#วงในบอกมา
- ชื่อร้าน “โอ้ว เหล่ง หยู้” มาจากชื่อของเตี่ย ผู้ซึ่งเปิดร้านพระรามลงสรงรุ่นแรก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ปัจจุบันส่งต่อให้กับทายาทรุ่นที่สาม
- ทางร้านหุงข้าวสวยด้วยวิธีโบราณ ทำให้ข้าวสวยออกมาเม็ดร่วนเป็นเอกลักษณ์!
- เมนู “พระรามลงสรง” สูตร 51 ปี! “น้ำกะทิ” เคี่ยวอย่างพิถีพิถันหอมกลิ่นเครื่องยาจีน และ ทำ “น้ำพริกเผา” เอง ใช้เวลาเคี่ยวถึง 7 ชั่วโมง
ถึงคราวร้านเก่าแก่ในตำนานอีกหนึ่งร้าน! กับเมนูอาหารจานเดียวชื่อแปลกหูอย่าง “ข้าวพระรามลงสรง” ถ้าให้พูดกันตรง ๆ วัยรุ่นสายกินอย่างเราอาจจะมีงงงวยกันอยู่บ้าง~ อะไรคือพระราม? อะไรคือลงสรง? วันนี้เราพามาหาคำตอบพร้อม ๆ กันที่ร้านอาหารตลาดบองมาร์เช่ “โอ้ว เหล่ง หยู้” ร้านอาหารต้นตำรับเลื่องชื่อจากสุราษฏร์ธานี ที่ยกครัวมาเปิดให้ชาวกรุงฯ ได้ลิ้มลองกันแล้วถึงถิ่น :)
ร้านอาหารเก่าแก่ “โอ้ว เหล่ง หยู้” มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เตี่ยเป็นลูกค้าประจำร้าน “ซาแต๊ปึ่ง” (ชื่อเดิมของเมนูพระรามลงสรง) และได้สนิทกับพ่อค้าชาวจีนเจ้าของร้าน จึงมีการเรียนรู้สูตรและนำมาปรับสูตรจนได้รสชาติที่ลงตัว หลังจากนั้นจึงเริ่มเปิดกิจกรรมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และเป็นที่รู้จักบอกต่อกันปากต่อปาก เรียกได้ว่าใครมาเยือนสุราษฎร์ฯ ต้องไม่พลาดแวะไปกินดูสักครั้ง
จนปัจจุบันทายาทรุ่นที่สาม ได้ขยับขยายมาเปิดสาขากันที่กรุงเทพฯ ณ ตลาดบองมาร์เช่ ภายใต้ร้านตกแต่งสไตล์จีนสบาย ๆ บรรยากาศน่านั่งเป็นกันเอง พร้อมรับประกันว่ายกสูตรต้นตำรับ 51 ปี จากแดนใต้มาพร้อมเสิร์ฟแบบไม่มีผิดเพี้ยน~
เริ่มต้นกันด้วยพระเอกประจำร้านอย่าง “พระรามหมู” (ธรรมดา 60 พิเศษ 80 บาท) ที่ลูกค้าสั่งปุ๊บ พ่อครัวก็ตั้งน้ำในหม้อให้เดือดพร้อมลวกปั๊บ ใส่ใจทำกันจานต่อจาน! เริ่มจากใส่ผักบุ้งจีนคัดสรรยอดอ่อนลงไปในน้ำเดือด ๆ ลวกให้สะเด็ดแล้วนำมาวางลงบนจาน พร้อมโปะด้วยหมูหมักเนื้อนุ่ม ตามด้วยราดน้ำกะทิหัวใจหลักที่เป็นสูตรเฉพาะ ละมุนไปกับกะทิสดเคี่ยวอย่างพิถีพิถันหอมกลิ่นเครื่องเทศยาจีนเป็นเอกลักษณ์
และห้ามพลาดทีเด็ดความฟิน! กับ “น้ำพริกเผาสูตรต้นตำรับของเตี่ย” ที่เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ทำเองทุกขั้นตอนสดใหม่วันต่อวัน หอมจัดจ้านไม่เหมือนใครด้วยเครื่องแกงสมุนไพรไทย ที่จะมาช่วยชูรสชาติให้เด็ด เผ็ด มัน มากขึ้นกว่าเดิม!
หรือใครจะเลือกสั่งเป็น “พระรามเนื้อ” (ธรรมดา 70 พิเศษ 90 บาท) ก็บอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กัน! นอกจากนั้นสายเฮลตีต้องถูกใจกับ “พระรามปลา” (ธรรมดา 100 พิเศษ 120 บาท) ที่ใช้เนื้อปลากะพงชิ้นใหญ่สดหวาน วางมาให้ตักเข้าปากแน่น ๆ เต็มคำ
หรือจะเป็น “พระรามผัก” (ราคา 60 บาท) ทางร้านก็พร้อมยกเสิร์ฟแบบร้อน ๆ ถึงโต๊ะ แต่ถ้าจะให้โดนแนะนำว่าให้สั่งมากินคู่กับ “ข้าวสวย” (ราคา 10 บาท) ร้อน ๆ สักจาน อิ่มอยู่ท้องยาว ๆ กันไปเลยค่ะ~ โดยเฉพาะข้าวสวยของร้าน “โอ้ว เหล่ง หยู้” แห่งนี้ เขาใช้กรรมวิธีการหุงแบบโบราณ ได้มาซึ่งข้าวเม็ดร่อนไม่ติดกันเป็นเอกลักษณ์!
ฟินจุใจกับพระเอกกันไปแล้ว อย่าลืมเผื่อท้องให้กับอีกหนึ่งเมนูที่โดดเด่นไม่แพ้กันอย่าง “หมูสะเต๊ะ” (ราคาไม้ละ 10 บาท) “ขนมปัง” (ราคาแผ่นละ 15 บาท) กันด้วยนะคะ! รับรองว่าจะต้องตกหลุมความฟินไปกับความนุ่มละมุนของหมูสะเต๊ะที่หมักเครื่องเทศมาจนรสชาตินุ่มชุ่มฉ่ำเข้าเนื้อ ย่างมาส่งกลิ่นหอมฉุย
กินคู่กับ “น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ” สไตล์ปักษ์ใต้รสชาติเข้มข้นทำเอง ที่มีเทกซ์เจอร์ของถั่วลิสงบดหยาบเพิ่มความเคี้ยวกรุบลงตัว พร้อมเพิ่มความหวานละมุนด้วยน้ำตาลมะพร้าว ส่วน “น้ำจิ้มอาจาด” ก็บอกเลยว่าใช่เล่นซะที่ไหน เพราะทางร้านเคี่ยวน้ำอาจาดจนข้นเหมือนน้ำผึ้งเป็นเอกลักษณ์ ซอยหอมแดงเล็ก และพริกขี้หนูสวนลงไปเพิ่มความจัดจ้าน
หากใครอยากมาลิ้มชิมรสพระรามลงสรงสูตรส่งตรงจากสุราษฎร์ธานีดูสักครั้ง แวะมากันได้เลยนะคะที่ร้านอาหารจีน “โอ้ว เหล่ง หยู้” เล้าโอ้วเจ้าเก่า สาขา ตลาดบองมาร์เช่ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 - 18.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : โอ้ว เหล่ง หยู้ หรือโทร 081-834-9117
การเดินทาง
ร้านอาหารจตุจักตร “โอ้ว เหล่ง หยู้” สาขากรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในตลาดบองมาร์เช่ อาคารพลาซา E ห้อง E105/2 กับ ป.15 มีที่จอดรถภายในตลาดให้บริการ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)