วันสบาย ๆ อยากพักผ่อนพักสมองจากงานหนัก ๆ จะไปที่ไหนดีนะ ? ~ วันนี้ทีมงาน Wongnai ภูเก็ต ขอเสนออีกหนึ่งสถานที่ ที่ใครได้ลองแล้วจะต้องติดใจกับ “Public House” โซนอาหารเปิดใหม่ของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ที่มาพร้อมกับบรรยากาศชิลล์ ๆ แบบ Outdoor นั่งกันได้แบบยาว ๆ ไม่มีเบื่อ โดยทีเด็ดของที่นี่คือการรวบรวมร้านอาหารดัง ๆ จากทั่วเกาะภูเก็ตมารวมไว้ถึง 5 ร้าน เรียกว่ามาที่เดียวครบทุกความต้องการ ท้ัง กิน ชิม ช็อป ชิลล์ แบบนี้พลาดไม่ได้แล้วค่ะ!!
“Public House” ตั้งอยู่ ชั้น 1 ของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต จัดเป็นที่นั่งพักทานข้าวแบบสบาย ๆ โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 10.30 น. - 24.00 น. และมีดนตรีสดเล่นทั้งเพลงไทยและเพลงสากลฟังเพลิน ๆ กันทั้งวันจนถึงเที่ยงคืนกันเลย อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ ทุก ๆ เดือน “Public House” จะมีการจัดมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังกันอีกด้วยนะคะ แต่ก่อนจะมาฟินกันที่นี่ เราไปดูกันค่ะ ว่าร้านอาหารแต่ละร้านจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้างตามเราไปดูกันค่ะ
1Kenny Rogers Roasters
“Kenny Rogers Roasters” ร้านอาหารสุดหรูสไตล์ยุโรป มาเปิดที่จังหวัดภูเก็ตเป็นสาขาแรกในประเทศไทยเลยค่ะ โดยที่ร้านจะมีอาหารสไตล์ยุโรปหลากหลายเมนู จุดเด่นคือการปรุงอาหารกันแบบเมนูต่อเมนู และคงรสชาติแบบอาหารยุโรปแท้ ๆ เอาไว้ เพื่อให้ได้เมนูคุณภาพดีพร้อมเสิร์ฟค่ะ
เปิดเมนูแรกของร้านด้วย เมนู “Quarter Chicken Meal” (3 sides + Muffin) (ราคา 140 บาท) ไก่เนื้อแน่นที่หมักซอสและอบจนได้ที่ ทานพร้อมมันบดกับสลัดเข้ากันได้แบบลงตัว อีกเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ เมนู “BBQ Pork Ribs” (ราคา 360 บาท) เรียกว่าเป็นเมนูยอดนิยมที่ขายดีของทางร้านเลยค่ะ ด้วยสูตรการหมักซี่โครงหมูแบบพิเศษของทางร้านที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เนื้อนุ่มชุ่มซอส ที่ละมุนสุดจะบรรยายจนอยากให้มาลองด้วยตัวเองค่ะ
2Pint Factory
“Pint Factory” ต้องบอกว่าร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เครื่องดื่มนำเข้าอย่างเดียวนะคะ แต่อาหารก็เด็ดจนต้องร้องว้าวเช่นกัน ด้วยเมนูอาหารที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งร้านขวัญใจอันดับต้น ๆ ของสาวกเครื่องดื่มนำเข้าและสาย Hangout ทั้งหลายในจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ค่ะ
เริ่มที่เมนูแรกแบบไทย ๆ อย่างเมนู “ผัดไทกุ้งลายเสือ” (ราคา 198 บาท) เส้นผัดไทยนุ่ม ๆ ผัดคลุกเคล้ากับซอสจนเข้ากัน มีพระเอกของเมนูเป็นกุ้งลายเสือสด ๆ ฟินไปเลยค่ะ ส่วนไฮไลต์ของร้านต้องเมนูนี้เลยค่ะ “ขาหมูเยอรมันทอด” (ราคา 498 บาท) ขาหมูชิ้นโต ทอดในน้ำมันร้อน ๆ กรอบทั้งชิ้น โดยทางร้านจะหั่นขาหมูเป็นชิ้นสามารถหยิบทานได้เลย เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้ม 3 รสชาติ ทั้งบราวน์ซอส น้ำจิ้มซีฟู้ด และซอสขาหมู เลือกจิ้มได้ตามสบายค่ะ
3Bamboo Bar & Grill
“Bamboo Bar & Grill” เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งการตกแต่งร้านด้วยไม้ไผ่สีน้ำตาลอ่อนและเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยเมนูอาหารสไตล์อินเดีย ที่ผสมผสานความเป็นไทยได้แบบลงตัว เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของร้านนี้เลยค่ะ
เมนูเด็ดที่อยากนำเสนอคือ เมนู “Half Chicken tandoori” (ราคา 260 บาท) ไก่ครึ่งตัวที่หมักกับกับเครื่องเทศหลากหลายชนิด แล้วนำไปย่างจนสุดได้ที่เสิร์ฟพร้อมซอสมะขามและซอสใบสะระแหน่ ได้รสชาติแปลกใหม่ไปอีกแบบค่ะ อีกเมนูเป็น “Fish Reshmi” (ราคา 340 บาท) ปลาทะเลสด ๆ หมักกับขมิ้นแบบไทย ๆ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก่อนนำไปย่างจนสุก ทั้งสองเมนูทานพร้อมแผ่นแป้งโรตีเข้ากันมาก ๆ ค่ะ
4Piadina
“Piadina” ร้านของหวานที่ได้กลิ่นอายความเป็นอาหารอิตาเลียนแบบสุด ๆ เหมือนยกประเทศอิตาลีมาตั้งไว้ที่นี่เลยค่ะ ด้วยเมนูของหวานที่วัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศอิตาลี ทำให้ได้รสชาติและรูปแบบของอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่ได้ลองแล้วจะต้องติดใจ
เริ่มเมนูแรกด้วยของหวานสุดฟินที่สาวกสตรอว์เบอร์รีต้องห้ามพลาด อย่างเมนู “Nutella Banana Piadina” (ราคา 190 บาท) ของหวานที่ทำจากแป้งจากอิตาลี เติมความฟินด้วยนูเทลล่าและสตรอว์เบอร์รีสด ปิดท้ายด้วยซอสช็อกโกแลตเข้มข้น ตามมาด้วยเมนู “Pancetta + Scamorza (Cheese) + Tomato” (ราคา 220 บาท) ที่วัตถุดิบหลักยังคงเป็นแป้งจากอิตาลี เพิ่มเติมด้วยเบคอนรมควันจากอิตาลี และทีเด็ดคือ Scamorza Cheese เป็นตัวชีสรมควันกลิ่นหอม ยั่วยวนใจสุด ๆ เลยค่ะ
5Phuket Coffee
“Phuket Coffee” ร้านกาแฟธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ด้วยความพิเศษของเครื่องทำกาแฟที่เรียกว่ามีแบบนี้ไม่กี่เครื่องในประเทศไทย และเมล็ดกาแฟชนิดแบบพิเศษของทางร้านทำให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร และที่ร้านยังมีเมนูอีกหลากหลาย ทั้ง ไอศกรีมกะทิ, น้ำผลไม้ปั่น, ไอศกรีมผัด ที่เลือกทานกันได้แบบจุใจ
บอกเลยว่าถ้าไม่ลองทานเมนูนี้ ถือว่าพลาดค่ะ กับเมนู “Phuket Coffee Signature” (ราคา 105 บาท) ด้วยความหอมจากไอศกรีมกะทิสด ที่ผสมผสานกับความนุ่มจากเมล็ดกาแฟคั่วบด ทำให้เกิดรสชาติที่แปลกใหม่ ถึงคนไม่ทานกาแฟก็สามารถทานได้เพราะความนุ่มของรสชาติกาแฟแก้วนี้ ปิดท้ายด้วยเมนูขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กับเมนู “ไอศกรีมผัด” (ราคา 89 บาท) ต้องบอกว่าไอศกรีมผัดของร้านนี้มีรสชาติเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ น่าทานทุกอย่างเลย
ต้องบอกว่าแต่ละร้านเด็ดแบบไม่มีใครยอมใครกันเลย อีกเรื่องที่ต้องบอกว่าเริ่ดสุด ๆ ก็คือลูกค้าที่ทานอาหารในโซน “Public House” ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถเลยค่ะ เพราะใบเสร็จของร้านอาหารครบ 500 บาท สามารถนำไปเพิ่มชั่วโมงจอดรถได้แบบไม่จำกัดชั่วโมงเลยค่ะ สะดวกสบาย พักผ่อนกันได้เต็มที่สุด ๆ ไปเลย และใครที่ได้ลองสัมผัสบรรยากาศและอาหารของที่นี่แล้วก็สามารถถ่ายรูปมาบอกต่อความฟินได้ที่ เพจภูเก็ตหรอยอย่างแรง นะคะ ~
