณภาพดี พร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าได้กินกันตลอดปี 
  

หากนึกถึงร้านโอมากาเสะในประเทศไทย หลายคนคงจะต้องนึกถึงร้าน “Meruto Sushi” เป็นแน่ ด้วยวัตถุดิบ และฝีมือการรังสรรค์แต่ละคำของเชฟที่ตราตรึงใจต่อใครหลายคน โดยวันนี้ "Hon Thonglor" ภายใต้แบรนด์น้องใหม่ “Hon by Meruto” ได้มาเปิดบ้านหลังใหม่ใจกลางทองหล่อเลยค่ะ แบบนี้ขอไม่พลาดที่จะไปสัมผัสรสชาติ และความพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป โดยทางร้าน “Hon Thonglor” มี 4 ราคาให้เลือกด้วยกัน คือ คอร์ส Sawa ราคา 3,900 บาท Aki ราคา 5,900 บาท คอร์ส Koyo ราคา 7,900 บาท และคอร์ส The Pride 9,900 บาท และคอร์สพิเศษในแต่ละโอกาส ซึ่งหากจะมากินต้องโทรจองก่อนเท่านั้นนะคะ เนื่องจากทางร้านต้องใช้เวลานำเข้าวัตถุดิบต่าง ๆ จากญี่ปุ่น 2-3 วันเลยค่ะ 

สำหรับบ้านหลังที่ 2 ของร้าน “Hon by Meruto” ยังคงคอนเซปต์เดิมในการออกแบบคอร์สโอมากาเสะ คือการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล, เรียงตามรสชาติ จากรสชาติอ่อนไปหาเข้ม และไม่ใช้วัตถุดิบที่ซับซ้อนจนเกินไป เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย และมีการปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้นั่นเอง

สำหรับวันนี้แพรจะมาลิ้มลองความพรีเมียมของร้านอาหารญี่ปุ่น Omakase (โอมากาเสะ) ที่ คอร์ส Aki ในราคา 5,900 บาท ค่ะ โดยก่อนจะเปิดคำแรกเชฟจะเสิร์ฟด้วย Welcome Drink “Uji Ten-Cha RoyalBlueTea” ชาเขียวที่สกัดจากยอดใบชาสด ๆ จึงทำให้ชาเขียวแก้วนี้ค่อนข้างหอม อีกทั้งยังได้รสของชาเขียวที่ขมปลายเป็นเอกลักษณ์ จิบแล้วเพิ่มความอยากอาหารและรับรสชาติของอาหารได้ดีขึ้น เชฟแอบกระซิบมาด้วยล่ะค่ะว่าหากต้องการซื้อมาดื่มเองที่บ้าน ชาเขียวขวดนี้ ราคาไทยโดยประมาณ 10,000 บาทเชียวล่ะ!

ต่อกันด้วย Appetizer เพื่อเรียกน้ำย่อย “Junsai” ยอดอ่อนใบบัวญี่ปุ่น เสิร์ฟมาคู่กับพอนซึเจลลี รสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อย โดยเมนูนี้นอกจากจะรสชาติดีและเพิ่มความอยากอาหารแล้ว ยังมีคอลลาเจนสูงอีกต่างหาก สาว ๆ แบบแพรปลื้มมากเลยล่ะ คำต่อมาคนรักฟัวกราส์จะต้องชอบ “Ankimo” ตับปลามังก์ฟิช ซึ่งทางเชฟเล่าให้ฟังว่าจะคัดเลือกเฉพาะปลามังก์ฟิช ระดับน้ำลึก 800-900 เมตรเท่านั้น เพื่อคุณภาพที่ดี กินแล้วรสสัมผัสละมุนลิ้น แถมยังละลายในปากแบบฟิน ๆ

กินเมนูเรียกน้ำย่อยไปแล้ว มาเปิดคำแรกด้วย “Hyoko Oyster” เมนูหอย Oyster สด ๆ โดยเชฟเลือกเสิร์ฟเมนูนี้ก่อนเพื่อที่จะไล่ลำดับรสชาติที่เบาไปถึงหนัก โดยคำนี้เชฟได้ทำการแกะเอ็นออกให้เรียบร้อย กินคำแรกแล้วสดชื่นสุด ๆ พร้อมลุยคำต่อไปแล้วค่ะ

คำต่อมา “Taigagai” หอยกาบญี่ปุ่นไทระกังเสิร์ฟคู่สาหร่ายพิเศษเพื่อเพิ่มความหอม ความพิเศษของคำนี้คือการที่เชฟนำหอยมาย่างไม่เกิน 1 นาที โดยจะย่างเพื่อให้ตัวด้านนอกหดตัวเท่านั้น จึงทำให้คำนี้กรุบกรอบ กินแล้วเคี้ยวเพลิน

“Abura Kinmedai” ปลาชนิดนี้มีความมันที่แทรกเยอะกว่า Kinmedai ทั่วไป และมีความมันที่พอเหมาะ เนื้อหวาน บวกกับการ อะบุริ หนังของปลาจะได้กลิ่นที่หอมแบบลงตัว เป็นอีกคำที่แพรประทับใจมาก ๆ เลยล่ะ

“Kuruma Ebi” กุ้งนำเข้าจากคิวชู สามารถกินได้ทั้งแบบต้มและแบบดิบ เนื้อเด้งและหวานมาก กินแล้วสัมผัสได้เลยล่ะค่ะว่าแตกต่างจากกุ้งทั่วไปโดยสิ้นเชิง

"Sunma" ปลาลูกครึ่งระหว่างปลาเนื้อขาวกับปลาผิวเงิน จุดเด่นคือเนื้อเด้งและเฟิร์ม เนื่องจากปลาชนิดนี้เป็นปลาที่ว่ายน้ำเร็ว จึงได้รสชาติที่กรุบกรอบหวานมัน นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการเปลี่ยนสีข้าวโดยการใช้น้ำส้มสายชูสีแดง จึงทำให้ได้ข้าวสีน้ำตาลและรสชาติหวานเข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษ

“Akami Zuke” ส่วนต้นคอของ Bluefin Tuna มาจากท้องทะเลของญี่ปุ่น นำมาหมักกับซอส Zuke ไว้ตอนต้นคอร์ส ประมาณ 20 นาที เพื่อให้ซอสซึมเข้าสู่เนื้อปลาอย่างพอดี เนื้อนุ่มจนละลาย ซึ่งความหวานจากปลาที่ได้มาส่วนหนึ่งมาจากการที่เชฟนำมาบ่มเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เรียกได้ว่าเป็นปลาเนื้อแดงที่รสชาติมีเอกลักษณ์มากเลยล่ะค่ะ

ต่อกันกับ “Nodokuro” ปลาคอดำญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธุ์หายาก ราคาสูง อีกทั้งเป็นปลาที่มีมันมาก กินแล้วเรียกได้ว่าฟินสุด ๆ กับรสหวานธรรมชาติจากปลา และรสสัมผัสที่ละลายในปาก 

“Boton Ebi” โบตันเอบิ กุ้งหวานนำเข้าจากฮอกไกโด นอกจากจะได้รสชาติความหวานของกุ้งแล้วยังจะได้ความแปลกใหม่ โดยการที่เชฟเอาหัวกุ้งไปย่าง และนำมันมาผสมลงในข้าว มีการปัด ผิวยูซุด้วยเล็กน้อย จะได้ทั้งความหวาน มัน และความหอมแบบที่สุด

มากันที่ตัวคั่นรายการต่อไปกับ “Hand Roll” โดยคำนี้เชฟต้องการให้ตัดรสชาติเลี่ยน พร้อมเคลียร์รสชาติ ก่อนที่จะเข้าสู่รายการปลาเนื้อแดงต่อไป คำนี้ประกอบไปด้วย หัวไชเท้าซอย, เมียวกะ, บ๊วยดอง, วาซาบิ และมะนาว 

“Nama Hotate” หอยเชลล์แกะสดจากฝา จากเมืองฮอกไกโด ความพิเศษของเมนูนี้คือจะห่อด้วยสาหร่ายที่เคลือบด้วยหอยนางรม รสชาติของหอยเข้มข้น และหวานนุ่ม ยิ่งเคี้ยวเท่าไรความหวานยิ่งออกมามากขึ้นเท่านั้น! 

“Chutoro” ส่วนหลังของ Hon Maguro มีมันที่ไม่มากจนเกินไป เวลากินเชฟจะท็อปด้วยหอมบด และใบพริกเสฉวนบดละเอียดเพื่อดึงรสชาติของ Chutoro ให้ออกมามากยิ่งขึ้น “Otoro” นำเข้าจากนางาซากิ โดยเชฟจะเลือกใช้ส่วนชิโมะฟุริ ซึ่งจะเป็นส่วนที่มันไม่สูงมาก มีลายหินอ่อนสวย อีกทั้งมีเอ็นแทรกอยู่น้อยมาก และดันดาระ เป็นส่วนที่มันจะเพิ่มมากขึ้น เนื้อออกสีชมพูไปจนถึงขาว มีเอ็นแทรกอยู่เป็นชั้น ๆ แต่ด้วยการบ่มเป็นเวลา 1 สัปดาห์จะช่วยทำให้เอ็นนุ่ม ทันทีที่เข้าปากจะสัมผัสได้ถึงความละลายแบบไม่ต้องออกแรงเคี้ยวเลยล่ะ

“Shiro Ebi" คำนี้โดดเด่นที่กุ้งหวานตัวเล็กจากอ่าวโทยามะ ที่ชาวประมงหามาได้และจะนำมาแกะทีละตัว ซึ่งหากกินพร้อมกันหลาย ๆ ตัว ความหวานที่ได้รับ จะได้ความหวานที่พิเศษกว่ากุ้งชนิดอื่น ๆ ซึ่งบอกเลยว่ากินแล้วละมุนลิ้น และได้ความหวานจากกุ้งที่ลืมไม่ลงจริง ๆ

“Uni Ensui” อุนิสดแช่น้ำทะเลพาสเจอไรซ์ ใกล้เคียงแบบสดมากที่สุด ไม่มีการใส่สารใด ๆ ทั้งสิ้น โดยวิธีการกินคือยกกินทั้งช็อต ทันทีที่เราได้รับประทานจะได้รสสัมผัสของน้ำทะเลแบบเต็มที่ และความหวานละมุนละลายจะค่อย ๆ ตามมาแบบฟิน ๆ โดยคำนี้อยู่ในคอร์ส 7,900 บาท และ 9,900 บาท เท่านั้นค่ะ

ต่อมาเป็นคำที่แพรชื่นชอบมากเป็นพิเศษ “Murasaki Uni” อุนิพันธุ์หนามยาวจากฮอกไกโด โดยอุนิที่ทางร้านใช้จะเป็นแบรนด์ Hadate Uni ถือว่าเป็น Murasaki Uni ที่สุดของความเป็น Uni ซึ่งจะต้องประมูลกันที่ตลาดปลา Tsukiji เท่านั้นจึงจะได้มา จำนวนการผลิตต่อวันจะน้อยมาก ถือว่าเป็นอุนิตัวท็อปเลยก็ว่าได้ค่ะ รสสัมผัสและรสชาติจึงค่อนข้างดี กินแล้วละลายในปากเลยล่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากมาเปิดประสบการณ์การกิน Omakase (โอมากาเสะ) ที่ร้าน “Hon Thonglor” กันแล้วใช่ไหมละคะ หากใครสนใจสามารถมาลิ้มลองความละลายในปากแบบนี้ สามารถโทรจองได้ที่เบอร์ 098-245-9989 หรือ Line : @Honthonglor เลยค่า

การเดินทาง

ใครอยากมาสัมผัสความพรีเมียมของวัตถุดิบคุณภาพ และทุกคำละลายในปากแบบนี้สามารถมากันได้เลยค่ะที่ร้านโอมากาเสะ "Hon Thonglor" โดยร้านอาหารทองหล่อแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ทองหล่อ 10 สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ แล้วต่อมอเตอร์ไซต์รับจ้างประมาณ 8 นาทีได้เลยค่ะ :D