"Megumi" ฟินกับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบคำต่อคำ ไม่ต้องเร่งให้เสียอารมณ์
  1. "Megumi" ฟินกับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบคำต่อคำ ไม่ต้องเร่งให้เสียอารมณ์

"Megumi" ฟินกับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบคำต่อคำ ไม่ต้องเร่งให้เสียอารมณ์

ปิ้งย่างสไตล์ A la carte สั่งกันแบบชิลล์ๆ เนื้อวากิวสายพันธุ์ญี่ปุ่นลายหินอ่อน ย่างกันทีละชิ้น สุขกันแบบคำต่อคำ @ Megumi ริมถนนนวลจันทร์
writerProfile
11 ก.ค. 2015 · โดย
Ad ·
สนับสนุนโดย Megumi
(รายละเอียดเพิ่มเติม)

ท่ามกลางยุคสมัยของไลน์อาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ที่คนไทยโปรดปราน เพราะเน้นความเยอะเข้าว่า จะมีใครรู้บ้างว่าความสุขที่แท้จริงของการกินปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น คือ การค่อยๆ บรรจงย่างชิ้นเนื้อทีละชิ้น และลิ้มรสชาติความฟินที่แทรกอยู่ในแต่ละชิ้นเนื้อ ไม่ต้องรีบเร่งแข่งกับเวลาให้เสียมู๊ด เสียรสชาติ ใครอยากได้ฟิลลิ่งแบบนั้น ต้องห้ามพลาดร้าน “Megumi” ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบ A la carte ที่คุณต้องไปโดนสักครั้ง

ถ้าพูดถึงชื่อ “Megumi” หลายคนอาจจะรู้สึกว่าคุ้นหู เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะร้านเค้าเปิดให้บริการบนถนนนวลจันทร์มานานกว่า 5 ปี ดูระยะเวลาอาจให้ความรู้สึกว่า “เก่า” แต่ยังคงความ “เก๋า” แบบจัดเต็ม ส่วนหนึ่งดูได้จากอายุงานของเชฟใหญ่ประจำร้าน ที่มีประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 10 ปี นี่ยังไม่นับประสบการณ์ที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความชำนาญในการสไลด์วัตถุดิบ การหมักเนื้อ ตลอดจนการปรุงน้ำจิ้ม หัวใจหลักของปิ้งย่าง ตลอดจนเชฟซูชิที่แยกออกจากกัน ฉะนั้น งานนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เชฟฝีมือดี ต้องมาพร้อมวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ที่นี้มีตั้งแต่เนื้อวากิวสายพันธุ์ญี่ปุ่นมาเบิ้ลสกอร์ 6-7 เนื้อหมูชั้นดี ซีฟู๊ดเกรดเยี่ยม อาหารเซ็ตแบบญี่ปุ่น ที่มีโปรโมชั่นลดราคาตามช่วงเวลา ตลอดจนซูชิ ซาซิมิ ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รอสแตนด์บายให้ลูกค้าสั่ง ทำสดใหม่แบบจานต่อจาน

เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่สร้างความจดจำให้กับลูกค้าเก่าเป็นอย่างดี ต้องยกให้ “ดีไซน์ของเตาย่าง” ที่มองดูเผินๆ อาจจะคิดว่า “เล็ก” แต่เต็มด้วย “คุณภาพ” เพราะทางร้าน “Megumi” เค้าตั้งใจให้ลูกค้าทุกคนได้ลิ้มรสชาติเนื้อย่างของคุณ ให้อร่อยถึงขั้นสุด ด้วยวิธีการดังนี้

1.รอตะแกรงร้อน แล้วบรรจงย่างเนื้อทีละชิ้น อย่าย่างเยอะ ไม่ต้องใจร้อน

2.อย่า “พลิก” ชิ้นเนื้อไปมา ให้ย่างด้านแรกประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยพลิกย่างอีกด้าน รออีกประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที ให้สังเกตุง่ายๆ เนื้อเริ่มกำลังเปลี่ยนจาก “สีชมพู” เป็น “สีแดง” อย่ารอให้ “ดำ” ไม่งั้นจะเสียรสชาติเนื้อนะจ๊ะ

3.จิ้มกินกับน้ำจิ้มยากินิคุสูตรเฉพาะของทางร้านโล้ด :”P

4.กลับไปเริ่มทำตามข้อ 1 อีกครั้ง

เพียงเท่านี้ก็ฟินกันเนื้ออย่างชนิดคำต่อคำได้แล้ว :”)

อย่างเช่นที่เกริ่นไปข้างต้น ว่าทางร้านเป็นแบบ A la carte เน้นความดีงามจากเกรดวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ที่มีตั้งแต่ “วากิว”สายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีใบรับประกันทุกชิ้น หรือแม้แต่เนื้อ Thai French มีเนื้อให้เลือกหลากหลายเยอะมาก มีทั้งแบบแยกขายเป็นแต่ละส่วน จนไปถึงแบบเป็นเซ็ตที่ทางร้านจับคู่มาให้ เพื่อให้ลูกค้าได้กินหลากหลาย ในราคาที่ไม่สูงเกินไป

“Set A”
“เซ็ทผักชาบู”
“สามารถสั่งแยกเป็นคอนโดได้”

ยกตัวอย่างสองเซ็ตขายดีประจำร้านอย่าง Set A (360 บาท) ที่ทางร้านนำเนื้อ Thai French หลากหลายส่วนมารวมไว้ในจานเดียว เหมาะสำหรับการกินประมาณ 3 คน มีทั้งส่วนเนื้อสันนอก เนื้อสันใน เนื้อติดมัน ลิ้น เนื้อร่องใต้ซีโครง เนื้อสันคอ แต่ถ้ามาน้อยกว่านั้น แนะนำให้เป็น Set B (260 บาท)ที่ขนาดเล็กกว่า สั่งชุดผักชาบู (150 บาท) มาต้มกินคู่กัน ถ้าอยากเพิ่มก็สั่งแยกเป็นแบบคอนโดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

“Wagyu Setto”

หรือจะเลือกเป็นเซ็ตเนื้อวากิวอย่าง Wagyu Setto (690 บาท) ที่จัดเต็มไปด้วยเนื้อวากิวส่วนสันนอก สันคอ ริบอาย และคารูบิซี่โครงส่วนล่าง ที่รับประกันเลยว่าทุกครั้งที่นำเนื้อลงย่าง จะได้กลิ่นที่หอม สัมผัสที่นุ่มเป็นมิตรกับลิ้น เนื้อที่หวานละมุน กำลังดีจากชั้นไขมันที่แทรกอยู่ตามเนื้อวากิว ยิ่งย่างตามคอนเซ็ปต์ร้าน ยิ่งสัมผัสได้ถึงรสชาติแท้ๆ ของวากิว

“วากิวดิบโรส”

แต่ถ้าอยากเพิ่มระดับความพรีเมี่ยม มาทั้งทีต้องเลือกสั่งวากิวแบบแยกเฉพาะส่วน ขอแนะนำให้ลองสั่ง วากิวดิบโรส (580 บาท) พาร์ทความอร่อยสุดพิเศษจากส่วนหัวไหล่ ที่หมักเครื่องเทศสไตล์ญี่ปุ่น ที่ต้องยกนิ้วในเรื่องของความนุ่ม และไขมันที่แทรกตัวสวยงามชวนน้ำลายสออยู่ตลอดทั้งชิ้น ย่างกิน อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม ดีงามขนาดไหนก็คิดดูแล้วกัน ต้องลองนะบอกเลย ห้ามพลาด!

“Seafood Set”

ส่วนใครที่ชอบอาหารทะเลเป็นทุนเดิม Seafood Set (390 บาท) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาแซลมอนสดสายพันธุ์นอร์เวย์ กุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์ และปลาดอลลี่ กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ความแซ่บคุ้นลิ้นคนไทย ยิ่งดีงาม

“Pork Set”

แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะทางร้าน “Megumi” เค้ามี Pork Set (230 บาท) หนึ่งในเซ็ตขายดีประจำร้าน ที่ประกอบไปด้วยหมูสันนอก สันใน คอหมูย่าง สามชั้น และตับ ที่ทางเชฟหมักด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษจนซึมเข้าเนื้อ ได้ความกลมกล่อม อร่อยไปอีกแบบ

“ชุดปลาดิบรวม 5 ชนิด”
“ชุดปลาดิบรวม 5 ชนิด”
“รวมซูชิฟิวชั่น”
“บิ๊กแซลมอน”
“หัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ้ว”

นอกจากในส่วนของปิ้งย่างแล้ว ทางร้านยังมีในส่วนของ ซูชิ และซาซิมิ ไว้ให้เลือกสั่ง เพิ่มความหลากหลาย มีทั้งแบบ ชุดปลาดิบรวม 5 ชนิด (280 บาท)ที่เสิร์ฟฮามาจิ แซลมอน ทูน่า ปลาหมึกญี่ปุ่น และปลากระพงญี่ปุ่น กันแบบสดๆ ในราคาที่ถูกกว่าที่คิดไว้เยอะมาก หรือจะเลือกสั่งเป็น ซูชิสไตล์ฟิวชั่น อาทิ บิ๊กแซลมอน (150 บาท) อุนางิโรล (280 บาท/ไซส์ M) และนินจาโรล (220 บาท/ไซส์ M)ที่อร่อยไม่แพ้ซูชิบาร์บางเจ้าเลยทีเดียว หรือใครที่ชอบกินหัวปลา ขอนำเสนอ หัวปลาแซลมอนนึ่งซี่อิ้ว (290 บาท) ความอร่อยเข้มข้นที่มีจำนวนจำกัด 6 เสิร์ฟต่ออาทิตย์เท่านั้น

“ยุสุโซดา”
“เลมอนครีมโซดา”
“มัชฉะลาเต้”

เมนูปิ้งย่างกับเครื่องดื่มเย็นเติมความสดชื่น เป็นของคู่กัน ทางร้านมีให้เลือกทั้งแบบมีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะสั่งแอลกอฮอล์ ไวน์ หรือสาเก ตลอดจนยูสุโซดา (79 บาท) เปรี้ยวปรี๊ดจี๊ดจ๊าด เลมอนครีมโซดา (45 บาท)เปรี้ยวซ่าซะใจ หรือ มัทฉะลาเต้ (65 บาท)รสชาตินุ่มๆ มาดื่มคู่

“วาฟเฟิล”
“มัทฉะพุดดิ้ง”
“เมกูมิไอซ์”

กินเสร็จอย่าลืมล้างปากด้วยการสั่งของหวาน ที่ทางร้านมีแนะนำ เมนูน้องใหม่อย่าง วาฟเฟิล (69 บาท) และ มัทฉะพุดดิ้ง (45 บาท)หรือแม้แต่ตัวขายดีของทางร้านอย่าง เมกูมิไอซ์ (50 บาท)

อิ่มครบ จบในร้านเดียว ไม่ต้องเร่งรีบ สั่งเรื่อยๆ กินชิลล์ๆ นี้สิความสุขบนเตาปิ้งย่างกับร้าน “Megumi” ว่างวันไหนแวะชวนแก๊งค์เพื่อนไปกินให้อิ่มหนำได้เลย

แผนที่

ตรงข้าม Premium Place อยู่ระหว่างซอย 21 กับ 23
static-map

การติดต่อ