#วงในบอกมา
- ทางร้านอาหารบรรยากาศดี “ร่มไม้ริมนา” พร้อมให้บริการด้วยพื้นที่ตัวร้านอาหารกว่า 8 ไร่ 3 โซน คือโซนห้องแอร์, โซนริมทุ่ง และโซนริมนา อีกทั้งสามารถชมวิวทุ่งนาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตามากกว่า 50 ไร่
- ความพิเศษที่ลูกค้าหลายคนชื่นชอบคือ สามารถร้องคาราโอเกะบนเวทีกลางแจ้งฟรี!
- เมนูแนะนำและขายดีตลอดกาล “กบทอดน้ำปลา” มั่นใจได้ในความสะอาด เพราะส่งตรงจากฟาร์มกบเลี้ยงเองของทางร้านโดยเฉพาะ!
หลบหลีกตึกระฟ้าและการจราจรในตัวเมืองมาพักผ่อนสายตา มุ่งหาความชิลล์กับบรรยากาศทุ่งนาเขียวขจีกว่า 50 ไร่ ที่ร้านอาหารบรรยากาศดี “ร่มไม้ริมนา” ร้านอาหารพุทธมณฑลสาย 5 พร้อมอาหารไทยขนานแท้สูตรคุณแม่และเมนูอันเลื่องชื่อ “กบทอดน้ำปลา” จากฟาร์มที่ทางร้านเลี้ยงเองโดยเฉพาะ พร้อมแล้วรีบคว้าหมวกสานคู่ใจ กล้องคู่หู และเคลียร์กระเพาะไปผ่อนคลายบรรยากาศให้อิ่มใจแถมยังอิ่มท้องกันแบบใกล้กรุงเทพฯ กันดีกว่า :)
หากถามว่าทำไมชื่อถึงร้านอาหารครอบครัว “ร่มไม้ริมนา” คุณเดชสิริ นิลประดับ เจ้าของร้านได้เล่าให้ฟังว่าอยากเป็นกันเองว่า มาจากธรรมชาติรอบตัวล้วน ๆ เพราะแต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นทุ่งนา โดยตนและครอบครัวมองว่าเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่ง่าย ๆ มองแล้วสบายตา คงจะดีไม่น้อยหากคนในกรุงเทพฯ ได้มาชมวิวทิวทัศน์แบบนี้ และได้กินอาหารรสชาติดีที่ตกทอดมาจากคุณแม่ จึงเริ่มเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด จากนั้นจึงขยายเป็นร้านอาหารครอบครัว พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูที่ครบครันทุกความต้องการกว่า 100 เมนู จากวันนั้นจนวันนี้ทางร้านเปิดมายาวนานกว่า 15 ปี ที่สำคัญคุณแม่ก็ยังไม่วางมือค่ะ มีการพัฒนาสูตรเรื่อย ๆ และหากลูกค้าต้องการกินเมนูใดเป็นพิเศษก็สามารถสั่งให้ทำได้อีกด้วย
เปิดกันด้วยเมนูสูตรเฉพาะที่คุณแม่คิดค้นร่วมกับคนจีน โดยสูตรนี้ใช้มายาวนานกว่า 14 ปี เป็นสูตรเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนกับเมนู “เป็ดพะโล้” (ครึ่งตัว 180 บาท, ตัวละ 360 บาท) จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคือเครื่องปรุงสูตรพิเศษที่ทำให้กลิ่นคาวหายไป รสชาติไม่เค็ม ไม่ติดหวาน แต่กลมกล่อมและหอมเครื่องเทศในตัว ที่สำคัญยังเลือกใช้แต่เป็ดไซซ์ 2.5 กก. เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว ไม่กระด้าง จิ้มคู่กันกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว เรียกได้ว่าเชื่อแล้วล่ะค่ะว่าทำไมถึงขายดีมายาวนานขนาดนี้!
ต่อด้วยอีกเมนูขายดีที่แทบทุกโต๊ะต้องสั่ง! “กบทอดน้ำปลา” (200 บาท) โดยกบของทางร้านจะเป็นไซซ์ 3 ตัว หนัก 1.2 กก. ส่งตรงจากฟาร์มเลี้ยงของทางร้านเองทั้งหมด ดังนั้นมั่นใจได้ในความสด อีกทั้งรสชาติที่ปรุงได้นัวและกลมกล่อมจนแทบไม่ต้องจิ้มซอสใด ๆ
มากันที่เมนูไทย ๆ เครื่องแน่น “แกงเขียวหวานปู” (350 บาท) นอกจากจะโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมชวนกินของเครื่องแกงแล้ว ต้องบอกเลยว่าปูก้อนที่ให้มาแบบไม่กั๊กเนื้อแน่น ชิ้นใหญ่ เต็มปากเต็มคำสุด ๆ อีกทั้งสูตรเฉพาะของทางร้านคือการใส่เห็ดเผาะเพิ่มความกรุบ เวลากินรสสัมผัสแรกจึงรับรู้ได้ถึงความมันกะทิและรสชาติพริกแกงที่แตกซ่านไปทั่วปาก ถือเป็นอีกเมนูที่แนะนำว่าต้องลองให้ได้เลยค่ะ
“เมี่ยงปลากะพง” (320 บาท) ทางร้านคัดสรรปลากะพงไซซ์ 8 - 9 ขีด จากนั้นนำไปทอดจนสีเหลืองนวล จัดจาน เสิร์ฟคู่เครื่องเคียง, ใบชะพลู, พริก, ขิง และหอมแดง จากนั้นคลุกเคล้ากับน้ำเมี่ยงที่ปรุงมา เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว
“ปลาคังผัดฉ่า” (180 บาท) สำหรับจานนี้คนที่ชอบรสชาติจัดจ้านจะต้องถูกใจ อีกทั้งหลงรักกลิ่นหอมสมุนไพร อาทิ กระชาย, ใบมะกรูด และพริกไทยดำ นอกจากรสชาติและกลิ่นหอม ๆ เป็นเอกลักษณ์ ที่ประทับใจคือตัวปลาคังไม่คาวเลยค่ะ กินคำแรกแล้วหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว
หลังจากกินมาจนเกือบอิ่ม ขอซดอะไรร้อน ๆ “แกงส้มไหลบัวกุ้งใหญ่” (350 บาท) ความขึ้นชื่อของเมนูนี้คือเรื่องความเข้มข้นของแกงส้มที่แน่นด้วยเครื่องและรสชาติ เผ็ด เปรี้ยว หวาน ลงตัวกันได้อย่างพอดี ยิ่งกินคู่กับยอดไหลบัวอ่อนบอกเลยว่าเข้ากันดีสุด ๆ ที่สำคัญความแกรนด์ของเมนูนี้คือกุ้งแม่น้ำไซซ์ใหญ่ ที่เน้นมันกุ้งเยิ้ม ๆ โดยทางร้านบอกว่ายิ่งมันกุ้งเท่าไร ความนัวของแกงส้มก็จะมากขึ้นเท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะเพราะวันนี้ซดน้ำแกงส้มจนแทบแห้งเลยล่ะ
ถือเป็นอีกหนึ่งวันดี ๆ ที่สร้างได้อย่างง่ายดาย เพราะเพียงขับรถออกจากตัวเมืองมาไม่ถึงชั่วโมง ก็ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมพักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยทิวทัศน์ของท้องทุ่งนาสีเขียว อีกทั้งเต็มอิ่มกับอาหารรสชาติไทยสุดเข้มข้น แบบนี้มิตรรักแฟนเพจ Wongnai ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ตามมากันได้เลยที่ร้านอาหารพุทธมณฑลสาย 5 “ร่มไม้ริมนา” ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 - 22:00 น.เลยจ้า
การเดินทาง
ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศท้องทุ่งพร้อมลิ้มลองอาหารไทยสูตรคุณแม่ที่ร้านอาหารบรรยากาศดี “ร่มไม้ริมนา” สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว โดยทางร้านมีบริการที่จอดรถให้ค่ะ
