#วงในบอกมา
- ร้าน “Kinlenn Eatery & Play” สาขาที่สองของกรุงเทพฯ เป็นเครื่องยืนยันกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า การันตีความฮอตฮิตที่ทุกคนต้องเช็กอิน
- ใครที่เป็นแฟนประจำร้านนี้อยู่แล้ว วินาทีนี้ห้ามพลาด เพราะสาขานี้เปิดตัวมาพร้อมกับสารพัดเมนูใหม่ ๆ ที่คุณ ๆ จะต้องติดใจ
- มาแล้วต้องสั่ง “ยำแซ่บหมูยอไข่เค็ม” และ “แกงปูใบชะพลู” จัดจ้านครบรสด้วยวัตถุดิบที่คัดสรร!
ทำเลดีไม่มีเปลี่ยน ขึ้นชื่อว่า “Kinlenn Eatery & Play” ใคร ๆ ก็เดินทางมาสะดวก เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อแว่วมาว่าสาขาใหม่เพิ่งเบิกฤกษ์ไปไม่นาน ทางเราก็ไม่รอช้า รีบยกสายหาชาวแก๊งพร้อมควบม้าไวตรงดิ่งเข้าร้านทันที ก้าวเท้าลงจาก BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4 เดินลงมาอีกนิดแล้วเลี้ยวเข้าซอยร่วมฤดี ตรงต่ออีกราว 400-500 เมตร ก็เจอะเจอเข้ากับร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น มองทะลุผ่านกระจกใสที่ดูโปร่งตาเข้าไปด้านใน เห็นคนนั่งกันหนาแน่นสม่ำเสมอ
สำหรับ “Kinlenn Eatery & Play” สาขานี้ ยังคงคอนเซปต์ “กิน-เล่น” เอาไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นร้านอาหารไทยที่ตกแต่งให้ดูโมเดิร์น โปร่งโล่ง น่านั่ง และเรียบหรู ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป บอกเลยว่าจุดแชะ-จุดเช็กอิน เพียบ! การตกแต่งของร้านดูสนุกสนานและเพลินตา ตั้งแต่ลวดลายบนพื้นที่ปรากฏทั้งเส้นตรงสีขาวดำตัดกัน ทั้งปูนขัดเรียบดูดิบ ๆ ทั้งลายหินชิ้นเล็ก รวมไปจนถึงการจัดวางต้นไม้ประดับ โคมไฟแขวน และโต๊ะเก้าอี้ต่าง ๆ ภายในร้าน
เป็นเวลาราว ๆ เที่ยงกว่า ค่อนไปทางบ่ายโมง ลูกค้ายังแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ส่วนอาหารก็ทยอยออกมาเรียกน้ำลายไม่ขาดตอน เริ่มกันที่ “ยำแซ่บหมูยอไข่เค็ม” (290 บาท) ถึงจะเข้าปี 2020 กระแสความนิยมของยำแซ่บและปลาร้ายังไม่หมดไป แน่นอนว่า “Kinlenn Eatery & Play” ก็ไม่พลาดเช่นกัน หยิบยกเมนูยำสุดซี้ดที่คอปลาร้าต้องกดไลก์มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ มีให้เลือกทั้งปลาแซลมอน ปูดอง กุ้งทะเล และหมูยอ มาคราวนี้ หมูยอไข่เค็มพูนจานมาแบบจุก ๆ รสชาติออกเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบเครื่อง แถมกลิ่นปลาร้าที่เคี่ยวจนหอมหวนก็ชวนเคลิ้มเสียจริง
ต่อกันที่จานหลักพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ อย่าง “แกงปูใบชะพลู” (690 บาท) เมนูที่เคยอยู่ในสำรับเมื่อแรกเริ่มเปิดร้าน ทว่าต้านทานกระแสเรียกร้องไม่ไหว ต้องออกมาเป็นจานหลักปริมาณแน่นแบบที่เห็นอยู่นี้ สำหรับชามนี้ เครื่องพริกแกงนั้นหอมฉุย แถมเผ็ดร้อนสมกับเป็นแกงใต้ของแท้ ยิ่งเจอใบชะพลูอ่อน ๆ และเนื้อปูก้อนแบบสะใจ ยิ่งพาฟินแบบหยุดตักไม่ได้เชียวล่ะ
เบรกความเผ็ดกันสักนิดด้วย “ปลากะพงทอดน้ำปลา” (525 บาท) เสิร์ฟมาบนถาดสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ยักษ์ ปลากะพงของที่นี่ตัวขนาดเท่าหลายฝ่ามือ ทอดจนเหลืองกรอบน่ากิน เคียงมากับซอสน้ำปลาที่เหนียวข้นกำลังดี และยำมะม่วงโรยกุ้งแห้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และมะเขือเทศ สีสันจัดจ้านดูเข้ากันเป็นที่สุด ตักเนื้อปลากะพงทอดกรอบมาหนึ่งคำ ราดซอสน้ำปลาฉ่ำ ๆ โปะด้านบนด้วยยำมะม่วงรสแซ่บ แล้วยัดเข้าปากคำโต หยุดไม่อยู่แล้วจ้า~
มาร้านอาหารไทยทั้งที ก็ต้องสั่งเมนูนี้กันหน่อย “กะเพราปลาหมึก” (285 บาท) ความจริงแล้วใครสันทัดหมูสับ เนื้อสตริปลอยน์สับ หรือกุ้งตัวยักษ์ ทางร้านก็จัดให้ได้ตามชอบ ส่วนวันนี้ลองสั่งปลาหมึกเนื้อขาวเนียน แถมเด้งกรอบได้ใจ กลิ่นกะเพรานั้นหอมโชยมาตั้งแต่ยังไม่ถึงโต๊ะ แถมได้รสเค็มนำ เผ็ดตาม และหวานนิด ๆ รั้งท้ายอย่างลงตัว และอีกเช่นเคย กินโปะข้าวสวยร้อน ๆ ตรงหน้านี้ ดีงามเกินห้ามใจมาก ๆ
ว่าแล้วก็ขอเมนูซุป ๆ สักชามเพื่อความคล่องคอสักหน่อย “ต้มยำปลากะพงน้ำใส” (350 บาท) สาว ๆ ที่กลัวอ้วนและรักการกินรสแซ่บรสจัด ชามนี้คงกดเลิฟอีกเป็นแน่ ทางร้านใช้ปลากะพงเกรดดี พร้อมเห็ดชิ้นเบิ้ม มาในน้ำต้มยำแบบใสที่การันตีความเผ็ดกลมกล่อม ยิ่งซดร้อน ๆ ยิ่งแซ่บซี้ดได้ใจ คุณภาพคับชามในราคาสมน้ำสมเนื้อ ไม่สั่งไม่ได้แล้วปะ?
นอกจากนี้ “Kinlenn Eatery & Play” ยังคงเอาใจคนรักการกินมังฯ เป็นชีวิตจิตใจอยู่เช่นเคย กับเมนู “ข้าวผัดเต้าหู้ทอดซอสมะขาม” (175 บาท) เมนูทางเลือกของคนไม่กินเนื้อสัตว์ อัดแน่นด้วยผักหั่นเต๋านานาชนิด ถั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และไฮไลต์ที่ภูมิใจนำเสนออย่างเต้าหูทอดซอสมะขาม เต้าหู้ที่ร้านทอดจนกรอบนอก แต่ด้านในยังนุ่มนิ่ม ยิ่งราดซอสมะขามลงไปตบท้าย ยิ่งเพอร์เฟกต์สุด ๆ ไปเลย นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเมนูเจ ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยเต้าหู้ทอด, แกงเขียวหวานเต้าหู้ทอด, ต้มยำเห็ด บอกเลยว่าฟิน!
ส่วนใครที่ยังคิดถึงเมนูเซตสุดคุ้ม ทางร้านก็ยังมีจับชุดเข้าเซตให้เหมือนเดิม ทว่าตัวเลือกมากขึ้นถึง 4 ชุด ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น “Set 1” (999 บาท) ยำส้มโอกุ้ง, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ใบเหลียงผัดไข่, แกงไตปลา หรือจะเป็น “Set 2” (999 บาท) ยำแอปเปิลเขียวปลานิลฟู, ปลากะพงทอด 3 รส, ผัดผักรวมมิตร, พะโล้ขาหมูไข่ต้ม หรือจะเป็น “Set 3” (799 บาท) กับหลนหมูคุโรบุตะ ปลานิลฟู, ปลากะพงผัดคื่นช่าย, ไข่เจียวกุ้งสับ, ต้มจืดเต้าหู้สาหร่ายหมูสับ และท้ายสุดกับ “Set 4” (1,199 บาท) ชุดน้ำพริกลงเรือ, ปีกไก่ทอดใบเตย, กุ้งแม่น้ำซอสมะขาม, ต้มยำปลากะพงน้ำใส ซึ่งทุกเซตล้วนมีข้าว 1 โถ ให้ทั้งสิ้น คุ้มค่าจุใจแน่นอน!
เอาเป็นว่าใครที่ชื่นชอบอาหารไทยเป็นทุนเดิม ประจวบกับกำลังมองหาสถานที่ชิล ๆ สำหรับนั่งกิน-นั่งเล่น ไม่ไกลจาก BTS แล้วล่ะก็ ขอให้นึกถึง “Kinlenn Eatery & Play” แห่งนี้ เพราะการันตีเลยว่าต้องตอบโจทย์เพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อย นอกจากจะกินสนุก ยังได้ภาพสวย ๆ และจุดเช็กอินเก๋ ๆ อีกด้วย ว่าแล้วก็แวะเวียนกันมานะสาวก Wongnai ทั้งหลาย~
การเดินทาง
“Kinlenn Eatery & Play” ร้านอาหารฟิวชั่น ร้านอาหารย่านเพลินจิต ตั้งอยู่ใกล้ BTS เพลินจิต ทางออก 4 เดินลงมาแล้วเลี้ยวเข้าซอยร่วมฤดี และตรงต่ออีกราว 400-500 เมตร ก็จะเจอเข้ากับร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้