#วงในบอกมา
- ทางร้านเน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชัน เกาหลี-ไทย ที่สื่อถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเกาหลีกับไทย ได้อย่างลงตัว
- อาหารเกือบทุกเมนูของทางร้าน มักจะใช้ “ยูจา” ผลไม้ที่มากด้วยคุณประโยชน์ เป็นส่วนผสมแทรกเข้าไปด้วย เนื่องจากประโยชน์ของยูจามีเยอะ อาทิ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และบรรเทาอาการเครียด ที่สำคัญช่วยเพิ่มรสชาติอาหารได้ดี โดยทางร้านเอามาทำเป็น “Yellow Light Sauce” (ซอสยูจา) ให้กินกับเมนูอื่น ๆ
- เมนู “ทุมบาพาสต้า” ใช้เวลาทำซอสต้นหอมถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว!
อันยองฮาเซโย ~ :D ขอทักทายเป็นภาษาเกาหลีกันสักหน่อยค่ะ เพราะวันนี้แพรจะพาทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศและลิ้มรสชาติอาหารเกาหลี แบบไม่ต้องแย่งใครจองตั๋วเครื่องบิน ที่ร้านอาหารเกาหลี “Seoul Light” รับรองว่ากินคำแรกจะต้องรู้สึกเหมือนได้วาร์ปไปกรุงโซล ประเทศเกาหลีเลยล่ะค่ะ พร้อมแล้วก็ตามมากันเลยค่า

ร้าน “Seoul Light” ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ Bistro และ Bar น้องใหม่ย่านนราธิวาสราชนครินทร์ โดยทางร้านเพิ่งเปิดมาได้เพียง 2 เดือน แต่บอกเลยว่าเริ่มมีลูกค้าประจำแล้วนะจ๊ะ เพราะที่นี่โดดเด่นด้วยการประยุกต์รสชาติอาหารบนรากฐานของความเป็นเกาหลีสูตรต้นตำรับ ให้ออกมาได้รสชาติสุดกลมกล่อมถูกปากคนไทย และบรรยากาศชิลล์ ๆ ที่จะนั่งจิบเครื่องดื่มเบา ๆ ก็เหมาะ จึงทำให้ร้านนี้เข้าไปอยู่ในอ้อมอกใจทุกคนได้ไม่ยาก

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โดยมีคอนเซปต์ที่อยากแสดงให้เห็นถึง แสง สี เสียง ในกรุงโซล อันมาจากชื่อร้าน “Seoul Light” จึงใช้ตู้คอนเทนเนอร์สีสันสดใส และการจำลองร้านเป็นสถานีรถไฟ มีป้ายบอกสถานีต่าง ๆ สื่อถึงการส่งตรงวัตถุดิบจากเกาหลีสู่มือคุณ นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กระถางต้นไม้จากหลอดไฟ ที่ซ่อนตามมุมต่าง ๆ ของร้าน บอกเลยค่ะว่าทุกมุมในร้านแสดงให้เห็นถึงการใส่ใจรายละเอียดแบบสุด ๆ

เพลิดเพลินกับบรรยากาศไปแล้วมาเริ่มที่อาหารกันดีกว่า อาหารทุกเมนูของทางร้านเน้นเสิร์ฟเป็นอาหารสไตล์ฟิวชันที่เป็นการผสมผสานระหว่าง อาหารเกาหลี จีน ไทย ทำโดยเชฟชาวเกาหลี และยืนพื้นด้วยสูตรดั้งเดิมจากเกาหลี เริ่มกันที่เมนูแนะนำของร้าน “หมูสามชั้นซอสยูจา” (330 บาท) หมูสามชั้นกริลล์พร้อมเห็ดและซอสยูจาสูตรเฉพาะ เสิร์ฟมาคู่กับสลัดเกาหลี โดยทางร้านนำเข้ายูจาจากเกาหลีเดือนละครั้ง ที่สำคัญรสชาติเค็มปนหวาน กินเพลินสุด ๆ


ต่อกันด้วย “ทุมบาพาสต้า” (300 บาท) โดดเด่นด้วยการ์ลิกครีมซอส อีกทั้งมาเต็มด้วย กุ้ง เนื้อปู และเห็ด จานนี้บอกเลยว่าไม่เลี่ยนเลยนะจ๊ะ แถมยังมีความเผ็ดเบา ๆ จากต้นหอมที่ทางร้านกระซิบมาว่า ใช้เวลาทำซอสต้นหอมถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว!


“ซุปกิมจิชิเก” (200 บาท) เพิ่มความลื่นคอด้วยการซดซุปสุดเข้มข้นด้วยพริกเกาหลีร้อน ๆ ในซุปมีหมูและเต้าหู้สุดนุ่มนิ่มมาด้วย กินพร้อมกันแล้วเข้ากันดีสุด ๆ บอกเลยว่าถ้วยนี้เอาไปเลย 10 10 10!


“ไก่ทอดยูริงกิ” (300 บาท) เมนูฟิวชันระหว่างเกาหลีและจีน โดยยังคงใช้ซอสยูจาในการปรุง อีกทั้งเมนูนี้ทางร้านยังใช้พริกของไทย ผสมกับพริกเกาหลีอีกด้วย จึงทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดเปรี้ยว ลงตัวสุด ๆ กี่ชิ้นก็เกลี้ยงจ้า

ถ้ามากันยกแก๊ง แนะนำให้จัดมาเป็นเซตใหญ่กับ “โซลไลต์ซี่โครงราดชีส” (650 บาท) ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ที่ปรุงมาด้วยซอสสูตรโกชูจัง กินคู่ชีสอุ่น ๆ คือฟิน นอกจากนี้ภายในเซตยังจัดหนักด้วยไข่ เกี๊ยวซ่า วุ้นเส้นทอด กิมจิ เฟรนช์ฟรายส์ และหมูห่อสาหร่าย บอกเลยว่าเซตนี้คุ้ม!


ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มสุดเก๋ไก๋ “Blue Lemon” (120 บาท) บอกเลยว่าน่าอัปรูปลงโซเชียลมาก ๆ ทั้งสีสันของตัวเครื่องดื่มและความคูลที่เสิร์ฟมาในหลอดไฟสุดชิก ที่สำคัญดื่มเสร็จก็สามารถนำแก้วกลับบ้านได้อีกด้วย หูยยย บอกเลยว่าคุ้ม!

อ่านมาถึงตรงนี้คงอยากมาลองกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ สำหรับอาหารฟิวชันในรูปแบบการประยุกต์ของอาหารเกาหลี ใครเป็นสายเกา หรือชอบกินอาหารเกาหลี บอกเลยว่าห้ามพลาด มากันได้เลยค่ะที่ร้าน “Seoul Light” ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:00 - 00:00 น. เลยค่า :)
การเดินทาง
ร้าน “Seoul Light” ตั้งอยู่ที่ 201/1 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ กรุงเทพฯ ขับรถยนต์มาเลยแยกไฟแดง แล้วชิดซ้าย ชะลอนิดหนึ่ง ร้านตั้งอยู่ติดริมถนนเลยค่ะ