#วงในบอกมา
- "Kay's Boutique Cafe" ร้านอาหารเช้าสไตล์คาเฟ่สีขาวสุดชิกใจกลางเมืองกรุงฯ ยกทัพอาหารเช้าสุดฟิน และเครื่องดื่มมากมายไว้ให้นักชิมได้ไปลุยกินให้ฟินกระเพาะ
- เคยทดลองเปิดร้านที่นิวยอร์ก ได้กระแสตอบรับดีจนกลับมาเปิดสาขาใหม่ที่ไทย พร้อมกับเมนูโทสต์สุดฮิตจากนิวยอร์ก
- มาแล้วต้องลอง “Royal French Toast” เฟรนช์โทสต์สูตรโฮมเมด กรอบ หอม หนา นุ่ม เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมไข่แข็งหวาน มัน เข้ากันสุด ๆ

ร้านอาหารเช้าสัญชาติไทยในตำนานที่ใครหลาย ๆ คนหลงรัก และติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอดอย่างร้าน “Kay's Boutique Cafe” ตอนนี้เปิดสาขาใหม่แล้ว ขยับเข้ามาใจกลางกรุงเทพฯ มากกว่าเดิม เพราะสาขาใหม่นี้ตั้งอยู่ที่ Central Embassy ชั้น 6 แถมยังมีเมนูใหม่ ๆ ที่มีแค่เฉพาะในสาขานี้ไว้ให้นักชิมได้ลองกันอีกด้วย

คุณปวิตรา กอบกุลสุวรรณ (คุณเพลน) เจ้าของร้านบอกว่าร้าน “Kay's Boutique Cafe” เริ่มต้นมาจากความชอบในการอบขนมและทำอาหารเช้าให้คนในบ้านกิน ซึ่งอาหารที่ทุกคนชอบที่สุดก็คือ “โทสต์” นั่นเอง เมื่อครอบครัวเปิดโรงแรม K Maison Boutique Hotel ที่ซอยรางน้ำ คุณเพลนจึงนำเหล่าเมนูอาหารเช้ามาให้บริการในโรงแรมด้วย ส่วนสาขาใหม่ที่ Central Embassy แห่งนี้จะมีความเป็นคาเฟ่มากขึ้น บรรยากาศร้าน “Kay's Boutique Cafe” สาขานี้จึงดูชิกสุด ๆ เน้นการตกแต่งเป็นสีขาวและลายหินอ่อน จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แถมยังมีมุมที่นั่งติดหน้าต่างให้ได้กินอาหารและจิบเครื่องดื่มไปพร้อม ๆ กับดูวิวกรุงเทพฯ อีกด้วย

ได้กลิ่นโทสต์หอม ๆ อยู่ไม่นานก็มีพนักงานยกเมนูแรกมาเสิร์ฟ “Royal French Toast Sandwich” (230 บาท) โทสต์ร้อน ๆ แป้งกรอบ หนา นุ่มอย่าบอกใคร เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมไข่แข็งรสหวาน มัน กินด้วยกันแล้วลงตัวสุด ๆ คุณเพลนบอกว่าตอนที่ไปทดลองเปิดร้านที่นิวยอร์ก เมนูนี้ใช้ไอศกรีมชาไทยและได้รับความนิยมสูงมาก ๆ จนทำให้เป็นที่บอกต่อกันไปอย่างแพร่หลาย เมื่อกลับมาไทยเลยยิ่งมั่นใจว่าเมนูนี้นี่แหละ ที่จะเป็นตัวเอก

ไม่ทันไรเมนูที่สองก็ยกตามกันมาติด ๆ นั่นคือเมนูอาหารเช้าที่มีชื่อว่า “Corn Flatbread (150 บาท) นั่นเอง นี่คือเมนูอาหารเช้าที่ค่อนข้างอยู่ท้อง เหมาะกับการเริ่มต้นวันใหม่มาก ๆ คุณเพลนเล่าให้ฟังว่าเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนิวยอร์ก เพราะทุกอย่างที่นั่นเร่งรีบไปหมด จะมีข้าวโพดที่กินง่ายและอยู่ท้อง เลยนำมาพัฒนาเป็นอาหารเช้าจานนี้ นอกจากข้าวโพดและขนมปังกรอบ ๆ แล้ว ยังเพิ่มความพิเศษด้วยเห็ดทรัฟเฟิล ทำให้จานนี้ยิ่งหอมน่ากินไปอีก


อีกจานที่ถ้ามา “Kay's Boutique Cafe” แล้วต้องลองก็คือ “Vodka Salmon” (250 บาท) สปาเกตตีสีสันสดใส มีเนื้อปลาแซลมอนชิ้นใหญ่กำลังดีวางอยู่ด้านบน จานนี้คุณเพลนได้แรงบันดาลใจมาจากการกินพิซซ่าหน้าแซลมอนวอดก้าที่นิวยอร์กแล้วพบว่าวอดก้านี่แหละ ที่เป็นตัวช่วยในการชูรสของซอสมะเขือเทศให้เด่นขึ้น จึงนำมาทำเป็นสปาเกตตีสูตรเด็ดให้ทุกคนได้ลองกัน ในเรื่องของรสชาติบอกเลยว่าเลิศมาก ทุกอย่างลงตัวไปหมด เนื้อปลาแซลมอนก็สุกกำลังดี เส้นสปาเกตีไม่เละจนเกินไป อยากจะสั่งเพิ่มอีกสักจานเลยทีเดียว!

ต่อกันที่อาหารคาวหน้าตาแปลกใหม่ แต่รสชาติเลิศอย่าง “Prince of Benny”(250 บาท) ที่ประกอบไปด้วยแป้งบัน, เนื้อเทริยากิ และท็อปด้วย Egg Benedict เจาะไข่เยิ้ม ๆ แล้วกินเข้าไปพร้อม ๆ กัน บอกเลยว่าฟินสุด ๆ เนื้อนุ่ม หวานซอสเทริยากิ ใครที่ชอบกินเทริยากิและ Egg Benedict จะต้องหลงรักจานนี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญเมนูนี้มีเสิร์ฟแค่ที่ “Kay's Boutique Cafe” สาขานี้เท่านั้นด้วยนะ


เอาใจคนรักทรัฟเฟิลและช็อกโกแลตกันรัว ๆ ด้วยเมนูที่หากินที่ไนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ที่ “Kay's Boutique Cafe” อย่างเมนูเครื่องดื่มแก้วนี้ “Bomb Bassy” (165 บาท) เมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้น และมีส่วมผสมของน้ำมันทรัฟเฟิลหอม ๆ ด้านล่างของแก้วเป็นพุดดิ้งนมสดรสนุ่ม ได้ลองแล้วบอกเลยว่ารสชาติเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ

เมนูสุดท้ายของวันนี้คือเครื่องดื่มชื่อเท่อย่าง “The Hulk” (165 บาท) ที่มีขายตั้งแต่เปิดร้าน “Kay's Boutique Cafe” สาขารางน้ำ เมื่อมาเปิดสาขาที่ Central Embassy จึงได้นำเมนูนี้มาที่สาขานี้ด้วย คุณเพลนอธิบายว่าความลงตัวของแก้วนี้อยู่ที่ความหอมและรสชาติของมัทฉะที่ช่วยตัดความหวานของช็อกโกแลตได้ดี ได้ลองดื่มแล้วต้องบอกเลยว่ามัทฉะหอมมาก ๆ ช็อกโกแลตก็เข้มข้นจริง ๆ อาจจะเป็นแก้วโปรดของใครหลายคนได้ไม่ยาก


สำหรับใครที่อยากมานั่งกินโทสต์สูตรโฮมเมดรสเด็ด อาหารเช้าเลิศ ๆ และเครื่องดื่มหลากหลายแบบนี้ก็สามารถมาที่ร้าน “Kay's Boutique Cafe” สาขา Central Embassy แห่งนี้ได้ โดยที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น.
การเดินทาง
BTS ลงสถานีเพลินจิต เดินเข้าห้าง Central Embassy ชั้น 6 ร้าน “Kay's Boutique Cafe” จะอยู่ติดกับส่วน สามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวได้ภายในที่จอดรถของห้าง Central Embassy ได้เลย