หนึ่งในใต้หล้าก็มีข้านี่แหละที่เป็นทาสชานมไข่มุกฮ่า ๆ~ จากที่ซุ่มฟิตร่างกายเพื่อให้น้ำหนักกลับมาสู่ภาวะปกติ ขอให้รางวัลตัวเองสักมื้อกับร้านชานมไข่มุกเชียงใหม่ที่ถูกกล่าวขานกันมาว่า นี่คือร้านชานมไข่มุกเชียงใหม่เจ้าแรก ๆ เลย นั่นก็คือร้าน “Light Up Cafe” เชียงใหม่ แต่ครั้งนี้ร้านปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยมีมุมเก๋ ๆ สุดมินิมอลเอาใจขาคาเฟ่ฮอปเปอร์ให้ได้แชะรูปกันเพลิน

ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ตัวเราผู้ซึ่งมักจะขับรถผ่านร้านอยู่บ่อย ๆ เห็นแว้บแรกถึงกับสะดุดตา เพราะนี่มันเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงร้านยกใหญ่เลย กลายเป็นร้านดูมีความมินิมอลน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น สีขาวของผนังร้านและสีเขียวขจีของต้นกระบองเพชรทำให้ร้านมีดูความน่าหลงใหล จนใจเราอยากจะไปนั่งถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นแล้ว


อะถึงคราวให้รางวัลเจ้ากระเพาะน้อย ๆ แล้ว อ้อ! ลืมอัปเดตเพื่อน ๆ ไปอีกอย่างเลยว่า ที่ร้านไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องดื่มอย่างเดียวนะ แต่ยังมีอาหารเพิ่มเติมมาด้วย! อะ...เริ่มเมนูแรกไปพร้อมกับเราเลยละกันเราคัดมาเน้น ๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนตามมาแล้วฟินแบบเรา
เปิดต่อมรับรสด้วย “ไต้หวันโทสต์” (40 บาท) ขนมปังแผ่นยักษ์ทาเนยสูตรพิเศษของร้านที่ทางทำร้านทำเอง ทาแบบแน่นหน้าแผ่นขนมปัง จากนั้นนำไปอบจนให้ผิวสัมผัสของเนียนที่ด้านนอกกรอบนิด ๆ แต่ด้านในคงความฉ่ำแบบจัดเต็ม ซึ่งเมื่อกินเข้ากับแผ่นขนมปังนั้นแล้วจะมีความกรอบและความนุ่มหนึบพร้อมทั้งได้รสชาติที่ทำให้คุณต้องว้าว “ขนมปังเนยหนึบ” (55 บาท) เมนูที่ขายดีอันดับหนึ่งของร้านนกับขนมปังเนยหนึบ ไฮไลต์จะอยู่ที่ความหนึบของครีมด้านหน้า ซึ่งมาพร้อบของความกรอบอันเอกลักษณ์ ยิ่งกินยิ่งหยุดไม่อยู่ โดยจะมีไส้มีเลือกถึง 4 ตัว ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว มันม่วง ปังกระเทียม เนยซิกเนเจอร์


เอาล่ะ! มาถึงสิ่งที่ทาสรักชามุกอย่างเราใฝ่ฝัน กับเมนู “ชานมไข่มุกไต้หวัน” (60 บาท) ร้านใช้ใบชาที่สั่งเป็นสเปคพิเศษ สกัดชาจนได้ความหอมเด่นของใบชาไม่เหมือนใคร เราจะได้กลิ่นอายของความเป็นไต้หวันอย่างแท้ทรู เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่มุกสัมผัสนุ่มหนึบเสริมกลิ่นด้วยการอบกับวัตถุดิบลับก่อนเสิร์ฟ “ชานมไข่มุกบราวน์ชูการ์” (85 บาท) ซอสบราวน์ชูการ์ที่มีรสชาติหวานกำลังดี และความหอมของน้ำตาลบราวน์ชูการ์ที่ชวนให้สายหวานต้องละลาย เสิร์ฟมาคู่กับนมสูตรเด็ดของร้านพิเศษที่มีรสชาติความนัวของนมละมุนละไม


และตามมาด้วยเมนูไฮไลต์ 2 เมนูกับ “มัทฉะครีมชีส” (90 บาท) ครีมชีสที่ปั่นขึ้นเองเนื้อสัมผัสจะนุ่มเบานวลลิ้น รสชาติออกเค็มมันกลมกล่อมซึ่งกลิ่นของครีมชีสเมื่อดื่มเข้าไปมันจะหอมเตะจมูก เสิร์ฟจับคู่กับมัทฉะที่เข้มข้นไม่เฝื่อน และเมนู “โกโก้มิลก์เชก” (60 บาท) เมนูมิลก์เชกที่เสิร์ฟมากับโกโก้สุดเข้มข้น ซึ่งความสนุกของเมนูจะอยู่ที่การที่ให้เราได้เขย่าแก้วเอง เพื่อให้รสชาติของนมและซอสต่าง ๆ ผสานเข้าด้วยกัน โดยวันนี้เราลองเป็นโกโก้ ซึ่งมันเข้มข้นเอามาก ๆ ดื่มเข้าไปจะมีรสชาติหวานละมุนและปิดท้ายด้วยความขมเล็ก ๆ ของโกโก้เรียกได้ว่าเอาใจของเราไปเต็ม ๆ


สำหรับคอกาแฟก็ต้องลองเลยกับเมนู “อเมริกาโนส้ม” ( บาท) เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนรสเปรี้ยวผลไม้ผสานรสชาติเข้ากับน้ำส้ม ซึ่งร้านจะดองผลส้มเข้ากับกับน้ำผึ้งโดยความหวานจะมาจากน้ำส้มที่ดองเท่านั้น ไม่มีการเติมน้ำตาล ส่วนใครที่ชอบกาแฟนมนุ่ม ๆ ก็ต้องยกให้เมนูนี้เลย “Dirty” ( บาท) เมล็ดกาแฟที่สกัดช็อตได้รสชาติที่ดี เสิร์ฟคู่กับนมสูตรเฉพาะของร้าน ความหอมหวานหอมนวลต้องขอยกนิ้วให้เลย คนไม่ดื่มกาแฟก็สามารถดื่มได้ชิล ๆ รสชาติไม่แรงมาก ซึ่งเมนูกาแฟของทางร้าน “Light Up Cafe” เชียงใหม่ เริ่มต้นที่ 30 บาทเท่านั้น สายไหนชอบดื่มอะไรตามไปลองได้เลย


นอกจากเมนูเครื่องดื่มและขนมไปแล้วร้านก็ยังมีจานหลักอย่าง “มาม่าเกาหลีชีส” ( บาท) เมนูที่เกิดจากความชอบโดยส่วนตัวของคุณโบว์เจ้าของร้าน “Light Up Cafe” เชียงใหม่ นำมาพัฒนาปรับปรุงซอสให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เริ่มที่ตัวเส้นจะลวกด้วยความสุกที่พอดี มีความเหนียวนุ่มกำลังดี นำมาคลุกเคล้าเข้ากับซอสลับจากทางร้านที่มีรสชาติเค็มหวานกลมกล่อม และมีความเผ็ดที่ตามมา ปิดท้ายด้วยกลิ่นของซอสเกาหลีที่หอมเด่นเตะจมูก เสริมความนัวด้วยชีสที่วางโปะอยู่ด้านบน ซึ่งจานนี้สามารถเลือกท็อปปิงได้มีทั้งเบคอนและไส้กรอก ใครชอบแบบไหนสไตล์ไหนก็จัดเลย!

ส่วนหากใครตื่นเช้าแล้วมองหาร้านอาหารเช้าดี ๆ ก็แวะมาที่ “Light Up Cafe” เชียงใหม่ได้เหมือนกันนะ ที่ร้านก็เมนูอาหารเช้าอย่าง “ไข่กระทะ” (65 บาท) ไข่กระทะที่เสิร์ฟในกระทะร้อน ๆ ไข่แดงมีความสุกแบบยางมะตูมเยิ้ม ๆ เคียงข้างมาด้วยเครื่องที่จัดเต็มด้วยไส้กรอกหนังกรอบ และผักต่าง ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับหมูหย็องและพริกไทยเพื่อเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้ยังมีของกินเล่นอย่างเมนู “ขนมจีบทอด” (79 บาท) เมนูของกินเล่นที่กินเพลินกับขนมจีบไส้หมูทอด ที่ตัวไส้หมูมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเด้งรสชาติกลมกล่อมหวานเค็มกำลังดี ห่อด้วยแป้งขนมจีบแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนกรอบลั่น ไม่อมน้ำมันยิ่งกินยิ่งเพลิน


นี่เป็นการกลับมาเยือนคาเฟ่เชียงใหม่ หลังจากที่ซุ่มฟิตหุ่นอยู่นาน ถือว่า “Light Up Cafe” เชียงใหม่ ยังคงสร้างความตราตรึงใจให้เราได้อยู่เสมอ ทั้งบรรยากาศการบริการ และเมนูทั้งหมดได้ร้าน เรียกได้ว่าครองใจเราไปแล้วตอนนี้ ใครกำลังมองหาคาเฟ่เชียงใหม่ดี ๆ หรือร้านชานมไข่มุกเชียงใหม่ ก็แนะนำว่าให้ตามมาเลย ส่วนถ้าใครอยากไปต่อยังไม่จุใจ ตามมาที่นี่เลยเฟซบุ๊กเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai
การเดินทาง
- ถนนสนามกีฬา ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ (จากวงเวียนสนามกีฬาเทศบาลใช้เส้นทางที่มุ่งหน้าไปศาลเจ้าพ่อเสือบ้านเชียงยืน ร้านจะอยู่ขวาก่อนถึงศาลเจ้า 200 เมตร)
- เบอร์ติดต่อ : 064-538-5124
- เวลาเปิด - ปิด : จันทร์ - เสาร์ 07:30 - 17:00 น. อาทิตย์ 09:00 - 17:30 น.