#วงในบอกมา
- เปิดบริการมาแล้วกว่า 8 ปี เอาใจลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติเพราะสามารถเลือกความเผ็ดของแต่ละเมนูได้
- ทางเจ้าของร้านเป็นคนออกแบบเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านไปจนถึงการรังสรรค์เมนูอาหารแต่ละชนิด
- ทางร้านใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแกงนานาชนิดซึ่งทางร้านโขลกเองกับมือ ไปจนถึงพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

สำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น ซอยธนิยะเป็นอีกหนึ่งย่านสำคัญที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแกงกะหรี่ ราเมง ปิ้งย่าง ไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นระดับ High-end ทุกๆร้านล้วนอัดแน่นไปด้วยคนญี่ปุ่น ทั้งช่วงพักกลางวันและช่วงเลิกงาน นี่เป็นตัวบ่งชี้ว่าทุก ๆ ร้านล้วนมีคุณภาพ เพราะสามารถดึงดูด และทำให้ลูกค้าเหล่านี้สามารถรำลึกถึงรสชาติแห่งบ้านเกิดได้เป็นอย่างดี
แต่พวกเราทีมงาน Wongnai จะขอแหกโค้งนิดหน่อย เพราะวันนี้พวกเราจะมาลิ้มรสเมนูรสแซ่บที่ “ข้าวหอม” ร้านอาหารไทยฟิวชัน ซึ่งเปิดบริการมาแล้วกว่า 8 ปี
การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ไทยร่วมสมัยซึ่งมีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียอาคเนย์ค่อนข้างสูง ถึงแม้ตัวร้านจะไม่ใหญ่มากแต่ด้วยความที่ทางร้านใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ทุก ๆ โต๊ะล้วนมีพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า แสงไฟสลัว ๆ ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกและอบอุ่น เหมาะกับทั้งการออกเดตหรือดินเนอร์กับญาติมิตรที่สนิทใจ


เคลิ้มไปกับบรรยากาศโดยรวมแล้ว กระเพาะของทีมงานก็เริ่มคำรามเบา ๆ ประเดิมกันด้วย Appetizer อย่าง “ปีกไก่ทอดตะไคร้” (150 บาท) ปีกไก่สูตรพิเศษหมักด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทางร้านกว่า 12 ชั่วโมง นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนได้ที่ ตามด้วยตะไคร้ซอยละเอียดเพื่อกลิ่นหอมสดชื่น กินคู่กับซอสแจ่วสูตรเฉพาะของ “ข้าวหอม” ยิ่งได้อรรถรส


สำหรับใครที่ชื่นชอบซีฟู้ด “กุ้งกระเบื้องทะเล” (150 บาท) กุ้ง และปลาหมึกสับรวมกันในความละเอียดที่เหมาะสม ปรุงรสด้วยรากผักชี ซอสถั่วเหลือง และกระเทียมแบบเรียบง่าย ทาบนแป้งเปาะเปี๊ยะก่อนนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ เป็นเมนูที่รับประทานได้ง่ายแต่อัดแน่นไปด้วยรสสัมผัสที่น่าสนใจมาก ๆ


กินของเรียกน้ำย่อยกรุบกรอบจนมันปากมันคอกันแล้ว ก็มาต่อกันด้วย “ต้มข่าปลาแซลมอน” (280 บาท) ซุปต้มข่านัว ๆ และสมุนไพรหลากชนิดเข้ากันได้ดีมาก ๆ กับปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ชิ้นหนา ๆ และยอดมะพร้าวอ่อนกรุบ ๆ เป็นการฟิวชันระหว่างอาหารภาคกลางและวัตถุดิบยุโรปได้อย่างลงตัวสุด ๆ


ถึงวินาทีนี้ กระเพาะของทีมงานก็เครื่องร้อนได้ที่แล้วครับ ต่อกันด้วยเมนูไฮไลต์อย่าง “ฉู่ฉี่กุ้ง” (490 บาท) กุ้งแม่น้ำคัดพิเศษเจี๋ยนในน้ำมันจนเกือบสุก นำไปผัดคลุกเคล้ากับเครื่องแกงฉูฉี่ที่ทางร้านโขลกเองกับมือจนสุกได้ที่ เป็นเมนูที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติ Aroma และความสดใหม่ กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งได้อรรถรส


“กุ้งเผา” (ตัวละ 220 บาท) ก็เด็ดดวงใช่ย่อย เพราะทางร้านใช้กุ้งแม่น้ำแบบเดียวกับ “ฉู่ฉี่กุ้ง” นำมาย่างบนเตากริลล์จนสุกได้ที่ เนื้อกุ้งและมันเยิ้ม ๆ เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพิเศษที่ทางร้านทำเอง สั่งแค่ตัวสองตัวยังไงก็ไม่พอ


และยังมี “เนื้อย่างจิ้มแจ่ว” (350 บาท) สันในเนื้อโคขุนหมักเครื่องเทศสูตรลับ ย่างบนเตากริลล์จนได้ความสุกที่เหมาะสม กินคู่กับซอสแจ่วสูตรเฉพาะของ “ข้าวหอม” เพื่อความฟินแบบแซ่บ ๆ นัว ๆ


สำหรับใครที่พาเพื่อนชาวต่างชาติที่อาจไม่สันทัดกับความเผ็ดร้อนไม่ต้องเป็นกังวล เพราะทางร้านเอาใจลูกค้าทุก ๆ คนเพราะสามารถเลือกความเผ็ดของแต่ละเมนูได้
ปิดท้ายด้วย เมนูของหวานยอดฮิตตลอดกาล อย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วง” (180 บาท) มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สุกงอมหวานมันอมเปรี้ยวนิด ๆ เข้ากับข้าวเหนียวมูนหอมหวานได้ราวกับปี่และขลุ่ย

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นมื้ออาหารไทยในย่านอาหารญี่ปุ่นที่ฟินมากๆ เพราะเมนูแต่ละอย่างมีรสชาติที่แซ่บ เข้มข้นตามอัตลักษณ์ของอาหารไทย ราคาถือว่าไม่แพงถ้าเทียบกับร้านอื่น ๆ บวกกับบรรยากาศโรแมนติกและพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า “ข้าวหอม” เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารไทยสีลม ที่คู่ควรแก่การลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
การเดินทาง
สำหรับใครที่หาร้านอาหารไทยฟิวชันหรือร้านอาหารสีลมที่มีเอกลักษณ์แต่ยังคงซึ่งอัตลักษณ์ของอาหารไทยเอาไว้ร้าน “ข้าวหอม” ตั้งอยู่ในซอยที่มี Family Mart อยู่ข้างหน้าซึ่งอยู่ประมาณ 300 เมตรจากปากซอยธนิยะ เลี้ยวขวาแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นลิฟต์มาบนชั้น 2