นภา เรสเตอรองท์ อาหารไทยแท้รสเข้มถึงเครื่อง รสจัดถึงใจ

ในวันที่ร้านอาหารต่างชาติผุดขึ้นมามากมายแทบทุกหัวถนน แถมยังทำได้อร่อยไม่แพ้ประเทศต้นตำรับ แต่อาหารไทยของเราเองกลับมีรสชาติที่ห่างไกลจากคำว่าต้นตำรับออกไปทุกที เพราะส่วนใหญ่แล้วร้านอาหารไทยมักนิยมทำรสชาติของอาหารให้ออกมากลางๆ เพื่อเอาใจลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้อะไรที่ควรเผ็ด ควรจะรสจัด เข้มข้น ก็ไม่เผ็ด ไม่เข้มข้นเท่าที่ควรจะเป็น แล้วยังพลอยทำให้คนไทยยุคใหม่ไม่รู้เสียแล้วว่าอาหารไทยที่รสชาติเป็นไทยแท้ๆ นั้นเป็นอย่างไรจริงๆ แล้วแกงพะแนง แกงเขียวหวานไม่ควรจะมีรสชาติหวานนำ แกงส้มก็ควรจะเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามเปียก ต้มยำกุ้งก็ควรจะหอมเครื่องเทศตะไคร้ ใบมะกรูดและมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ดถึงใจ ส่วนน้ำพริกกะปิก็ควรจะตำกันสดๆ ด้วยกะปิคุณภาพดีที่มีสีออกน้ำตาล นี่คือรสชาติที่คุ้นเคยที่คุณย่า คุณยายเคยทำให้ลูกหลานกินเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งในปัจจุบันนี้การจะหาร้านอาหารไทยที่ปรุงอาหารเหล่านี้ให้ออกมาเหมือนกับรสชาติต้นตำรับ ก็อาจจะหายากอยู่สักหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย....

ทางขึ้นชั้น 2

ที่นั่งด้านหน้าร้านแบบ Open Air

ที่นั่งในร้านแบบ Open Air เพราะถ้าหากมาแถวสี่แยกที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตัดกับถนนสีลม แล้วขับรถเรื่อยจากสี่แยก มุ่งหน้ามาทางสุรวงศ์ เพียงร้อยเมตรเท่านั้น ก็จะเจอตึกสีเหลืองสดใสซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน "นภา เรสเตอรองท์" ร้านอาหารไทยเล็กๆ ที่รสชาติยังคงความเป็นไทยแท้เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่มีการทำรสชาติเอาใจฝรั่งเลยแม้แต่น้อย เผ็ดเป็นเผ็ด ขนาดคนไทยมากินเอง บางครั้งอาจจะยังต้องซี้ดปาก ปาดเหงื่อ เพราะความเข้มข้นรสจัดจ้านของเครื่องแกงและส่วนผสมที่ใช้นั่นเอง ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า หากมาที่ "นภา เรสเตอรองท์" แล้ว จะเหมือนย้อนเวลากลับไปกินอาหารฝีมือคุณย่าคุณยายในอดีตแน่นอน

"แกงเขียวหวานหมูย่าง + โรตี"เริ่มกันที่เมนูยอดนิยมที่หลายๆ ร้านจะต้องมี นั่นคือ "แกงเขียวหวานหมูย่าง + โรตี" (ราคา 180 บาท) ที่หลายๆ ร้านสอบตกตรงการเลือกใช้โรตีที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะพอทิ้งไว้นานๆ ก็จะเริ่มเหนียวเคี้ยวยาก ตัดไม่ขาด แต่โรตีของ "นภา เรสเตอรองท์" เป็นโรตีที่สั่งมาไกลจากปัตตานีเลยทีเดียว แต่ถึงจะเดินทางมาไกลก็คุ้ม เพราะเป็นโรตีที่แป้งบางร่อน กรอบ แม้จะทิ้งไว้นานก็ยังไม่เหนียว แค่ใช้ช้อนตัดเบาๆ ก็ขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย แล้วยิ่งถ้าราดน้ำแกงเขียวหวานลงไปจนชุ่ม ให้เนื้อโรตีดูดซับรสชาติเข้มข้นของแกงเขียวหวานเอาไว้ ก็จะยิ่งอร่อยสุดๆ

แป้งโรตีกรอบบาง กับน้ำแกงเข้มข้นและนอกจากโรตีจะอร่อยแล้ว แกงเขียวหวานของ "นภา เรสเตอรองท์" ยังรสชาติเข้มข้นถึงรสเครื่องแกงอีกด้วย เพราะที่นี่โขลกน้ำพริกแกงเอง และจะแกงหม้อต่อหม้อ เมื่อมีลูกค้าสั่งเท่านั้น จะหั่นผัก ย่างหมูและทำแกงกันเดี๋ยวนั้นเลย ไม่มีการมาทำทิ้งไว้เด็ดขาด น้ำแกงเขียวหวานจึงเข้มข้น กะทิไม่ถูกต้มจนแตกมัน ผักยังมีความสดกรอบ และหมูที่เพิ่งย่างใหม่ๆ จะยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่ในเนื้อ ซึ่งยิ่งพอเอาลงไปแกงกับเครื่องแกงหอมๆ แล้ว หมูย่างก็จะยิ่งดูดซับรสชาติของน้ำแกงได้ดียิ่งขึ้น เป็นรสชาติที่ถูกปากจนจานนี้อาจจะหมดไวโดยไม่รู้ตัว

"กุ้งผัดพริกใบมะกรูดฝอยทอดกรอบ"ส่วนเมนูที่ถึงกับให้คนไทยที่ไม่กินเผ็ดสักเท่าไหร่ ถึงกับปาดเหงื่อและซู้ดปากด้วยความเผ็ดร้อน คือเมนู "กุ้งผัดพริกใบมะกรูดฝอยทอดกรอบ" (ราคา 490 บาท) เป็นเมนูที่เลือกใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่จากทะเล เอามาทอดกรอบๆ ทั้งเปลือก แล้วผัดกับเครื่องแกงที่โขลกพริกแห้งทอดกับตะไคร้ใบมะกรูดทอด จนได้เครื่องแกงสีแดงเข้ม รสเผ็ดร้อนหอมฉุย แล้วจึงเอากุ้งทอดไปผัดกับเครื่องแกงที่ผัดสดๆ กันเดี๋ยวนั้นอีกที โรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอยทอดกรอบซ้ำอีกรอบ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นเมนูรสจัดที่สั่งมากินกับข้าวร้อนๆ จะเข้ากันได้ดีมากๆ แต่สำหรับคนที่ไม่กินเผ็ด อาจจะต้องเปลืองน้ำเปล่าอยู่สักหน่อย เพราะเผ็ดจัด เผ็ดจริง

กุ้งลายเสือตัวใหญ่ผัดกับเครองแกงสดแต่ก็ใช่ว่าเมนูที่ "นภา เรสเตอรองท์" จะมีแต่เมนูเผ็ดๆ หรือรสจัดๆ อย่างเดียวเท่านั้น เพราะเมนูที่รสชาติไม่เผ็ด กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็มีที่น่าสนใจอีกหลายเมนูเช่นกัน เช่น "ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง" (ราคา 200 บาท) ที่ใช้หมูดำคุโรบุตะชิ้นใหญ่เนื้อหนานุ่มมาอบกับซอสสูตรเฉพาะของร้าน และอบจนรสชาติของน้ำซอสซึมลึกลงไปในเนื้อหมู และเคลือบเนื้อหมูด้านนอกจนทั่วถึง ส่วนหมูก็เปื่อยนุ่มมากๆ แค่เพียงเอาส้อมกับมีดสะกิดนิดหน่อย ก็หลุดร่อนออกมาอย่างง่ายดายแล้ว เนื้อหมูนุ่มเปื่อยเข้ากันได้ดีกับน้ำซอสรสชาติออกหวานๆ เค็มๆ เข้มข้นกลมกล่อมมากๆ เป็นเมนูที่จะเอามากินกับข้าวหรือกินเปล่าๆ แกล้มผักที่เสิร์ฟมาพร้อมกันในจาน ก็อร่อยลงตัวไม่แพ้กัน (ทุกเมนูที่เป็นหมูของ "นภา เรสเตอรองท์" จะใช้หมูดำคุโรบุตะทั้งสิ้น เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มละมุน)

"ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง"

"ปลาทอดซอสส้ม"อีกเมนูที่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี คือ " ปลาทอดซอสส้ม" (ราคา 160 บาท) ที่พิเศษตรงการคั้นน้ำส้มซันคิสต์สดๆ มาทำเป็นน้ำซอส เลยได้รสชาติของซอสส้มที่เข้มข้น เปรี้ยวหวานชัดเจน ยิ่งพอมาผัดกับปลาชุบแป้งทอดกรอบๆ จนเนื้อปลาและตัวแป้งดูดซับรสชาติของซอสส้มเอาไว้อย่างเต็มที่ ก็จะยิ่งอร่อยมากขึ้น ยิ่งกินก็จะยิ่งรู้สึกได้ถึงรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อมของซอสส้ม เป็นอีกเมนูที่กินเปล่าๆ ก็ได้ กินกับข้าวก็ดีเนื่องจากอาหารไทยของ "นภา เรสเตอรองท์" ไม่เอาใจฝรั่งเลยแม้แต่น้อย เผ็ดเป็นเผ็ด รสเข้มสุดๆ พอมาถึงคิวของของหวาน เลยขอเอาใจลูกค้าฝรั่ง และลูกค้าไทยหัวใจอินเตอร์กันบ้าง กับเมนูยอดฮิตอย่าง "ช็อกโก ลาวา" (ราคา 165 บาท) เค้กเนื้อนุ่มๆ อัดแน่นไปด้วยไส้ช็อกโกแลตลาวา ที่พร้อมจะไหลเยิ้มออกมายั่วใจ เป็นการช่วยลดความเผ็ดร้อนจากอาหารบางเมนูได้ดีทีเดียว

ผักแนมไว้กินคู่กับซี่โครงหมู

"ช็อกโก ลาวา"

ไวน์นานาชนิดและหากใครชอบดื่มไวน์แกล้มไปกับอาหาร ที่ร้านก็มีไวน์หลาหลายชนิดให้เลือกสั่งมาเข้าคู่กับอาหารได้ด้วย หรือถ้าชอบค็อกเทล ก็ให้รอช่วงเย็นๆ หน่อย เพราะบนชั้น 2 ของร้านจะเปิดเป็นค็อกเทล บาร์ ในบรรยากาศเปิดโล่ง รับลมเย็นๆ ในช่วงแดดร่มลมตก นั่งดื่มไป มองดูผู้คนและรถราบนถนนไป เพลินดีเหมือนกัน

ที่นั่งด้านในบนชั้น 2

ที่นั่งด้านนอก บนชั้น 2ถ้าโหยหาอาหารไทยรสชาติไทยแท้ และไม่กลัวที่จะกินเผ็ด ลองมาที่ "นภา เรสเตอรองท์" ดูสักครั้ง รับรองจะติดใจ แต่หากวันไหนมาแล้วพบว่าลูกค้าเยอะ และอาหารได้ช้า ก็ขอให้เข้าใจว่า เป็นเพราะอาหารที่นี่ผัดและแกงอย่างพิถีพิถันกันจานต่อจาน หม้อต่อหม้ออาหารจึงอาจจะออกช้าไปบ้าง แต่อร่อยสมการรอคอยแน่นอน"Napa Restaurant"ที่อยู่ : นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 1, สีลม, บางรัก, กรุงเทพมหานคร
โทร : 02-234 8671-2//napa-restaurant.com/eng/