Riverside Bangkok ล่องเรือภัตตาคารชมวิวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
  1. Riverside Bangkok ล่องเรือภัตตาคารชมวิวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

Riverside Bangkok ล่องเรือภัตตาคารชมวิวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาสัมผัสวิถีชีวิตสองริมฝั่ง เพลิดเพลินกับอาหารไทย-จีนรสละมุนปรุงสดใหม่กันบนเรือภัตตาคารจานต่อจานที่ Riverside Bangkok
writerProfile
17 ธ.ค. 2018 · โดย
Ad ·
สนับสนุนโดย ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
(รายละเอียดเพิ่มเติม)
Video at https://www.facebook.com/Wongnai/videos/1703369083107626/

#วงในบอกมา

  • เรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ 3 ของ Riverside Bangkok เป็นเรือภัตตาคารตามสั่งที่ปรุงอาหารทุกจานสด ๆ กันบนเรือ ถือเป็นเรือภัตตาคารลำแรก ๆ ที่มีครัวบนเรือในน่านน้ำนี้
  • Riverside Bangkok ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นหลัก เรือที่นี่จึงถูกออกแบบมาเป็น "เรือสองท้อง" (Catamaran) นอกจากนี้ยังมีการจัดทริปล่องเรือไปถึงศูนย์ศิลปาชีพบางไทร และกิจกรรมอื่น ๆ มากมายตลอดปี
  •  "เขมรตีลาว" คือ เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นการผสมผสานรสชาติกันระหว่างวัตถุดิบท้องถิ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยชูโรงปลากรอบจากฝั่งเขมร และหน่อไม้จากฝั่งลาว

“เพราะคิดว่าเป็นสิ่งใกล้ตัว เราเลยลืมที่จะใส่ใจ...” เปิดมาแบบนี้ หลายคนคงคิดว่าเกิดปัญหาหัวใจขึ้นอะไรกับกุ๋ยรึเปล่าน้า? แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ กุ๋ยกำลังพูดถึงแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของประเทศไทยเรายังไงล่ะ เพราะมากกว่าเป็นที่รวมกันของแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน ตามที่เราได้เรียนกันมา แม่น้ำพระเจ้ายายังเต็มไปด้วยประวัติและเรื่องราวซุกซ่อนอยู่ริมสองฝั่ง และคงไม่มีอะไรเข้าถึงแม่น้ำเจ้าพระยาได้มากกว่าการการล่องเรือภัตตาคาร จริงไหม? กุ๋ยเลยขอพาทุกคนไปล่อง เรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ ของโรงแรม Riverside Bangkok ตั้งอยู่เชิงสะพานซังฮี้ ซอยราชวิถี 21 เปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปีเลยล่ะ

เรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์
เรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ 3 ลำนี้แหละที่จะทำหน้าที่พาทุกคนล่องตามแม่น้ำ ตั้งแต่สะพานพระรามแปดจนถึงเอเชียทีค

เรือจอดเทียบท่าอยู่ริมน้ำ สายลมเย็น ๆ เวลาหนึ่งทุ่มแบบนี้ช่วยปลดปล่อยอารมณ์ทิ้งไว้บนบก พร้อมจะสราญใจไปกับสายน้ำในตลอดสองชั่วโมงต่อจากนี้ เรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ 3 จุคนได้ถึง 1,200 คน นอกจากความใหญ่มโหฬาร ที่นี้ยังใส่ใจเรื่องความปลอดภัยสุด ๆ เพราะเป็นเรือสองท้อง หรือที่เรียกว่า “Catamaran” รับประกันเรื่องสมดุลหมดกังวลเรื่องอุบัติเหตุ เรียกได้ว่ายืนแอ๊คท่าถ่ายรูปสวย ๆ แบบแจ็กโรสในเวอร์ชันไม่กลัวเรือล่มให้เพื่อนในไอจีอิจฉาเล่นได้เพลิน ๆ

Riverside Bangkok
ดาดฟ้าเรือแบบ Open air กินอาหารฟิน ๆ กินบรรยากาศเพลิน ๆ
Riverside Bangkok
ชั้นล่างขอบันเทิงด้วยดนตรีสดจังหวะโจ๊ะ ๆ เหมาะกับสายแดนซ์ผู้มีใจรักในเสียงเพลง

ถ่ายรูปกันจนหนำใจได้ไม่นาน สองทุ่มเป๊ะ เรือก็ค่อยๆ แล่นออกจากท่าริเวอร์ไซด์ พร้อมกันนั้นอาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟ “เขมรตีลาว” (220 บาท) แค่ชื่อก็ต้องสั่งแล้ว เพราะคนไทยอย่างกุ๋ยสงสัยจริงๆ ว่าการรวมกันของสองประเทศเพื่อนบ้านเรานี้จะรสชาติชวนถวิลหาขนาดไหน ที่มาของชื่อเมนูมาจากแหล่งของวัตถุดิบคือ หน่อไม้จากลาวและปลากรอบจากเขมร นำมาปรุงรสแบบเมี่ยง ก่อนกินก็ตักทุกอย่างห่อด้วยใบคะน้า จัดให้หนึ่งคำมีครบทุกองค์ประกอบ ความเข้ากันได้ดีของรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ของทั้งฝั่งลาวและเขมร ถูกชูโรงรสชาติให้เด่นชัดขึ้นด้วยความมันออกขมนิด ๆ ของใบคะน้า ตัดความเลี่ยนระหว่างเคี้ยวด้วยมะม่วงสับ เป็นทุกคำที่คนไทยอย่างกุ๋ยขอพยักหน้าหงึกๆ ด้วยความพอใจ

Riverside Bangkok
เขมรตีลาว เมนูผสมผสานวัตถุดิบของสองประเทศเพื่อนบ้าน
“เขมรตีลาว”
ครบรส เปรี้ยว หวาน มัน หอมกลิ่นสมุนไพรจัดครบทุกองค์ประกอบในหนึ่งคำ

ต่อกันที่ “ปูในกระชัง” (220 บาท) เนื้อกรรเชียงปูม้าสด ๆ ปั้นผสมกับเนื้อกุ้ง และหมู ปรุงรสก่อนนำไปทอดให้ได้สีเหลืองทองอร่าม กรอบแต่ไม่อมน้ำมัน กัดไปแต่ละคำรู้สึกถึงเนื้อปูเน้น ๆ เนื้อกุ้งล้วน ๆ แข่งกันเต้นระบำดึ๋งดั๋งเด้งสู้ฟันกันอยู่ในปาก ยิ่งได้จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยเปรี้ยวอมหวานด้วยแล้ว ขอปรบมือให้กับทุกความลงตัวของจานนี้

“ปูในกระชัง” (220 บาท)
ปูในกระชังจัดเสิร์ฟในกระเช้ารังนก น่ารักน่าเอ็นดู :)
“ปูในกระชัง” (220 บาท)
เนื้อกรรเชียงปูบดผสมกุ้งทอดกรอบ จิ้มน้ำบ๊วยรสกลมกล่อม

เพลินปากมันได้ไม่นาน เหลือบขึ้นมาชมวิวอีกครั้งก็ได้แต่เอามือทาบอกร้องบอก “คุณพระ..” ความห่างของเรือริเวอร์ไซด์ 3 กับสะพานพุทธยอดฟ้าข้างหน้า มันข่างหมิ่นเหม่ให้หัวใจได้ออกกำลังกายเสียเหลือเกิน คาดคะเนด้วยสายตาไม่แน่ใจเลยว่าจะลอดผ่านไหม เสียงพนักงานขอให้ทุกคนนั่งลงกับที่ ณ ชั่วขณะหนึ่งที่เรือแล่นผ่าน กุ๋ยถึงกับต้องกลั้นหายใจ เสียง เฮ ดังขึ้น เมื่อเรือลอดพ้นสะพาน กุ๋ยหันไปยิ้มกับโต๊ะข้าง ๆ ประหนึ่งเราได้ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมามากในสามสิบวินาทีนั้น!

Riverside bangkok
บรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำ เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์รอให้ทุกคนไปสัมผัส

ก้มลงไปกินกันต่อกับเมนูโปรดของกุ๋ย เรียกได้ว่าไปสิบร้านสั่งมันทุกร้าน “ปลากะพงทอดซอสน้ำปลา” (450 บาท) ที่นี้เลือกใช้ปลากะพงไซส์ 7-8 ขีด กำลังกินเพราะเนื้อปลาจะมีความสด แน่น ไม่แข็งกระด้าง ทอดแล้วกรอบนอกนุ่มใน ราดน้ำปลาฉ่าน้ำมันให้ซึมเข้าเนื้อ ถูกต้องตามแบบฉบับที่ปลากะพงทอดซอสน้ำปลาสมควรจะเป็น ก่อนกินอย่าลืมตักยำมะม่วงมาราดบนชิ้นปลาพอให้ขลุกขลิก ความเปรี้ยวอมหวานของยำมะม่วงเข้ากับความเค็มของซอสน้ำปลากำลังพอดี

ปลากะพงทอดซอสน้ำปลา
ปลากะพงคัดไซส์ให้ได้น้ำหนักกำลังกิน ราดซอสน้ำปลาหอมละมุน เนื้อสดไม่คาวเลย!

ไม่หยุดแค่ปลากะพงหรอกจะบอกให้ “กุ้งก้ามกรามแปดรส” (280 บาท) เนื้อกุ้งแม่น้ำตัวโตจากสุพรรณบุรีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปทอดพอให้สะดุ้งน้ำมัน แล้วนำมาผัดรวนรวมกับผักแปดอย่าง ทั้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ พุทราจีน เกาลัดแห้ง แปะก๊วย ฯลฯ กินรวมกันได้ทั้งความสดเด้งจากเนื้อกุ้ง และความกรุบกรอบของผักกับถั่วหลากชนิด

กุ้งก้ามกรามแปดรส
เนื้อกุ้งเด้งหวาน กินคู่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กรุบกรอบเกินกว่าจะบรรยาย

เอ๊ะ! นั้นใครสั่งน้ำมะพร้าวมากันน้า ยกมาตั้งทั้งลูก ดูชัด ๆ อีกทีมันคือ “ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน” (200 บาท) พริกแกงแดงตำเองหอมกลิ่นข่าตะไคร้ ผัดกับหัวกะทิจนแตกมันได้สีส้มสวย จัดเต็มกับสารพัดซีฟู้ด แบบขนกันมาทั้งทะเล ทีเด็ดคือหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวใหญ่ เนื้ออวบ ตักทุกอย่างใส่ลูกมะพร้าวอ่อนก่อนนำไปนึ่ง ให้กลิ่นหอมของมะพร้าวอ่อนอบอวลอยู่ในทุกคำที่ตักเข้าปาก

“ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน”
ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน หอมอวลกลิ่นกะทิ
“ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน”
จัดเต็มกับซีฟู้ดชิ้นใหญ่เบิ้ม

อิ่มเอมทั้งกับอาหารตรงหน้าและบรรยากาศรอบตัว รวมเวลากว่า 2 ชั่วโมงบนเรือภัตตาคารลำนี้ บรรยากาศสุดคลาสสิกทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมกรุงเทพฯ ถึงได้ชื่อว่า “เวนิชตะวันออก” เพราะวิถีชีวิตการสัญจรของคนไทยผูกพันเกี่ยวโยงไว้กับแม่น้ำเจ้าพระยามาเนิ่นนาน ถึงเวลาจ่ายเงินอาหารมื้อนี้ แม้จะอยู่บนเรือกลางแม่น้ำก็ไม่ต้องห่วงเรื่องพกเงินมาไม่พอ หรือหาที่กดเงินไม่ได้ เพราะทาง Riverside Bangkok เขาปรับตัวไว เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบัน กับสังคมไร้เงินสด เพียงสแกน QR Code แม่มณี จาก SCB ก็ชำระค่าอาหารมื้อนี้ได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกลัวจะโดนขังไว้บนเรือ

SCB
ชีวิตดี๊ดี เพราะมีแม่มณี ใช้จ่ายสะดวกง่ายไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในเรือก็ไร้ปัญหา

สุดท้ายแล้วกุ๋ยคิดไม่ผิดเลยที่เลือกจะสัมผัสวิถีชีวิตของริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไปกับเรือภัตตาคารริเวอร์ไซด์ การได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของสถาปัตยกรรมสวย ๆ หรือบ้านเรือนสมัยโบราณที่ อู้หูว..ทุกครั้งที่เห็น จากไกด์ประจำเรือผู้คอยสอดแทรกเกร็ดความรู้สนุก ๆ ไว้ตลอดทาง บวกกับอาหารรสชาติถูกปาก และแอร์ธรรมชาติจากลมแม่น้ำแล้ว ยิ่งทำให้มื้อนี้เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

โปรโมชั่น

สำหรับค่าขึ้นเรือเพียงคนละ 180 บาท จากปกติ 250 บาท หากยกแก๊งมาครบ 4 คนพิเศษคนละ 150 บาท ยิ่งไปกว่านั้นรวมพลมาทั้งครอบครัวเพื่อนสนิทมิตรสหาย 10 คนขึ้นไปทาง Riverside Bangkok มอบส่วนลดค่าอาหารให้อีก 10% เรียกได้ว่า The more, the merrier. ที่แท้ทรูสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นอื่นๆ ได้ที่ Facebook 

การเดินทาง

อยากนั่งเรือภัตตาคารชมวิวแบบจบครบทุกแลนมาร์กในแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ ไม่ยากเลยค่ะ โรงแรม Riverside Bangkok อยู่ในซอยราชวิถี 21 เชิงสะพานซังฮี้ เข้าซอยมาจะอยู่ก่อนถึงวัดภคินีนาถ โรงแรมสูงๆ มีตัว R เป็นโลโก้เด่น ๆ มีที่จอดรถหน้าโรงแรมสะดวกเรียบร้อย หรือจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถแท็กซี่ประมาณ 20-35 นาทีก็ได้เช่นกัน โดยเรือภัตตาคารตามสั่ง หรือ เรือริเวอร์ไซด์ 3 จะให้ขึ้นเรือได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. และเรือจะออกจากท่าเวลา 20.00 น. 

เมนูห้ามพลาด

เขมรตีลาว, ปลากะพงทอดซอสน้ำปลา, กุ้มก้ามกรามแปดรส
คุณอภิชาติ พัชรภิญโญพงศ์
$OWNER'S MESSAGE
คุณอภิชาติ พัชรภิญโญพงศ์
Owner
“Riverside Bangkok ขอเชิญชวนทุกคนให้มาสัมผัสวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านการล่องเรือภัตตาคารในบรรยากาศสุดผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายเมนู ที่เราพร้อมเต็มใจให้บริการ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ SCB ตลอดระยะเวลาเจ็ดแปดปีที่ผ่านมา SCB ให้คำปรึกษาในด้านธุรกิจ และมี product ต่าง ๆ มาแนะนำให้เราปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเสมอ อย่างการชำระเงินผ่านการสแกน QR code แม่มณี ก็ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่เป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณทาง SCB ที่ให้โอกาสเราเข้าร่วมโครงการนี้”

แผนที่

static-map