ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารดีไซน์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร พร้อมลิ้มรสชาติอาหารสุดฟินไปพร้อมกัน วันนี้ทีมงาน Wongnai ขอพาไปที่ร้านอาหาร “Octospider” จ.ราชบุรี ร้านอาหารที่ถูกออกแบบได้อย่างทันสมัยโดดเด่นด้วยตัวร้านที่ลอยอยู่บนพื้นน้ำ บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับการพาครอบครัวหรือคนที่รักมาพักผ่อนมาก ๆ ค่ะ ขอบอกเลยว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ตัวร้านและบรรยากาศเท่านั้น เพราะเมนูอาหารก็ดีงามไม่แพ้กัน

ร้านอาหาร “Octospider” ราชบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงาน PASAYA ซอยวัดเตาอิฐ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ต้องบอกว่าจุดประสงค์แรกของที่นี่คือถูกออกแบบให้เป็นโรงอาหารของพนักงานค่ะ แต่ด้วยความสวยงามสะดุดตาของอาคารแห่งนี้ทำให้คุณชเล วุทธานันท์ เจ้าของร้าน เกิดไอเดียพัฒนาส่วนหนึ่งของอาคารเป็นร้านอาหาร ชื่อ “Octospider” มาจาก หนังสือนิยาย Si-fi แต่งโดย Arthur C. Clarke


อาคารรูปร่างเหมือนปลาหมึกตัวสูง 8 เมตร ตึกนี้เคยออกหนังสือ Domus Magazine มาแล้วด้วยนะคะ ไม่ธรรมดาจริง ๆ ส่วนพื้นน้ำใต้อาคารก็ผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสียมาแล้วทำให้มีปลาแหวกว่ายสร้างบรรยากาศให้สดชื่นมากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้เริ่มหิวแล้วค่ะ ไปเริ่มฟินกับเมนูอาหารของร้าน “Octospider” ราชบุรี กันดีกว่าค่ะ

Menu
เริ่มเมนูแรกด้วย Signature ของร้านอาหาร “Octospider” ราชบุรี อย่างเมนู “แกงคั่วพาซาญ่า” (ราคา 190 บาท) สันคอหมู่ย่างจนสุกหอม หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก่อนนำไปผัดกับพริกแกงและกะทิให้สุกพอเหมาะ เติมความหอมด้วยกระชาย และใบมะกรูดซอย เพิ่มสีสันด้วยมะเขือเทศ และมะเขือพวง รสชาติความมันของกะทิ และความเปรี้ยวที่ลงตัวของกานาฉ่ายของดีประจำ จ.ราชบุรี ทำให้แกงคั่วพาซาญ่าถ้วยนี้รสดีจนวางช้อนไม่ลงเลยค่ะ

อีกหนึ่งเมนู Signature ก็คือ “ผัดพริกขิงปลาดุกฟู” (ราคา 170 บาท) ทางร้านจะนำปลาดุกย่างมาแกะเลือกเฉพาะเนื้อ จากนั้นนำมาสับให้ละเอียด จนไม่มีก้างหลงเหลืออยู่แน่นอน ก่อนนำไปทอดให้กรอบ และไปผัดกับน้ำพริกแกงเผ็ด เสิร์ฟพร้อมไข่เค็มและผักลวก เมนูนี้จะเน้นเนื้อปลาดุกที่ไม่ผสมแป้ง รสชาติหวานนิด ๆ เผ็ดหน่อย เป็นความกลมกล่อมที่ต้องลองค่ะ


เมนู Signature ยังไม่หมด เรามาต่อกันที่เมนู “ปลากะพงสองใจ” (ราคา 350 บาท) ปลากะพงทอดกรอบจนได้สีเหลืองทอง นำมายำกับสมุนไพร เพิ่มเติมรสชาติด้วยน้ำปลา, น้ำมะมาว, ต้มหอมซอย, มะม่วงซอย, หอมแดงซอย, ผักชีฝรั่งซอย, ตะไคร้ซอย ผสมให้เข้ากัน ราดลงบนเนื้อปลาด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านทางร้านจะราดด้วยซอสน้ำปลา และกระเทียมเจียว และตกแต่งด้วยผักไฮโดรโปนิกส์ รสชาติดีทั้งสองด้านเลยค่ะ


ต่อกันที่เมนู “ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน” (ราคา 190 บาท) ขอบอกว่ารสชาติหวานของเมนูนี้ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยค่ะ เน้นไปที่เนื้อมะพร้าว และน้ำมะพร้าวเท่านั้น ความหวานที่ได้จึงมาจากน้ำมะพร้าวอ่อนที่ใช้ถึง 80% รสชาติหวานมัน ฟินกับกุ้งสด ๆ แถมยังหอมพริกเผา กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมค่า

มากันที่เมนูแซ่บ ๆ อย่างเมนู “ส้มตำทะเลทอดกรอบ” (ราคา 190 บาท) เมนูนี้พระเอกอยู่ที่มะละกอฝอย และแครอทฝอย ผสมแป้งแล้วทอดจนกรอบ ตามมาด้วยกุ้งกับปลาหมึกทอดกรอบเช่นกัน ความแซ่บอยู่ที่น้ำยำ ที่มีพริกสด, กระเทียม, ถั่วฝักยาว, น้ำตาลปี๊บ ลงไปตำในครก เสิร์ฟพร้อมผักไฮโดรโปนิกส์ และมะเขือเทศ สูตรเดียวกับส้มตำไทยของทางร้าน รสชาติ หวาน ๆ เปรี้ยวนิด ๆ เข้มข้นถึงใจ

อีกเมนูห้ามพลาด “ยำตะไคร้กุ้งกรอบ” (ราคา 170 บาท) โดดเด่นด้วยกุ้งขาวทอดให้สุก หมูแผ่นตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมทอดกรอบ ขนาดพอดีคำ เพิ่มรสชาติด้วยเครื่องยำ ที่มีรสชาติของน้ำพริกเผา, พริกสด, ต้นหอม, หอมแขก, ตะไคร้ เสิร์ฟมาบนช้อน ตามด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และผักชี รสชาติจัดจ้านโดนใจสุด ๆ เลยค่ะ

ปิดท้ายด้วยเมนู “เฟตตูชินี่ผัดขี้เมาทะเล” (ราคา 170 บาท) สูตรเด็ดของเมนูนี้อยู่ที่เส้นเฟตตูชินี่ ลวกน้ำร้อนนานถึง 8 นาที แล้วน็อคน้ำแข็งไว้ จากนั้นนำกุ้ง, หอย, ปลาหมึก ลวกน้ำร้อนให้สุกกำลังดี ผัดในกระทะ ที่ใส่น้ำมันมะกอก, เนยจืด, พริกสับ, กระเทียมสับ แต่งหน้าด้วยไข่ปลาสีสันสวยงาม รสชาติหอมละมุนสุด ๆ

ทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศของร้านอาหาร “Octospider” ราชบุรี ทำให้มื้ออาหารในวันนี้ของเรามีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ ใครที่อยากพาครอบครัวไปพักผ่อนสบาย ๆ เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 - 22:00 น. หรือโทรสอบถามทางได้ที่ 063-216-9335 และเพื่อน ๆ สามารถติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวดี ๆ ได้ที่เพจ ราชบุรี กินอะไรดี ? by Wongnai เลยค่ะ