แค่วิวก็กินขาด อาหารก็กินใจ Mango Tree on the River ร้านเดียวครบรส!
  1. แค่วิวก็กินขาด อาหารก็กินใจ Mango Tree on the River ร้านเดียวครบรส!

แค่วิวก็กินขาด อาหารก็กินใจ Mango Tree on the River ร้านเดียวครบรส!

วิวสวยชนะเลิศ! มากี่ทีก็อึ้งทุกครั้ง ที่ “Mango Tree on the River” เสิร์ฟอาหารหลากเมนูพร้อมจิบค็อกเทลชิคๆ ดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวัดอรุณ ฟินลืมมม~
Ad ·
สนับสนุนโดย Mango Tree Yodpimarn River Walk
(รายละเอียดเพิ่มเติม)
Video at //www.facebook.com/Wongnai/videos/1578685908815995/?business_id=924885727529353

ช่วงนี้ใครที่อยากพาแฟนรู้คนรู้ใจมาทานข้าว เพื่อเรียกคะแนนให้สูงลิ่ว น้องหลุมดำขอแนะนำร้าน “Mango Tree on the River” เป็นอีกร้านที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แค่วิวแม่น้ำก็กินขาดแล้ว! มาแล้วไม่อายเลยจ้า โรแมนติกสุดๆ มากี่ทีก็ฟินทุกครั้งไป

หน้าร้าน “Mango Tree on the River”
แค่หน้าร้านก็สวยสะกดใจแล้วววว
บรรยากาศร้าน “Mango Tree on the River”
เรื่องบรรยากาศต้องบอกเลยว่า “สวย” แบบไม่มีข้อแม้ใดๆ Peak Time ที่อยากแนะนำคือช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสี สวยมากๆ ไม่อยากละสายตาไปเลยล่ะ
บรรยากาศร้าน “Mango Tree on the River”
บรรยากาศเป็นจุดเด่นของร้าน ที่เราจะได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา นอกจากนี้ก็ยังเห็นวัดอรุณ, วัดกัลยาณมิตร, โบสถ์ซางตาครู้ส, วัดประยุรวงศาวาส, สะพานพุทธ มองเห็นหมดเลย

ทางร้านมีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นแรกเป็นครัว ชั้นที่สองคือบริเวณที่ทานอาหารมีทั้ง Indoor และ Outdoor ชั้นสามเป็นบาร์และเทอเรสนั่งชิลล์ และสุดท้ายคือชั้นดาดฟ้า ซึ่งชั้นนี้เหมาะกับงานสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิด, วันครบรอบ, ปาร์ตี้ส่วนตัว เพื่อนๆ ควรโทรมาจอง 1-2 วันล่วงหน้านะคะ ทางร้านจะได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ให้

หลังจากที่กดชัตเตอร์รัวๆ กันเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาของอาหารกันบ้างแล้วค่า~ เริ่มต้นด้วยเมนูซิกเนเจอร์ “ลาบซี่โครงหมูย่าง” (450++) ซี่โครงหมูที่ผ่านการซูวีเป็นวัน และแช่ด้วยน้ำสับปะรดทำให้เนื้อนุ่ม ตัดง่ายมากๆ รสชาติแซ่บนิดๆ ด้วยผงลาบสูตรเฉพาะของทางร้าน หอมสมุนไพร ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเข้มด้วยแล้ว บอกเลยว่าเยี่ยม!

เมนู “ลาบซี่โครงหมูย่าง” ของร้าน “Mango Tree on the River”

จานแรกเสิร์ฟมาไม่นาน จานที่สองก็มาแล้ว “กุ้งสะเต๊ะ” (250++) พรีเซนเทชันโดดเด่นแตกต่างจากที่เราเคยเห็นทั่วๆ ไป แทนที่จะใช้เป็นหมูสะเต๊ะ ทางร้านเปลี่ยนมาใช้กุ้งก้ามกรามสดเอามาเสียบไม้แทน ไม่น่าเชื่อว่ารสชาติเข้ากับผงสะเต๊ะด้วยนะ ที่สำคัญคือใช้เตาถ่านเพื่อให้ร้อนตลอดเวลา 

เมนู “กุ้งสะเต๊ะ” ของร้าน “Mango Tree on the River”
เมนู “กุ้งสะเต๊ะ” ของร้าน “Mango Tree on the River”

ต่อด้วย “ยำส้มโอหอยเชลล์” (330++) เป็นอีกจานที่หยิบไอโฟนออกมารัวอีกครั้ง พรีเซนเทชันสวยถูกใจมาก มีหอยเชลล์สดผสมผสานกับความเปรี้ยวหวานของส้มโอ ความกรอบของรากบัวทอดและเครื่องแบบไทยๆ โดยรวมแล้วได้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม รสไม่จัดมาก

เมนู “ยำส้มโอหอยเชลล์” ของร้าน “Mango Tree on the River”
เมนู “ยำส้มโอหอยเชลล์” ของร้าน “Mango Tree on the River”

ตามมาติดๆ กับ “มัสมั่นขาแกะ” (850++) ต้องบอกก่อนว่าถ้าใครไม่ชอบเนื้อแกะ เพราะมีกลิ่น จานนี้หายห่วง เพราะตัวเราเองก็ไม่ชอบทาน แต่จานนี้ทานได้ง่ายๆ เชฟตุ๋นเนื้อแกะจนนิ่มซึ่งใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ไม่เหนียวเลย กลิ่นก็ไม่เหม็นสาบอย่างที่คิด ทานคู่กับซอสมัสมั่นเข้มข้น ถือว่าผ่านเลยล่ะค่ะ

เมนู “มัสมั่นขาแกะ” ของร้าน “Mango Tree on the River”

คุณพี่ที่มาด้วยรีเควสต์เมนูนี้กับพนักงานตั้งแต่ยังไม่ถึงร้านเลยล่ะค่ะ เรียกได้ว่าขอโทรจองล่วงหน้า (มีความอยากสุดๆ 555) เมนูนั้นก็คือ “กุ้งล็อบเตอร์ย่างซอสแกงแดง” (2,900++) ล็อบสเตอร์ที่ “Mango Tree on the River” ใช้นั้นนำเข้าจากแคนนาดา แล้วทำตามออร์เดอร์เพื่อความสด เนื้อเด้งเลยล่ะ ทานคู่กับซอสแกงแดงซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน รสชาติเข้มข้นหอมเครื่องเทศ ราคาแอบแรงแต่เมื่อเทียบกับคุณภาพต้องยกนิ้วให้นะคะ

เมนู “กุ้งล็อบเตอร์ย่างซอสแกงแดง” ของร้าน “Mango Tree on the River”

ต่อด้วย “ยำมะเขือเผาสรงกุ้ง” (300++) ด้วยความที่ร้าน “Mango Tree on the River” อยู่ในพื้นที่ปากคลองตลาด ทางร้านจะได้ความสดของอาหารเป็นที่หนึ่ง เพราะซื้อของเข้าทุกเช้าแบบวันต่อวัน เช่นเดียวกับเมนูนี้ค่ะ เชฟจะเอามะเขือมากริลล์แล้วลอกเปลือกออก นำมายำกับเครื่องเครา ออนท็อปด้วยกุ้งตัวโต ชอบเผ็ดไม่เผ็ดสามารถรีเควสต์ได้ เราสั่งแบบปกติมาลองเลย รสชาติเผ็ดขึ้นจมูกเล็กน้อย โดยรวมโอเค

เมนู “ยำมะเขือเผาสรงกุ้ง” ของร้าน “Mango Tree on the River”

ทานไปดูวิวไปเพลินๆ ก็สั่งขนมหวานมาปิดท้ายมื้อเสียหน่อย “พานาคอตต้ามะพร้าวอ่อน” (140++) พานาคอตต้ามะพร้าวอ่อนเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน หาทานที่อื่นไม่ได้นะคะ ใช้กะทิสดๆ กลิ่นหอมมากๆ รสชาติหวานละมุน โรยด้วยกากมะพร้าวและทับทิมกรอบ ไม่อยากให้ถ้วยนี้หมดเร็วเลยจริงๆ

เมนู “พานาคอตต้ามะพร้าวอ่อน” ของร้าน “Mango Tree on the River”

ระหว่างมื้อเพื่อนๆ ห้ามพลาดที่จะสั่งค็อกเทลมาเพิ่มอรรถรสให้กับมื้อนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Signature อย่าง “Light up the corn yard” (280.-), “Nut’s thing” (280.-), “Mango Martini” (230.-) และม็อกเทลอย่าง “The Purple junk” (150.-), “The river’s Breezy” (150.-) รับรองฟิน~

เมนู ค็อกเทล ของร้าน “Mango Tree on the River”
เมนู ค็อกเทล ของร้าน “Mango Tree on the River”

นอกจากนี้ทางร้านยังมี Compulsory Drinks (300++) ที่สามารถเลือกเมนูเครื่องดื่มได้มากมายทั้ง Mango Chill Pill, Mtor Smoothies, Magarita และ เบียร์ พร้อมชมวิวแบบไพรเวตสุดๆ ที่ชั้นสามและชั้นสี่ แนะนำสำหรับใครที่อยากมาสวีต จองล่วงหน้าเลยค่า ทางร้านจะได้จัดที่นั่งให้แบบเอกซ์คลูซีฟ ถูกใจแน่นอน 

การเดินทาง

ร้าน “Mango Tree on the River” ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้ายอดพิมานรีเวอร์วอล์ก ปากคลองตลาด อาคาร D5 ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงดึก จะมีเรือ Speed Boat ของทางร้านรับส่งฟรีจากท่าเรือสาทรด้วยนะคะ เรือออกทุก 1 ชั่วโมง ถ้าไม่มั่นใจก็โทรมาสอบถามก่อนล่วงหน้าที่ร้านได้ค่ะ

เมนูห้ามพลาด

ลาบซี่โครงหมูย่าง, มัสมั่นขาแกะ, Light up the corn yard

แผนที่

ศูนย์การค้ายอดพิมานรีเวอร์วอล์ค อาคาร D5
static-map

การติดต่อ