# วงในบอกมา
- เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน สวยที่สุดตอนพระอาทิตย์กำลังตกลงสู่แม่เจ้าพระยา
- เมนูจากเชฟ Joshua Cameron ผู้คร่ำหวอดในร้านอาหารชื่อดังระดับโลกจากนิวยอร์ก
- ผสมผสานความสง่างามแบบฝรั่งเศสกับความวิจิตรแบบไทยโดย Tristan Auer นักออกแบบภายในชื่อดัง
ถ้าจะให้พูดถึงโอกาสพิเศษ การได้ไปดินเนอร์หรือนั่งดื่มกับคนรู้ใจคงเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ซึ่งเราก็ต้องนึกถึงหลายปัจจัยที่ทำให้มื้อนั้นมันพิเศษ ทั้งบรรยากาศที่ต้องดี อาหารต้องโดนใจ การบริการต้องใช่เลย หรือเรื่องราวของร้านที่น่าสนใจ ทั้งหมดที่พูดมาคงมีไม่กี่ตัวเลือกสำหรับมื้อพิเศษของคุณ แต่วันนี้ผมได้มีโอกาสไปร้านที่บอกเลยว่า “ครบครัน” กับทุกสิ่งที่ผมได้เอ่ยไป ทั้งวิวจากจุดสูงที่สุดในประเทศไทย เมนูอาหารจากเชฟชื่อดัง และบรรยากาศที่สวยงามสอดแทรกเรื่องราวโดยนักออกแบบอันดับต้น ๆ ผมขอแนะนำ “Mahanakhon Bangkok SkyBar”

“Mahanakhon Bangkok SkyBar” เป็นห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ชั้นที่ 76 และ 77 ของอาคารลายพิกเซลส์ ที่คิง เพาเวอร์ มหานคร โดยใช้เวลาขึ้นลิฟต์จากชั้น 1 เพียงไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น! เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ผมบอกเลยว่าคุณจะต้องอึ้ง ทึ่ง เสียว! เพราะอึ้งในการผสมผสานความหรูหราในแบบฝรั่งและความวิจิตรแบบไทย โซน Indoor มาในโทนไม้สีน้ำตาล ประดับประดาด้วยของโบราณสะท้อนเรื่องราวของนักเดินทางผู้รักการผจญภัยได้อย่างชัดเจน ทั้งปฏิมากรรมรูปหัววัวกระทิงที่ตั้งตระหง่าน หนังสือโบราณจากฝรั่งเศส เครื่องปั้นดินเผาจากญี่ปุ่น อีกทั้งกระจกสูงจรดเพดานรอบทิศทางส่วนโซน Outdoor มาในโทนสีครีมตัดกับสีเขียวธรรมชาติจากต้นไม้ ให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสวนที่ร่มรื่นราวกับ Oasis in the Sky


และคุณจะต้องทึ่ง! กับวิวตระการตารอบทิศทางของเมืองกรุงเทพฯ โดยเฉพาะวิวจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่คุณสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในโซน Indoor วิวนี้จะสวยที่สุดช่วงพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า และกำลังตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา


เมื่อคุณไปโซน Outdoor คุณจะต้องเสียว! เพราะเป็นวิวระเบียงกระจก มองออกไปเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ จากชั้นที่ 76 ไกลสุดลูกหูลูกตา ใครกลัวความสูงคงต้องมีสั่นกันบ้าง


ร้าน “Mahanakhon Bangkok SkyBar” มีเชฟมากความสามารถจากร้านอาหารระดับโลกอย่างเชฟ Joshua Cameron มารังสรรค์เมนู โดยเมนูในวันนี้ก็มากมายตระการตาหาความธรรมดาไม่เจอ เริ่มเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “Hokkaido Uni Panna Cotta” (900 บาท) เป็นเมนู Starter ที่ว้าวมาก เพราะใช้ไข่หอยเม่นสดจากเมืองฮอกไกโด แต่ใช้เทคนิคการทำแบบฝรั่งเศสจนกลายเป็นพานาคอตตาเนื้อเนียนนุ่มดั่งขนมหวาน แต่ได้กลิ่นและความมันจากไข่หอยเม่นชัดเจน กินคู่กับไข่ปลาแซลมอน สาหร่ายวากาเมะทอด และตัดรสชาติด้วยความเปรี้ยวจากซอสส้มยุซุพอนซึสูตรพิเศษ

มาต่อกันด้วยเมนูหรูหราอย่าง “Foie Gras” (650 บาท) ฟัวกราส์ชั้นเลิศจากฝรั่งเศส เสิร์ฟพร้อมซอสเมเปิล เชอร์รีเจล และ Caramelized Onion พอทาฟัวกราส์ลงขนมปังและเพิ่มรสชาติด้วย 3 ซอส บอกเลยว่าได้หลากรสชาติหลายรสสัมผัสในคำเดียว ความมันจากฟัวกราส์ ความกรอบจากขนมปัง และรสชาติอันกลากหลายของซอส และเมนู “Hokkaido Scallops” (950 บาท) หอยเชลล์ตัวใหญ่จากฮอกไกโด จี่บนกระทะจนกรอบนอกแต่เนื้อสัมผัสยังเด้งอยู่ เสิร์ฟพร้อมผักเคล เห็ดชิเมจิ และเซอร์ราโนแฮมกรอบ จานนี้สมดุลในเรื่องรสสัมผัสอย่างมากเลยทีเดียว


มาถึงเมนูพีก ๆ กันบ้างอย่าง “Stuffed Whole Free Range Chicken” (1,400 บาท) ไก่เลี้ยงตามธรรมชาติยัดไส้ด้วยขนมปังบริออชและกระเทียมดำสูตรพิเศษแล้วนำไปอบ หนังกรอบ เนื้อไก่ก็นุ่มมาก ๆ และเพิ่มรสชาติของเมนูด้วยขนมปังบริออช และกระเทียมดำที่บดมา ให้ความหอม เค็มนิด ๆ กลมกล่อมเป็นที่สุด จานนี้เหมาะกับกิน 2 คนขึ้นไป และต้องใช้เวลาสักพักในการปรุงนะครับ

ต่อกันไปยาว ๆ กับเมนู “Mr. Jean-Paul, Normandy Oysters” (690 บาท) หอยนางรมนำเข้าจากฝรั่งเศสที่สดมาก ไม่มีกลิ่นคาว เสิร์ฟแบบ 2 สไตล์ คือแบบเย็นจะมาพร้อมมัลเบอร์รีดองสีม่วงสวยงาม เปรี้ยวนำ สดชื่น และแบบร้อนจะมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มความเผ็ดร้อนได้อย่างดี และเมนูเอาใจสายเนื้ออย่าง “Australian Lamb Chops”(8 ชิ้น 2,100 บาท / 5 ชิ้น 1,400 บาท / 3 ชิ้น 900 บาท) เมนูกริลล์ที่พรีเมียมด้วยวัตถุดิบ เนื้อเหนียวนุ่มสู้ฟัน ไม่เหม็นคาว เสิร์ฟพร้อมซอส Olive Oil ผสมสมุนไพรสูตรเฉพาะ เพิ่มความมัน และกลมกล่อมสุด ๆ


ขอดับของคาวด้วยของหวานอย่างเมนู “Kaffir Lime Cheese Cake” (350 บาท) ที่รวบรวมผลไม้เขตร้อนไว้ในจานเดียว ทั้งตัวชีสเค้กสุดละมุนด้วยใบมะกรูด เพิ่มความเปรี้ยวด้วยเจลเสาวรส และไอศครีมซอร์เบต์รสมะม่วงที่บอกเลยว่าทั้งสดชื่นและหอมหวาน ต่อด้วย “Chocolate Tart” (300 บาท) ช็อกโกแลตมูส ผสมกับ กาแฟ ช็อกโกแลต กานาช ตัวทาร์ตให้ความหวานอย่างเข้มข้น และความเปรี้ยวของช็อกโกแลตอย่างชัดเจน เสิร์ฟพร้อมคอฟฟีเจล มิลก์เจล และ คาปูชิโนเจล เพิ่มรสชาติได้อีกตามต้างการ และไอศครีมซอร์เบต์รสช็อกโกแลตที่ละมุนสุด ๆ



ส่วนใครชอบเครื่องดื่ม เราขอแนะนำเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง “Rooibos Sour” (290 บาท) ชารอยบอสที่เพิ่มให้ความเปรี้ยวอย่างสดชื่นจากมะนาว และความหวานเล็ก ๆ จากน้ำผึ้ง ต่อด้วย “Verde Fresca” (290 บาท) ที่ใช้เป็นแตงกวาเปอร์เซียทำให้สดชื่น มีความเฉพาะตัว หอมด้วยใบ สเปียร์มินต์และสวีทเบซิล และเมนู “St. Tropez” (290 บาท) หอมกลิ่นแตงโม เปรี้ยวเล็ก ๆ จากเสาวรสและหอมกลิ่นวานิลลา



จากทั้งหมดที่ผมได้บอกมา ผมว่า “Mahanakhon Bangkok SkyBar” เป็นร้านที่ลงตัวในทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งบรรยากาศที่สวยงามจากทั้งการตกแต่งภายในและวิวเมืองกรุงเทพฯ แบบรอบทิศทาง จากเมนูอาหารที่การันตีจากเชฟฝีมือเยี่ยมระดับโลก พร้อมสอดแทรกเรื่องราวอันน่าสนใจผ่านการตกแต่งที่หาดูได้ยาก ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารดาดฟ้าดี ๆ สักร้านเพื่อมาใช้เวลาพิเศษแล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำให้ “Mahanakhon Bangkok SkyBar” เป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คุณควรนึกถึงครับ

การเดินทาง
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 76 และ 77 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีช่องนนทรี (ทางออก 3) แล้วเดิน Sky Walk เพียง 100 เมตร เชื่อมต่อเข้าอาคารได้เลยครับ