ความพีถีพิถันในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วคือสิ่งที่อิปปุโดะยึดมั่นมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 เริ่มขึ้นในเมืองที่โดดเด่นเรื่องซุปกระดูกหมู คือเมืองฮากาตะ ประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนถึงปัจจุบัน “IPPUDO” ได้ขยายสาขากว่า 40 สาขาทั่วโลกและอีก 80 สาขาในประเทศ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้คือ คุณชิกามิ คาวาฮารา ผู้ได้รับการขนานนามว่า ราเมงคิง
ซึ่งในเวทีการแข่งขันที่โด่งดังของญี่ปุ่นรายการ “TV Champion Ramen Chef” คุณชิกามิ คาวาฮารา ยังคว้าชัยชนะ 3 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 จนถึงปี ค.ศ.2000 จนได้รับเกียรติให้มีชื่ออยู่ใน “Ramen Hall of Fame”อีกด้วย
การตกแต่งร้านของ”อิปปุโดะ”มีสไตล์การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบโมเดิร์น ใส่รายละเอียดของความเป็นญี่ปุ่นอย่างมีชั้นเชิงในโทนที่แดง ดำและขาว ตัดกับสีเหลืองของไม้
จัดวางที่นั่งได้ลงตัว ทำให้ภายในดูกว้างขวาง อบอุ่น และหรูหรา ในบรรยากาศที่ขรึม สะท้อนถึงตำนานที่มีมาเก่าแก่และชัยชนะของราเมงได้อย่างแยบยล
รสชาติที่ “IPPUDO” ปรุงขึ้นในแต่ละเมนูนั้นไม่ได้หยุดอยู่ที่ความดั่งเดิม ยังคงพัฒนาเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพตลอดเวลา แต่ยังคงความเป็น IPPUDO
“IPPUDO” ได้ใส่ใจในรายละเอียดรสชาติของแต่ละประเทศ จึงคิดค้นพิเศษเพื่อให้รสชาติถูกใจคนไทย แต่ยังคงยึดมั่นวัฒนธรรมอย่างญี่ปุ่นไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทำให้ “IPPUDO” เป็นที่ชื่นชอบมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก
เริ่มเมนูแรกด้วย “IPPUDO Pork bun”(ราคา80บาท) หรือ “บาทานิคุ บัน” เมนูเบาๆ อันโด่งดังของร้าน “IPPUDO” ได้รับความนิยมมาแล้วทั่วโลกที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าราเมงเลย
โดยแป้งที่มีความนุ่มพิเศษ เพียงกัดเบาๆ ก็ทำให้เข้าถึงความหอมของซอสที่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว หมูเนื้อนุ่มสูตรพิเศษกลิ่นเย้ายวล ห่ออยู่ด้านในชุ่มด้วยซอส ความนุ่มของชิ้นเนื้อกลมกลืนกับตัวแป้งเป็นอย่างมาก เพิ่มความเพลิดเพลินด้วยผักสดๆ ทำให้มีความกรอบผักไปเติมเต็มบางส่วนของความนุ่มได้อย่างลงตัว รสชาติ เค็มกลมกล่อมและหวาน ปรุงได้อย่างพิถีพิถัน ทำให้เป็นเมนูที่ทานง่ายเป็นอย่างมาก
แต่สำหรับใครที่ไม่ทานหมู ทาง “IPPUDO”ยังมี “IPPUDO Shrimp Bun” (กุ้ง) และ“Grilled Chicken Bun” (ไก่)ที่สรรค์สร้างไว้คอยเอาใจ เพื่อไม่ให้พลาดความอร่อยของ Bun series อีกด้วย
ต่อด้วย “Bakuretsu Tofu”หรือ “เต้าหู้บาคุเระซึ” (ราคา150บาท) เต้าหู้จานร้อน ที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติแห่งความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ สีสรรสดสวยงาม หอมกรุ่นน่ารับประทาน ควรคลุกเคล้าเพื่อให้รสชาติผสมกลมกลืนกันก่อนทาน
รสชาติ หวานกลมกล่อมแบบธรรมชาติ เข้มข้นถึงซุปกระดูกหมู กลิ่นหอมพริกและหัวหอม แม้จะสีแดงสดแต่ไม่เผ็ดเลย ทำให้ทานง่าย เต้าหู้เนื้อนิ่มหอมกลิ่นเฉพาะของเต้าหู้ นอกจากนี้ยังใส่เส้นราเมงที่ตัดสั้นๆ ที่สามารถตัดทานได้ง่ายๆ เพิ่มรายละเอียดในการเคี้ยวไม่ให้นุ่มนิ่มจนเกินไป ยังมีหมูสับกับหัวหอมชิ้นเล็กๆ เคี้ยวเพลิน แต่ที่พิเศษอีกอย่างของ“เต้าหู้บาคุเระซึ” คือ ความอุ่นในถ้วยคงอยู่นานตลอดการทาน รสชาติจึงมีความสม่ำเสมอตลอด ทำให้ความอร่อยอยู่ในทุกๆ ช้อนที่ตักทาน
ตามมาติดๆ ด้วยเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุดของ“IPPUDO” คือ
“Shiromaru Motoaji”(ราคา200บาท) คือทงคัตสึราเมงที่ “IPPUDO” ภูมิใจนำเสนอ รสชาติน้ำซุปกระดูกหมูแบบดั้งเดิมของ “IPPUDO” ที่ผ่านการเคี่ยวนานกว่า 15 ชั่วโมงเพื่อจะให้ได้น้ำซุปกลมกล่อม เส้นบะหมี่ที่ทำขึ้นเองเส้นเล็กกลม สามารถเลือกระดับความนุ่มได้ถึง 4 ระดับ สั่งเพิ่มเส้นหรือทอปปิ้งได้
รสชาติ เข้มข้นของซุปกระดูกหมูนุ่มนวล เค็มกลมกล่อม มีความข้นของครีมในซุปให้หนักแน่น บะหมี่ในระดับ 3 ตัวเส้นดูแวววาว ไม่ได้เป็นความแข็งแต่จะเป็นความกรอบเมื่อเคี้ยว มีความนุ่มดูดซับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี ยังมีถั่งงอกที่มีความความเพิ่มความกรอบในการเคี้ยว หมูชิ้นหนานุ่มกับเห็ดคิคุราเกะ เพิ่มรสชาติอย่างลงตัว เป็นความเรียบง่ายบนความหนักแน่นที่ “IPPUDO” ส่งผ่านราเมงชามนี้
ปิดท้ายกันด้วย การผสานความชุ่มช่ำกับ “Summer Punch” (ราคา95บาท) ความเปรี้ยวของลิ้นจี่และความหวานของทับทิม เปรี้ยวๆ หวานๆ อย่างธรรมชาติ หอมกลิ่นลิ้นจี่ สดชื่น คลายร้อนและแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสภาวะอากาศเมืองไทย ทำให้ “Summer Punch” เป็นเมนูที่มาร้าน “IPPUDO” แล้วไม่ควรพลาดอีกเมนูหนึ่ง
อีกหนึ่งความใส่ใจที่ ”IPPUDO” เข้มงวดในเรื่องอาหารคือเรื่องคุณภาพ จึงไม่มีบริการสั่งอาหารกลับ
ทุกรายละเอียด ความใส่ใจในบริการและคุณภาพอันเยี่ยมยอดในรสชาติชองอาหาร “IPPUDO” จะเป็นประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานราเมงอย่างแน่นอน
